กระทรวงท่องเที่ยวชงเพิ่ม7จังหวัดพื้นที่นำร่องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว

26 ส.ค. 2564 | 04:01 น.

กระทรวงการท่องเที่ยวฯชงเพิ่ม 7 จังหวัดขยายพื้นที่นำร่องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โฟกัสภาคตะวันออก-อีสาน ทยอยเปิดพื้นที่นำร่องเดิมใน 5 จังหวัด โดยชลบุรี เชียงใหม่ขยับเป็นต.ค.นี้ พร้อมกรุงเทพ หัวหิน ชะอำ มั่นใจมีวัคซีนกระจายฉีดในพื้นที่เปิดเมืองเพิ่มขึ้น

แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว นอกจากพื้นที่นำร่องเดิมที่ได้ประกาศไปแล้วใน 10 จังหวัดนำร่อง ล่าสุดกระทรวงท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) อยู่ระหว่างการเตรียมแผนเสนอพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมที่จะผลักดันให้เปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 7 จังหวัด เน้นไปที่ภาคตะวันออก และภาคอีสาน

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ขณะนี้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)อยู่ระหว่างหารือเพื่อเตรียมเสนอแผนเปิดพื้นที่นำร่องเพิ่มเติม สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยจะผลักดันให้เพิ่มพื้นที่นำร่องใหม่ใน 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด, ระยอง ,จันทบุรี ซึ่งมองพื้นที่เกาะเป็นหลัก อาทิ เกาะช้าง เกาะกูด เกาะมันนอก จ.ตราด เกาะเสม็ด จ.ระยอง รวมถึงบึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

 

ภายใต้เงื่อนไขประชากรในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า 70% จำนวนการติดเชื้อในพื้นที่ และในแต่ละจังหวัดต้องร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัดไปทำมาตรการและแนวทางปฏิบัติ (SOP) ขึ้นมาว่าพร้อมจะเปิดในพื้นที่ใด ซึ่งรูปแบบของ SOP ก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพื้นที่ เพื่อเตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป โดยเราหวังว่าพื้นที่นำร่องใหม่ในอีก 7 จังหวัดดังกล่าวจะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนต.ค.นี้

 

ขณะที่พื้นที่นำร่องใน 10 จังหวัดที่ประกาศออกไปแล้ว ก็อยู่ระหว่างเตรียมการเปิดรับนักท่องเที่ยวปัจจุบันจะเหลือ 9  จังหวัดเนื่องจากตัดจังหวัดบุรีรัมย์ออกไป เพราะเลื่อนจัดแข่งขันโมโตจีพี โดยที่เปิดไปแล้ว คือ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัสโมเดล ล่าสุดเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7 Phuket Extension) ทำให้มีการเปิดพื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.กระบี่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา รับนักท่องเที่ยวแล้ว

กระทรวงท่องเที่ยวชงเพิ่ม7จังหวัดพื้นที่นำร่องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว

 

แต่ก็ยังเหลือในพื้นที่อื่นๆที่เดิมบางพื้นที่จะเริ่มในเดือนก.ย.นี้ เช่น ชลบุรี (พัทยา,สัตหีบ) เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) แต่ด้วยการติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ก็น่าจะผลักดันให้เปิดได้ขยับไปเป็นวันที่ 1 ต.ค.นี้แทน ซึ่งก็เป็นไทม์ไลน์เดียวกับที่มองว่าจะเปิดกรุงเทพฯ, เพชรบุรี (ชะอำ), ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)

 

พื้นที่นำร่องเปิดประเทศ10จังหวัด

“การฉีดวัคซีนในไทยหลังจากนี้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังนายกรัฐมนตรีเจรจาที่จะให้แอสตร้าเซนเนก้าส่งมอบวัคซีนให้ไทย 61 ล้านโดสได้แล้ว และแผนการฉีดวัคซีน 120 ล้านโดสก็ยังเดินหน้า ขณะที่กรุงเทพฯมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เกิน 70% แล้ว ทำให้เชื่อว่าการกระจายวัคซีนเพื่อเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวในเมืองอื่นๆ ที่เหลือก็จะทยอยเปิดเพิ่มได้ในเดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป” นายพิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่าการเปิดเมืองเชียงใหม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้โครงการชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ เดิมตามแผนจะเริ่มวันที่ 1 ก.ย.64 ก็ได้เลื่อนไปเป็นวันที่ 1 ต.ค.64 แทน เนื่องจากการกระจายวัคซีนยังไม่ครอบคลุมประชากร70%ในพื้นที่ 4 อำเภอที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว คือ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ได้เตรียมแผนเปิดเมืองไปแล้วราว 80% เพื่อเตรียมเสนอศบค.พิจารณาต่อไป

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ

รูปแบบของการเปิดเชียงใหม่ จะแตกต่างจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส เพราะเชียงใหม่กำหนดว่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวต้องซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ ผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น โดยเตรียมเสนอขาย9 แพ็คเกจอาทิ กอล์ฟ  ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้ว ส่วนใหญ่เดินทาง 4 วัน 3 คืน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะออกนอกเส้นทางไม่ได้ เที่ยวเสร็จต้องบินกลับประเทศ แต่ถ้าซื้อโปรแกรมครบ 14 วันเมื่ออยู่ครบจึงเดินทางไปพื้นที่อื่นในไทยได้

