ผู้ตรวจการแผ่นดินรับตรวจสอบ “ซีพีซื้อโลตัส” ไม่เป็นธรรม

30 มี.ค. 2564 | 10:46 น.

ผู้ตรวจการแผ่นดิน เรียกซีพีส่งเอกสารเพิ่มกรณี “ซื้อโลตัส” หลังภาคีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยื่นร้องไม่เป็นธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

ความคืบหน้าล่าสุดหลังจากที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อมร่วมกับ 37 องค์กรผู้บริโภคและผู้บริโภคทั่วประเทศเป็นโจทก์ฟ้องคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าต่อศาลปกครอง 

กรณีคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า(กขค.) มีมติ อนุญาตให้ควบรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ และบริษัท เทสโก้ สโตร์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564ที่ผ่านมานั้น  

ล่าสุดสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 19 มีนาคม 2564  เรื่อง แจ้งการรับเรื่องร้องเรียน โดยมีใจความว่า
ตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านได้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าพิจารณาการขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ และบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โดยไม่เป็นธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น 

ผู้ตรวจการแผ่นดินรับตรวจสอบ “ซีพีซื้อโลตัส” ไม่เป็นธรรม

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินขอเรียนว่า ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนของท่านไว้พิจารณาแล้ว เป็นเรื่องร้องเรียนเลขดำที่ 176/2564 ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีหนังสือขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนพร้อมให้จัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 

และกรณีมีความจำเป็น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินอาจแสวงหาข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งจะได้ดำเนินการโดยเร็ว ทั้งนี้เมื่อได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริงหรือความเห็นครบถ้วนแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้นำมาประกอบการพิจารณาจัดทำคำวินิจฉัยต่อไป

อย่างไรก็ดีคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) โดยกรรมการเสียงข้างมากมีความเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ขออนุญาตรวมธุรกิจซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดในตลาดร้านค้าปลีกสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทร้านค้าปลีกขนาดเล็ก จะมีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เป็นการผูกขาด 

ผู้ตรวจการแผ่นดินรับตรวจสอบ “ซีพีซื้อโลตัส” ไม่เป็นธรรม

และการรวมธุรกิจดังกล่าวมีความจำเป็นตามควรทางธุรกิจและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลให้การแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม 

ทั้งนี้ มีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อลดหรือเยียวยาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการแข่งขันในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคภายหลังการรวมธุรกิจ

โดยกรรมการเสียงข้างมากจึงมีมติอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด โดยกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจปฏิบัติ

อนึ่ง บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ได้ซื้อหุ้นบริษัทเทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในไทย หลังจากซีพีชนะการประมูลซื้อกิจการเทสโก้ในไทยและมาเลเซียมูลค่า 338,445 ล้านบาท 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ปักธงฟ้อง! กขค. ปล่อย ซีพี ควบรวม โลตัส

• ซีพีส่ง Lotus’s เขย่าสมรภูมิ “ฟู้ด รีเทล” 

• ซีพี เผย 2 โฉมใหม่  “โลตัส”

  • ค้าปลีกเดือด “ธนินท์-เจริญ” เปิดศึก สาดสงครามราคา-โชห่วยกระอัก
  • ค้าปลีกในอุ้งมือ 2 เจ้าสัว "ซีพี - เจริญ" กุม 3 ล้านล้าน
  • เปิดประวัติ 7 กรรมการกขค. ใครเห็นชอบ-คัดค้านซีพีควบ "โลตัส"