นายปาร์ค ชุนยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจในปี 2563 หรือ 2020 นี้บริษัทมุ่งบุกตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องกรองนํ้าและเครื่องฟอกอากาศ ภายใต้แนวคิด Coway 2020 ด้วยกลยุทธ์การตลาดด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและการบริการลูกค้า ด้วยเครื่องมือ “COWAY CARE” ทั้งนี้โคเวย์เป็นบริษัทแรกที่ริเริ่มพัฒนาระบบการขายใหม่ด้วยบริการ “COWAY CARE” ซึ่งเป็นเครื่องมือสนับสนุนการตลาดในระบบขายตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของโคเวย์ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อน แต่เป็นการจ่ายเงินแบบรายเดือนอย่างต่อเนื่อง โดยโคเวย์จะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าถึงที่บ้านตลอดระยะเวลาตามสัญญาเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าคุณภาพดีที่สุดตลอดเวลา
ทั้งนี้โคเวย์ ประสบความสำเร็จด้านการตลาดและเป็นผู้นำในเกาหลีใต้และมาเลเซีย จากการศึกษาตลาดในไทยทำให้เชื่อมั่นว่า พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยที่เปลี่ยนไป จะให้การยอมรับระบบการขายแบบใหม่นี้ที่มอบความสะดวกและง่ายในการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งเครื่องกรองนํ้าและเครื่องฟอกอากาศ แบรนด์ โคเวย์ จะกลายเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทยได้เช่นกัน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 4 หมื่นเครื่องหรือเติบโต 100% จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.66 หมื่นเครื่อง
สำหรับบริการ “COWAY CARE” คือการดูแลลูกค้าของโคเวย์ตลอดระยะเวลาสัญญา เป็นการ “บริการก่อนการร้อง ขอจากลูกค้า” (Before Service) โดยมี “โคดี้” (Coway Lady) ที่ผ่านการฝึกฝนอบรมทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ เป็นผู้ดูแลลูกค้า
ด้านการทำตลาดเครื่องกรองนํ้าในเมืองไทย จะจำหน่ายผ่านระบบขายตรงและระบบขายโมเดิร์นเทรด โดยมีสัดส่วน 60 : 40 ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการตลาดประเทศเกาหลีใต้ : Baytel 2015 พบว่า ตลาดเครื่องกรองนํ้าโดยรวมในไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ย 10%
ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศ บริษัทจะใช้ระบบการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดมากกว่าการขายตรง โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยการตลาดประเทศเกาหลีใต้ : Kotra 2019’6 พบว่าตลาดเครื่องฟอกอากาศมีมูลค่าตลาดโดยรวมในปี 2561 ราว 1,300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตลาดที่เพิ่งเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยประสบปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“คุณภาพอากาศในเมืองไทยทำให้เครื่องฟอกอากาศโคเวย์ มีการขยายตัว 3-4 เท่าในปีที่ผ่านมา และจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยพบว่ามีศักยภาพตลาดที่สามารถเติบโตและเพิ่มปริมาณยอดขายได้ จากไลฟ์สไตล์ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทันสมัย ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความคุ้มค่า รูปลักษณ์ดีไซน์ที่สวยงาม”
นายปาร์ค กล่าวอีกว่าโคเวย์ให้ความสำคัญกับประเทศไทยอย่างมาก โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการทุ่มงบลงทุนไปแล้วกว่า 300 ล้านบาทในการสร้างฐานโครงสร้างธุรกิจและระบบการให้บริการที่มั่นคง เพื่อให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและวางใจในแบรนด์ “โคเวย์” และในปีนี้โคเวย์ มีแผนลงทุนอีกกว่า 50 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาด้านการตลาดและขยายตัวเลขยอดขาย ด้วยการนำเข้าสินค้าใหม่จากเกาหลีใต้ 3 รุ่น ได้แก่ เครื่องกรองนํ้ารุ่น CHP-18AR Villaem (วิลลาเอ็ม) , เครื่องฟอกอากาศรุ่น AP-1018F Classic (คลาสสิก) และ เครื่องฟอกอากาศรุ่น AP-3018B Giant (ไจแอ้น) ด้วย
หน้า 31-32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,541 วันที่ 19-22 มกราคม 2563