 

ทั้งนี้เชียงใหม่ประมาณการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยว 90 คนต่อ 1 เที่ยวบินใน1วัน กลุ่มนี้สร้างรายได้ให้เชียงใหม่ 3.3 ล้านบาท หากมี 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จะมีนักท่องเที่ยว 360 คนสร้างรายได้ 13.22 ล้านบาท และใน 1 เดือนจะมีนักท่องเที่ยว 1,440 คน สร้างรายได้52.9ล้านบาทต่อเดือน หากมี 2 เที่ยวบินต่อวัน จะมีนักท่องเที่ยว 2,880 คนต่อเดือนสร้างรายได้ 105 ล้านบาทต่อเดือน และหากมี3 เที่ยวบินต่อวันจะมีนักท่องเที่ยว4,320คนต่อเดือน สร้างรายได้ 158 ล้านบาทต่อเดือน

 

นายธเนศ  ศุภรสหัสรังสี ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า แผนการเปิดเมืองพัทยา Pattaya Moves On ได้มีการส่ง SOP ให้ทางสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีพิจารณาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ แต่ก็ยังเงียบ จึงอยากให้พิจารณาโดยเร่งด่วน เพื่อขอให้ศบค.อนุมัติ เพราะหากเปิดเมืองไม่ได้ภายในต.ค นี้ เศรษฐกิจเมืองพัทยาที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักพังพินาศ แบบไม่เหลือซาก และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าพื้นที่บางในอ.บางละมุงและสัตหีบ ประชากรได้รับวัคซีนแล้วเท่าไหร่

ธเนศ  ศุภรสหัสรังสี

ขณะนี้มีเพียงข้อมูลภาพรวมจังหวัดชลบุรีที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 แล้ว 34% ตอนนี้มีการฉีดวัคซีนเกือบทุกวัน แต่ปัญหาคือการกระจายวัคซีนต่างหาก ถ้าหากด่านหน้า บุคคลากรทางการแพทย์ คนแก่ คนเป็น 7 โรคฉีดหมดแล้ว น่าจะจัดสรรให้ภาคท่องเที่ยวที่มีความจำเป็นต้องฉีด เพื่อเปิดเมืองก่อน แต่ปัจจุบันที่ภาคท่องเที่ยวส่งรายชื่อให้ภาครัฐไป 15,000 ชื่อ ได้รับการติดต่อให้ไปฉีดแค่ 220 ชื่อ

 

ล่าสุดเอกชนสำรวจใหม่ เพื่อนำรายชื่อคนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ม.33) ไปขอจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงแรงงานพบว่ารายชื่อเหลือ 2-3 พันคน เพราะหลายสถานประกอบการไปต่อไม่ไหวแล้ว ปิดไป ลูกจ้างแยกย้าย หลายที่ยังเปิดอยู่ แต่ปรับการจ้างมาเป็นแบบชั่วคราว ที่เหลือทนมาปีกว่า ไปต่อไม่ไหว กลับต่างจังหวัดดีกว่าส่วนสถานประกอบการขนาดใหญ่ใครมือยาว สาวได้สาวเอา ใครมีเส้น ก็ไปหาวัคซีนให้ของตัวเองก่อน ทำให้คนในระบบเหลือไม่มาก

 

อย่างไรก็ตามผมยังเชื่อว่าเรายังสามารถเปิดเมืองพัทยาได้ภายในเดือน ต.ค. ตามกำหนด 120 วันที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ทั้งนี้แผนการกระจายการฉีดวัคซีนต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรม และเน้นภาคท่องเที่ยวก่อนสำหรับกลุ่มประชาชนโดยทั่วไป

 

นายกรด โรจนเสถียร ประธานภาคเอกชน โครงการหัวหิน รีชาร์จ  กล่าวว่า การเปิดเมืองหัวหินน่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 4 ตามกำหนด 120 วันเปิดประเทศ ขณะนี้ในพื้นที่ได้รับวัคซีนแล้ว 42% ของเป้าหมายประชากรที่ต้องได้รับวัคซีน 90,564 คน ส่วนแผน SOP เบื้องต้นจะเป็นเหมือนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ คือไม่กักตัว นักท่องเที่ยวเดินทางจากสนามบินก็จะตรงเข้าหัวหินทันทีไม่มีการแวะลงที่ไหน มีการตรวจSWAP 3 ครั้ง

 

รวมถึงกำหนดพื้นที่ Sealed Route เพื่อสร้างแพ็คเกจและกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวและทำกิจกรรมได้ภายในพื้นที่ 86.36 ตารางเมตรในหัวหิน ทั้งนี้คาดว่าหากเปิดหัวหินได้จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการอีกกว่า 89,000 คน

 

ข่าวหน้า1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,708 วันที่ 26-28 สิงหาคม พ.ศ.2564