ทายาทรุ่นที่ 2 ของเจ้าของธุรกิจวังไข่มุก "พบไชยส์ จิวะวิศิษฎ์นนท์" กรรมการผู้จัดการและเจ้าของโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต รีสอร์ท และโนโวเทล ภูเก็ต วินเทจ พาร์ค ลูกชายคนกลางของ "บุญชัย - กรรณิกา จิวะวิศิษฎ์นนท์" ผู้เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมจากผู้เป็นพ่อ
"พบไชยส์" สานต่อธุรกิจโดยเริ่มดูแล "ป่าตอง เบย์ชอ(Patong Bayshore)" โรงแรมเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 80 ห้อง ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของครอบครัว ในช่วงนั้นเขาบอกใช้เวลาดูแลอยู่ประมาณ 5 ปี ก็รู้สึกว่า ถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยน เพราะการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมในภูเก็ต โดยเฉพาะที่ป่าตองสูงขึ้นเรื่อยๆ มีโรงแรมใหม่ๆ ทันสมัยผุดขึ้นทุกปี เขาจึงปิดปรับปรุงและสร้างโรงแรมใหม่ขึ้นมาเปลี่ยนจากป่าตอง เบย์ชอ ซึ่งเป็นโรงแรม 3 ดาว ขยับขึ้นมาเป็นโรงแรม 4 ดาว ภายใต้เชนของโนโวเทล ในชื่อ โนโวเทล ภูเก็ต วินเทจ พาร์ค เช่นเดียวกับโรงแรม โนโวเทล ภูเก็ต รีสอร์ท ซึ่งช่วงแรกพ่อของเขาทำหน้าที่บริหารอยู่
นักธุรกิจหนุ่ม บอกว่า ตอนแรกที่เข้ามาดูแลธุรกิจนี้ เขายังไม่มีความคิดที่จะปรับเปลี่ยนอะไร เพราะต้องการเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ให้ตัวเองก่อน แม้เขาจะเรียนจบปริญญาตรีด้านบัญชีและการเงิน และปริญญาโทสาขาบริหารจัดการโรงแรมระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บรู๊คส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ แต่ยังไม่มีประสบการณ์บริหารงานจริงๆ
[caption id="attachment_45730" align="aligncenter" width="500"]
พบไชยส์ จิวะวิศิษฎ์นนท์[/caption]
"การบริหาร ผู้บริหารควรต้องมีประสบการณ์การโรงแรม เพราะมันเป็นธุรกิจที่ซับซ้อน มีเรื่องสารพัด ผู้บริหารต้องรู้ทุกอย่างที่จะทำหรือตัดสินใจ มันมีผลที่ตามมาหมด เราเป็นเจ้าของ ต้องทำตัวไม่ใช่ว่าฉันเป็นเจ้าของแล้วเราจะทำอะไรก็ได้ ผมมีพ่อเป็นต้นแบบ คือ เรื่องบริหารการเงิน พ่อบอกว่า เราจะไม่ทำธุรกิจแบบลดต้นทุน แต่จะเน้นการบริหารที่ใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ"
แม้โรงแรมของ "พบไชยส์" จะมีเชนโนโวเทลเข้ามาดูแล แต่การบริหารโดยภาพรวม เขาในฐานะเจ้าของยังคงใส่ใจ ดูแลบุคลากรในลักษณะของครอบครัว เช่นเดียวกับตอนที่ยังเป็นป่าตอง เบย์ชอ ทำให้พนักงานทุกคนมีความสุข และความสุขนั้นก็จะส่งต่อถึงลูกค้าที่เข้ามาพัก
