รมว.อุตสาหกรรมเผยเตรียมเสนอ ครม. เพิ่มทุนให้ ธพว. อีก 8 พันล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปี ชี้เป็นการช่วยเอสเอ็มอีได้มากขึ้น พร้อมลุยนำงบ 1 หมื่อนล้านช่วยคนตัวเล็กรายละ 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ระยะเวลา 7 ปี
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่การกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดภายว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอเพิ่มทุนให้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ตามที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลังได้นำเสนอแนวทางเอาไว้ เพื่อให้สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) ได้เพิ่มมากขึ้น โดยในระยะเวลา 3 ปีจะเพิ่มทุนประมาณ 8 พันล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปี แบ่งเป็น ปี 62 จำนวน 4 พันล้านบาท ส่วนปี 63 เพิ่มทุนจำนวน 2.5 พันล้านบาท และปี 64 เพิ่มทุนจำนวน 1.5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 62 ครม. ยังได้มีมติเห็นชอบอนุติเงินกองทุน 1 หมื่นล้านบาท ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 ในโครงการสินเชื่อพิเสษสนับสนุนเอสเอ็มอี (SME) รายย่อย ผ่านกองทุนส่งเสิรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินการร่วมกับ SME D Bank โดยกองทุนดังกล่าวจะมีหลักเกณฑ์ที่เปิดกว้าง เพื่อให้เอสเอ็มอีรายเล็กสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย โดยมีวงเงินปล่อยสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ซึ่งถือว่าเป็นข้อสนเอที่น่าจะดีที่สุดสำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการวงเงินเพือ่เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังรอสรุปข้อมูลจากกองทุนพัฒนาเอสเอมอีตามแนวประชารัฐ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 กอง ได้แก่ 1.เพื่อเอสเอ็มอีขนาดกลาง และ2.เพื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็ก โดยในส่วนของวเงินที่ปล่อยให้กับเอสเอ็มอีขนาดกลางนั้น ยังคงมีวงเงินเหลือจากการปล่อยสินชื่ออีกประมาณ 3 พันล้านบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องรอดูสรุปตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้นจะมีการนำวงเงินที่เหลือดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อนำมาปล่อยให้กับเอสเอ็มอีรายเล็กต่อไป
นายนายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกะรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า ปัจจุบัน ธพว. มีเจ้าหน้าที่ตลาดที่อยู่สาขา 95 สาขา ประมาณ 800 คน โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ทั้งหมดไปหาลูกค้าที่อยู่ในคุณสมบัติเอสเอ็มอีคนตัวเล็กคนละ 15 ราย ซึ่งจะได้ประมาณ 1.2 หมื่นราย เพื่อให้ได้มีโอกาสใช้เงินจากกองทุน 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เดิมที ธพว. ได้มีการนำเสนอขอวงเงินไป 2 หมื่นล้านบาท โดยในเบ้องต้นได้รับการอนุมัติมา 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ประมาณกลงเดือนกันยายน และจะใช้วงเงินจนหมดประมาณเดือนตุลาคม หลังจากนั้น จะมีการพิจารณาขอวงเงินเพิ่มเติม หากโครงการสามารถเดินหน้าไปด้วยดีอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายเล็ก นอกจากนี้ ธพว. เองก็ยังมีวงเงินอีก 6 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อในส่วนของธนาคารเอง