ถอดรหัส ซาร์สสู่โคโรนา สูญ3แสนล.ธุรกิจล้มเป็นโดมิโน

08 ก.พ. 2563 | 01:00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

รายงาน

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้น ทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในปีนี้กำลังฉายภาพซํ้าวิกฤติท่องเที่ยวช่วงโรคซาร์สเมื่อปี 2546 แต่ครั้งนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงกว่านั้นมาก เพราะปัจจุบันรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของจีดีพี เฉพาะคนจีนมาเที่ยวไทยในปีที่ผ่านมาก็ปาเข้าไป 10.98 ล้านคนแล้ว ไม่ใช่แค่ 6 แสนคนเหมือนช่วงซาร์สระบาด

8วันจีนหายแล้ว2แสนคน

หากเทียบเคียงผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ตอนเกิดโรคซาร์ส ในปี 2546 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ราว 9.70 ล้านคน ลดลงกว่า 10.15% หรือหายไปกว่า 1.75 ล้านคน จากแนวโน้มปกติที่คาดว่าจะอยู่ที่ 11.45 ล้านคน สูญรายได้ท่องเที่ยวไปราว 8.14 หมื่นล้านบาท จากแนวโน้มคาดการณ์ว่าควรจะมีรายได้อยู่ที่ 3.71 แสนล้านบาท ขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต่างบักโกรก มีการลดแรงงานลงไปนับแสนคน

ส่วนผลกระทบจากโคโรนาในปีนี้ แค่ผ่านมาเพียง 8 วัน (วันที่ 24-31 .. 63) นับจากรัฐบาลจีนสั่งห้ามขายแพ็กเกจนำนักท่องเที่ยวจีนออกไปทั่วโลก เพื่อสกัดไวรัสโคโรนา ก็ส่งผลให้ไทยมีนักท่องเที่ยวจีนลดลงมาก โดยมีจำนวน 1.4 แสนคน ลดลง 2 แสนคน คิดเป็นสัดส่วน 58% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เบื้องต้นคาดว่าจะส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวสูญเสียรายได้กว่า 9,156 ล้านบาท โดยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้า/ของที่ระลึก สถานพักแรม และร้านอาหาร/ เครื่องดื่ม

เปิด4สมมติฐาน

นอกจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้ตั้งสมมติฐานต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวจากโคโรนาใน 4 กรณี ซึ่งผลกระทบจะรุนแรงแตกต่างกันตามระยะเวลาที่จีนสั่งห้ามเดินทางสูญเสียรายได้ตั้งแต่ 1.47-3.25 แสนล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่ากระทรวงประเมินผลกระทบไว้ว่าหากสามารถยุติการแพร่ระบาดได้ภายในเดือนมีนาคม 2563 การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวกว่าจะกลับมาเหมือนเดิมต้องใช้เวลาถึงเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งจะทำให้ไทยเสียโอกาสในการสร้างรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท 

ถอดรหัส ซาร์สสู่โคโรนา สูญ3แสนล.ธุรกิจล้มเป็นโดมิโน

 

 

งัดมาตรการเซฟคอสต์

การลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลกระทบลามเป็นลูกโซ่ ธุรกิจสายการบิน ยกเลิกเส้นทางบินสู่เมืองอู่ฮั่นยาวถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 รวมเที่ยวบินที่ยกเลิกไปกว่า 1.76 หมื่นที่นั่ง

ไทยไลอ้อนแอร์ ที่ยกเลิกเที่ยวบินเช่าเหมาลำเส้นทางหาดใหญ่-เฉิงตู สายการบินไทยสมายล์ยกเลิก 3 จุดบินในจีน การบินไทยซึ่งทำการบินสู่ 6 จุดบินในจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว คุนหมิง เซียะเหมิน เฉิงตู ที่ประกาศปรับลดเที่ยวบินกว่า 12 เที่ยวบินตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากตอนนี้มีอัตราการบรรทุกเฉลี่ยในเส้นทางบินจีนลดเหลืออยู่ 40-50% จากเดิมอยู่ที่ 90%

ขณะที่ธุรกิจทัวร์ โรงแรม รถเช่า ที่จะกระทบก่อนเป็นอันดับแรก คือธุรกิจที่รับตลาดทัวร์จีน เพราะก่อนหน้านี้ก็ต้องทนแบกรับนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวไปนับจากเกิดเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต พอมาเจอจีนหายเรียบจากโคโรนา จึงเห็นชัดเจนว่าเริ่มมีธุรกิจประกาศปิดกิจการ อย่าง บันยัน รีสอร์ท ที่จะเลิกจ้างพนักงานในวันที่ 16 มีนาคม 2563 หลายโรงแรมเริ่มลดเงินเดือน ธุรกิจรถทัวร์จีนร่วม 5 พันคนต้องหยุดวิ่งไป ร้านจิวเวลรีและร้านขายสินค้าที่ระลึกที่รับนักท่องเที่ยวก็ทยอยหยุดให้บริการ

 

นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่าสถานการณ์ของธุรกิจท่องเที่ยวนับจากนี้มีแนวโน้มจะกระทบรุนแรงมากกว่าตอนเกิดโรคซาร์ส เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% และยังเริ่มเห็นสัญญาณว่าในขณะนี้ไม่ใช่แค่ตลาดจีนที่หายไป ก็ยังพบว่ายอดการจองใหม่จากนักท่องเที่ยวชาติอื่น ก็ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก ซึ่งก็คงต้องรอดูสถาน การณ์ในอีก 1-2 สัปดาห์จากนี้

โดยเบื้องต้นคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในไทยน่าจะอยู่ที่ 30% เหมือนช่วงเกิดโรคซาร์ส แต่ธุรกิจจะลำบากกว่าเดิมมากกว่า เพราะจำนวนโรงแรมที่เพิ่มขึ้นมากไม่เหมือนในอดีต โดยเฉพาะโรงแรมขนาดกลางและเล็ก ที่มีสายป่านไม่เพียงพอ จะได้รับผลกระทบหนักกว่าโรงแรมใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมต่างๆเริ่มออกมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงต่อไปก็คงจะมีการลดเงินเดือน เหมือนที่ดำเนินการในช่วงซาร์ส เพื่อลดผลกระทบจากการขาดสภาพคล่องของธุรกิจ

ทั้งหมดล้วนเป็นความรุนแรงของโคโรนาที่พ่นพิษหนักหนาสาหัสกว่าซาร์สมากมาย

รายงาน : ธนวรรณ วินัยเสถียร

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,546 วันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2563