เดอะริงค์เท150ล้านผุด3สาขา ชี้เทรนด์ผู้เล่นสเกตโตต่อเนื่องปีละ50%เหตุทัศนคติคนเปลี่ยน
เดอะริงค์กรุ๊ป ควักกระเป๋าเทงบ 150 ล้านผุดลานสเกตต่างจังหวัด หลังพบเทรนด์ตลาดเติบโตต่อเนื่อง 6 สาขาเดิม ผู้เล่นโตต่อเนื่องปีละ 50% ผลจากการผลักดันให้เล่นเป็นกีฬา มั่นใจสิ้นปียอดขายโตไม่ต่ำกว่า 30% ชี้ปีที่ผ่านมาคว้ารายได้กว่า 100 ล้าน
นางชิดชนก เจนวรากุล กรรมการผู้จัดการ เดอะริงค์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและบริหารลานสเกต เดอะริงค์ ไอซ์ อารีน่า เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากแนวโน้มความต้องการใช้บริการลานสเกตที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเห็นโอกาสทางการตลาดจึงลงทุนต่อเนื่องจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 3 แห่ง ได้แก่ สาขาศูนย์การค้า ฮาร์เบอร์ พัทยา เดอะมอลล์ โคราช และเทอร์มินอล 21 โคราช จากปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 6 แห่ง ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี แฟชั่น ไอส์แลนด์ ซีคอน บางแค และสเปลล์แอทฟิวเจอร์พาร์ค
จากการเข้ามาดำเนินธุรกิจสร้างและบริหารลานสเกตตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน พบว่าประชาชนให้ความสนใจต่อการเล่นลานสเกตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในระยะแรกอัตราการใช้บริการจะมีไม่มาก แต่มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเติบโตปีละประมาณ 30% แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาพบว่าจำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตมากถึงปีละ 50% ซึ่งเป็นผลจากทัศนคติที่ดีของผู้ปกครองต่อการเล่นสเกต และการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องของบริษัท โดยเฉพาะการผลักดันให้การเล่นสเกตเป็นกีฬา และจัดการแข่งขันกีฬาบนลานสเกตต่อเนื่องทุกเดือน
“ในอดีตที่ผ่านมาการเล่นสเกตมองว่าเป็นการมั่วสุม เป็นแหล่งที่วัยรุ่นมาทำสิ่งไม่ดี รวมถึงเป็นการเล่นที่ไม่ปลอดภัย แต่หลังจากที่บริษัทได้เข้ามาพัฒนา สร้างลานสเกตและบริหารงาน ด้วยการเลือกพื้นที่สร้างลานบริเวณกลางห้างสรรพสินค้า ทำให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่ไม่มีการทำสิ่งไม่ดี รวมถึงการกำหนดกฎระเบียบของการใช้บริการลานสเกตอย่างเคร่งครัด เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปีจะใช้บริการจะต้องมีผู้ปกครองหรือครูลงสนามด้วยทุกครั้ง ประกอบกับปัจจุบันกีฬาลานสเกตได้รับการยอมรับ และมีการส่งเสริมให้เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง อย่างการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จะจัดขึ้นในประเทศมาเลเซีย ก็จะเป็นกีฬาที่มีการชิงเหรียญทองด้วย ทำให้ภาพลักษณ์และการเล่นสเกตได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต”
ที่ผ่านมาจะพบว่าศูนย์การค้าเกือบทุกแห่งต้องการให้บริษัทเข้าไปสร้างลานสเกตและบริหาร แต่ยังไม่สามารถหาพื้นที่ที่เหมาะสมได้ จนปัจจุบันสามารถขยายสาขาในต่างจังหวัดได้ 3 สาขาดังกล่าว ซึ่งสาขาศูนย์การค้า ฮาร์เบอร์ พัทยา ถือเป็นไอซ์สเกตแห่งแรกของภาคตะวันออก ด้วยพื้นที่ลาน 800 ตร.ม. จากพื้นที่รวม 1.5 พันตร.ม. จะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนสาขาเดอะมอลล์ โคราช จะเป็นลานสเกตน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้วยพื้นที่ลาน 800 ตร.ม. จากพื้นที่รวม 3 พันตร.ม. พร้อมกิจกรรมกีฬาบนลานสเกตน้ำแข็งในคอนเซ็ปต์ไอซ์แอนด์สโนว์แพลนเน็ท (Ice & Show Planet) จะเปิดให้บริการเดือนกันยายน และสาขาที่เทอร์มินอล 21 โคราช มีพื้นที่กว่า 800 ตร.ม.จะเปิดให้บริการภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
นางชิดชนก กล่าวอีกว่าจากการขยายสาขาเพิ่มในปีนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 100 ล้านบาท โดยเตรียมงบประมาณ 5-10 ล้านบาท สำหรับทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ ควบคู่กับการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย และสื่อออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อสร้างกระแสและการรับรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง จากกระแสความนิยมของกีฬาประเภทนี้ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากการเปิดให้บริการลานสเกตแล้ว ยังมีสถาบัน “เดอะริงค์ ไอซ์สเก็ตติ้ง อะคาเดมี” เป็นสถานที่ฝึกสอนไอซ์สเกตระดับเบื้องต้นจนถึงมืออาชีพ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้การเล่นไอซ์สเกตอย่างถูกวิธี และปลอดภัย มีอัตราค่าเรียนเฉลี่ยชั่วโมงละ 480 บาทสำหรับการเรียนประเภทกลุ่ม หากเรียนส่วนตัวราคาชั่วโมงละ 1 พันบาท ส่วนค่าใช้บริการสนามคิด 250 บาทต่อคนต่อชั่วโมง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,152 วันที่ 28 - 30 เมษายน พ.ศ. 2559