ศรีทองฯเดินหน้าปั๊มยอดขายดัน‘ลูมิน็อกซ์’ขึ้นเบอร์1เอเชีย

09 ส.ค. 2562 | 02:43 น.

มั่นใจตลาดนาฬิกาโตต่อเนื่อง “ศรีทองพาณิชย์” เล็งเปิดตัวลิมิเต็ด อิดิชั่นเอาใจนักสะสม ตั้งเป้าหมายทำยอดขาย “ลูมิน็อกซ์” ขึ้นเบอร์ 1 เอเชียแซงหน้าญี่ปุ่น หลังโชว์ผลงาน 3 ปี ติดท็อป 3 โดนใจบริษัทแม่

นางวิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ CITIZEN, LUMINOX, Frederique Constant, Ball และ Bulova เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดนาฬิกายังมีการแข่งขันสูง เห็นได้จากการที่แบรนด์นาฬิกาต่างนำเข้ารุ่นใหม่ และทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ศรีทองพาณิชย์เองในปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโต 10% จากการรุกทำกิจกรรมตลาด การเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ และการขยายช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายขึ้น

ด้านกลยุทธ์การทำตลาด บริษัทเน้นการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ให้กับแบรนด์ต่างๆ อาทิ ลูมิน็อกซ์ ซึ่งล่าสุดเปิดตัวรุ่น Thai Navy SEALs ซีรีส์ 3500 ลิมิเต็ด อิดิชั่น เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้ประชาชนในทุกภาคส่วนหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับการอุทิศตนของเจ้าหน้าที่หน่วยซีลของประเทศไทยในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ รวมถึงสนับสนุน การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ โดยผลิตเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่นเพียง 999 เรือนเท่านั้น ในราคาเรือนละ 19,500 บาท

ศรีทองฯเดินหน้าปั๊มยอดขายดัน‘ลูมิน็อกซ์’ขึ้นเบอร์1เอเชีย   วิภาวรรณ มหาดำรงค์กุล

“ลูมิน็อกซ์ เริ่มเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อ 3 ปีก่อน และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รวมทั้งมีระดับราคาที่จับต้องได้ ทำให้วันนี้ลูมิน็อกซ์มียอดขายติดอันดับท็อป 3 ในเอเชีย รองจากประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี และมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายใน 5 ปี” นางวิภาวรรณ กล่าวและว่า

ศรีทองฯเดินหน้าปั๊มยอดขายดัน‘ลูมิน็อกซ์’ขึ้นเบอร์1เอเชีย

ด้วยไดเร็กชันที่ชัดเจน ทำให้ลูมิน็อกซ์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในเมืองไทย บริษัทแม่จึงให้การยอมรับและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และงบประมาณด้านการตลาด และในโอกาสครบรอบ 30 ปีลูมิน็กอซ์ทั่วโลก บริษัทมีแผนผลิตลิมิเต็ด อิดิชั่นออกวางจำหน่ายอีก 2 รุ่น ขณะที่แต่ละปีจะผลิตและวางจำหน่ายสินค้าใหม่ราว 30 รายการ รวมทั้งการขยายตลาดในกลุ่ม B2B ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยงาน สถาบันการศึกษาต่างๆ เข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าลูมิน็อกซ์จะมียอดขายเติบโตขึ้นราว 15% ขณะที่แบรนด์ซิติเซ็น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทในปีนี้ก็มีแผนเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ เช่นกัน

นางวิภาวรรณ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายนาฬิกาผ่าน 4 ช่องทางได้แก่ ร้านดีลเลอร์ สัดส่วน 40% ห้างสรรพสินค้า 50% ดิวตี้ฟรีและออนไลน์ 10% โดยพบว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนยอดขายในดิวตี้ฟรีลดลงกว่า 20% จากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนที่ลดการจับจ่ายลง ขณะที่บริษัทมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนไทย จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ขณะที่ร้านดีลเลอร์ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนราว 250 ร้าน ยังคงลดลงต่อเนื่องจากในอดีต เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนหันไปเลือกซื้อตามร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ที่มีการขยายตัวไปเปิดให้บริการในต่างจังหวัดมากขึ้น รวมทั้งการหันไปซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ร้านจำหน่ายเฉพาะนาฬิกาในต่างจังหวัดลดลง

ศรีทองฯเดินหน้าปั๊มยอดขายดัน‘ลูมิน็อกซ์’ขึ้นเบอร์1เอเชีย

อย่างไรก็ดี พบว่า ปัจจุบันร้านดีลเลอร์เหล่านี้เริ่มปรับตัว หันมาขยายช่องทาง การจำหน่ายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ขณะที่บริษัทเองได้พัฒนา และเพิ่มช่องทางอี-คอมเมิร์ซ โดยเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่กลางปีก่อน และปัจจุบันมีช่องทางออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม รวมถึงมาร์เก็ตเพลส อื่นๆ อาทิ ช้อปปี้ เป็นต้น 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3494 ระหว่างวันที่ 8 - 10 สิงหาคม 2562