ข้อมูลจาก Priceza ระบุว่าธุรกิจธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มูลค่าในปี 2020 มีมูลค่าโตสูงถึง 294,000 ล้านบาท โดยสินค้ากลุ่มแฟชั่นถูกจัดว่าขายดีเป็นอันดับสองในสัดส่วน 14.63% ซึ่ง “ระวิภา” (RAVIPA) นับเป็นแบรนด์เครื่องประดับสัญชาติไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้เติบโตสูงขึ้นถึง 2,000% ซึ่งเป็นรายได้จากการขายในช่องทางอีคอมเมิร์ซทั้งสิ้น
นางสาวธนิสา วีระศักดิ์ศรี ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ “ระวิภา” (RAVIPA) กล่าวถึงแนวคิดหลักในการบริหารธุรกิจในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ว่า “ถ้ามองภาพรวมของตลาดเครื่องประดับของประเทศไทยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ หลายคนจะมองว่าเครื่องประดับเป็นของฟุ่มเฟือยที่ไม่อยากลงทุน ดังนั้นโจทย์ของเราคือต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ตของผู้บริโภค จากของฟุ่มเฟือยให้กลายเป็นของจำเป็น และเป็นสิ่งที่ต้องใส่ติดตัว เราเลยตัดสินใจทำคอลเลกชั่นสร้อยข้อมือศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้กับทุกคน และยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ที่สวยงาม สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันได้”
สำหรับ “ระวิภา” (RAVIPA) เป็นแบรนด์เครื่องประดับที่ก่อตั้งมาแล้ว 8 ปี ภายใต้แนวคิดที่ว่า“เครื่องประดับดีไซน์สวยเหมาะสำหรับเป็นของขวัญแทนใจให้คุณ และคนพิเศษ ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกวัน” สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือมากประสบการณ์ โดยการันตีคุณภาพจากรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมระดับประเทศ Design Excellence Award 2019 (DEmark Award) โดยใช้วัสดุเงินแท้ 92.5% ถักด้วยเชือกสั่งทำพิเศษที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และพลอยแท้ คัดสรรจากทั่วทุกมุมโลก
โดยมีคอลเลกชั่นสร้างชื่อคือ “ระวิภา รีมายเดอร์” (RAVIPA Reminder) สร้อยข้อมือเสริมความโชคดีในแต่ละด้าน ที่มาในรูปแบบของสร้อยข้อมือเชือก ประดับด้วยองค์เทพเจ้าที่มาพร้อมกับสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ อาทิ เจ้าแม่กวนอิม ช่วยเรื่องเมตตามหานิยม เจรจาเป็นเลิศ เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ผู้คนเอ็นดูรักใคร่ช่วยเหลือ, เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย ช่วยนำพาเงินทองไหลมาเทมา เจรจาค้าขายไหลลื่น, องค์พระพิฆเนศ มหาเทพแห่งปัญญา และความคิดสร้างสรรค์, องค์พระสีวลี เทพแห่งโชคลาภ, องค์พระตรีมูรติ เทพแห่งความรัก ที่ช่วยเรื่องความรักให้สุขสมหวัง มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น เกิดความรักใคร่เอ็นดู และอีกมากมาย ที่ช่วยเสริมให้ชีวิตราบรื่น มีสิริมงคลทั้งด้านความรัก การงาน การเงิน การเรียน และความสำเร็จ
โดยหลังจากเปิดตัวคอลเลกชั่น “ระวิภา รีมายเดอร์” (RAVIPA Reminder) หรือ สร้อยข้อมือศักดิ์สิทธิ์ ได้เพียงไม่นาน ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากเหล่าคนดังทั่วทุกวงการที่เลือกสวมใส่สร้อยข้อมือศักดิ์สิทธิ์นี้ อาทิ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร, ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, โบว์-เมลดา สุศรี, หมอเจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์, กอล์ฟ - พิชญะ นิธิไพศาลกุล, ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล และมินนี่ (G)I-DLE ซึ่ง “ระวิภา” (RAVIPA) ก็ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากอีกครั้ง เมื่อไอดอลชื่อดังระดับโลกอย่าง “ลิซ่า BLACKPINK” ได้สวมใส่เครื่องประดับจากคอลเลกชั่นดังกล่าว ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์ “ระวิภา” (RAVIPA) สามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่ไม่ใช่เพียงในประเทศเท่านั้น แต่แบรนด์ได้กลายเป็นที่รู้จักในระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว
โดยจะเห็นได้ว่าการที่มี Influencer ผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคหันมาใช้ของจากทางแบรนด์นั้น สามารถสร้างยอดขาย และทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับกลยุทธ์ของทางแบรนด์ที่มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์โควิด-19
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของ “ระวิภา” (RAVIPA) นั้นประกอบไปด้วย 5 แกนหลักด้วยกัน ได้แก่ Direct to Consumer มุ่งการขายสู่ออนไลน์เต็มรูปแบบ เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่
Sincerity ความจริงใจต่อลูกค้า สำหรับ “ระวิภา” (RAVIPA) ความจริงใจที่มีเริ่มตั้งแต่ขั้
Empathy ความเข้าใจลูกค้า พนักงานทุกคนจะต้องถูกเทรนด์ให้
Word of Mouth การตลาดที่ได้ผลดีที่สุด และใช้งบน้อยที่สุด โดย “ระวิภา” (RAVIPA) เผยว่า กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสร้อยข้
การตลาดแบบ Omni Channel คือผสมผสานช่องทางการขายทั้
สำหรับอนาคต “ระวิภา” (RAVIPA) ตั้งเป้าไว้ว่าในปีหน้าจะบุ