คนที่เข้ามาในธุรกิจโรงแรมที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคิดแค่ว่า สร้างโรงแรม ลงทุนทำสวยๆ แล้วเก็บแพงๆ โดยไม่ได้ศึกษาสถานที่ ไม่ศึกษาตลาด แบบนั้นมันไม่ได้ พอกู้เงินมาแล้ว ถอนเงินมาใช้จ่าย เราก็ต้องคุมให้อยู่ในกรอบที่เราตั้งไว้ ซึ่งตอนนี้นอกจากบริหารโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต วินเทจ พาร์คแล้ว เขายังเข้าไปดูแลโนโวเทล ภูเก็ต รีสอร์ทด้วย โดยเริ่มใช้งบประมาณ 60-70 ล้านบาท ปรับปรุงให้โรงแรมมีความร่วมสมัยมากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายด้วยลิฟต์ใหม่ สปาใหม่ และทำตึกห้องพักวิงค์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในอีก 8-9 เดือน
การบริหารธุรกิจโรงแรมไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่ผู้บริหารคนนี้บอก และก็มีหลายโรงแรมที่ล้มเหลวมาแล้ว "พบไชยส์" ในฐานะหนึ่งในผู้บริหารที่กำลังขยายความสำเร็จออกไป ไม่ใช่แค่เพียงโรงแรมในภูเก็ต ป่าตอง แต่เขายังมองทำเลอื่นๆ เพียงแต่ว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เขาบอกถึงเคล็ดลับในการทำธุรกิจโรงแรมแบบย่อๆ ว่า การทำโรงแรมไม่ใช่ว่าจะคิด มีเงิน แล้วทำได้เลย แต่ต้องศึกษาสภาพตลาด ความเหมาะสมของทำเลให้ดีเสียก่อน อย่างโรงแรมในภูเก็ต ถ้าคิดจะทำโรงแรมดีๆ 5 ดาว เก็บราคาห้องพักแพงๆ บางทีไปตั้งอยู่ผิดทำเล ก็ไม่สามารถขายได้เช่นกัน เพราะในแต่ละที่ แต่ละหาดมีเพดานราคาห้องพักของตัวเองอยู่
"คนที่เข้ามาในธุรกิจโรงแรมแล้วไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคิดแค่ว่า ลงทุนสร้างโรงแรมสวยๆ แล้วเก็บแพงๆ โดยไม่ได้ศึกษาสถานที่ ไม่ศึกษาตลาด แบบนั้นมันไม่ได้ พอกู้เงินมาแล้ว เราก็ต้องคุมให้อยู่ในกรอบที่เราตั้งไว้ เราต้องบริหารและจัดสรรงบให้ดี ไม่เกินงบที่เราตั้งไว้ หลังการก่อสร้าง ก็ต้องบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องเงินคือเรื่องใหญ่ ในการบริหาร ถ้าเราบริหารได้ดี เราจะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤติไปได้"
แนวความคิดในการทำธุรกิจของผู้ชายคนนี้ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดเงินอย่างเป็นระบบ และไม่ใช่จ่ายเกินตัวเกินงบ เพราะเมื่อเกิดปัญหา เขาไม่ต้องการให้กระทบกับพนักงานจนต้องเอาคนออก การบริหารเงิน รายได้และต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสำคัญมากๆ หลังจากการเปิดธุรกิจแล้ว ถ้าสามารถบริหารเงินหมุนเวียนให้ดี มันจะทำให้ผ่านพ้นวิกฤติทุกอย่างไปได้
และที่สำคัญ การทำธุรกิจต้องมีจิตสำนึกที่ดี สร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน เช่นการสร้างโรงแรม งานก่อสร้างทำให้เกิดมลภาวะมากมาย ก็ต้องใส่ใจดูแลกันตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งโรงแรมเสร็จ เปิดให้บริการ ก็ต้องบริหารจัดการเรื่องของเสีย น้ำเสีย ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำทุกอย่างให้อยู่ในมาตรฐาน พร้อมใบอนุญาตที่ถูกต้อง...นี่คือแนวทางในการบริหารธุรกิจของนักบริหารหนุ่มผู้นี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,148 วันที่ 14 - 16 เมษายน พ.ศ. 2559