"Toddler-SealZip" จับพฤติกรรมผู้บริโภค สู่ไอเดียสร้างผลิตภัณฑ์

หากมองกันแค่เพียงที่ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ แน่นอนว่า ทุกอย่างย่อมสวยหรู แต่สิ่งสำคัญที่มากกว่านั้น คือ เรื่องราวระหว่างทางที่เกิดขึ้นก่อนที่จะไปถึงจุดหมาย ซึ่งจะเป็นทั้งบทเรียนที่ดีและกรณีศึกษาให้ได้นำกลับไปใช้ประโยชน์

"ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ "วิภาวรรณ วิวิธเทศ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีฟไฮ จำกัด สาวสวยคนเก่งเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อคุณแม่และเด็ก รวมถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย แบรนด์ "Toddler" และ "SealZip" ที่สามารถปรับความถนัดให้กลายมาเป็นความชอบ จนนำมาซึ่งการทำธุรกิจที่เป็นของตนเองได้ในที่สุด




➣ จุดเริ่มต้นธุรกิจ

วิภาวรรณ บอกว่า ตัวเธอเป็นผู้ที่ชอบทำธุรกิจมาตั้งแต่เรียนจบ โดยเริ่มหาอะไรทำเพื่อที่จะสร้างเป็นธุรกิจของตนเอง ซึ่งในระยะแรกก็ยังเป็นการค้าขายไปเรื่อย ๆ ตามกระแส แต่เมื่อวันหนึ่งที่อายุมากขึ้น ทำให้รู้สึกได้ว่าจะต้องดำเนินการอะไรสักอย่างหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปได้มากกว่านี้ จึงเริ่มที่จะสร้างแบรนด์ขึ้นมา โดยมองไปที่ธุรกิจเครื่องสำอาง ซึ่งกำลังได้รับความนิยม และส่วนตัวชื่นชอบด้วย แต่เนื่องจากในตลาดมีคู่แข่งเยอะ จึงเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไม่ได้อย่างที่หวัง ทำให้ธุรกิจของตัวเธอไม่ประสบความสำเร็จ

ต่อมาจึงเริ่มมองหาสิ่งที่ตนเองถนัด มานำเสนอในรูปแบบใดให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ซึ่งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ ได้มีโอกาสพบเห็นถุงซิปที่มีลายน่ารักจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ค่อยพบเจอที่ประเทศไทย ประกายไอเดียจึงเริ่มก่อตัวขึ้น

ขณะที่ ไทยเองมีการผลิตถุงเก็บนํ้านมส่งไปต่างประเทศจำนวนมาก แต่กลับมีจำหน่ายในประเทศน้อยมาก ประกอบกับยุคหนึ่งรัฐบาลเองก็มีการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น ซึ่งทำให้คนไทยหันมาใส่ใจและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตัวเธอจึงมองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ถุงเก็บนํ้านมแม่ขึ้น


➣ สร้างความต่าง

วิภาวรรณ บอกต่อไปอีกว่า แม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังเติบโตไปไม่ได้อย่างที่ใจต้องการในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ทำมา ต้องปรับใช้การดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้ผสมผสานไปกับเรื่องของคุณภาพ โดยเลือกนำจุดเด่นเรื่องสีมาใช้ ตามสีของวันให้เป็น 7 สี เพื่อความสะดวกสบายของคุณแม่ที่จะต้องปั๊มนมและผู้เลี้ยง ซึ่งเป็นผู้นำนมออกมาให้เด็กได้รับประทานรู้ว่าจะต้องนำถุงไหนมาใช้งานก่อน




นอกจากนี้ ยังใช้สีมาช่วยแบ่งปริมาณนํ้านม ว่า มีปริมาณกี่ออนซ์ เพราะเด็กแต่ละวัยจะมีความต้องการดื่มนมไม่เท่ากัน เรียกว่าเป็นการใช้ฟังก์ชันเสริมให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเป็นแบรนด์แรกในประเทศและต่างประเทศที่ทำออกมาในรูปแบบที่เน้นความน่ารัก และสีสันบนผลิตภัณฑ์ถุงเก็บนํ้านม ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ Toddler


➣ เน้นทำตลาดออนไลน์

สำหรับการทำตลาด ตั้งแต่เริ่มต้นจะมุ่งเน้นบนช่องทางออนไลน์ แม้ผลิตภัณฑ์จะถูกใจผู้บริโภค แต่ก็ยังกระจายตัวไปได้ไม่มากนัก เพราะยังเหมือนกับแบรนด์ทั่วไปในตลาดอยู่ เด่นแค่เรื่องคุณภาพ แต่เมื่อแบรนด์มีรูปลักษณ์ หรือ คาแรกเตอร์ที่ชัดเจนขึ้น ทำให้เริ่มเป็นที่สนใจ ยิ่งเมื่อแบรนด์เริ่มออกงานแสดงสินค้าตามงานที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก โดยมีกลุ่มดาราที่มีลูกมาใช้ผลิตภัณฑ์ และมีการแชร์ต่อถึงความน่ารัก และคุณภาพจากการใช้งาน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้น




"แบรนด์ของเราจะไม่มีหน้าร้าน แต่จะมีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วไปและตัวแทนจำหน่าย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคุณแม่ที่ใช้งานแล้วเกิดความชอบและต้องการมีรายได้ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงร้านจำหน่ายของใช้เด็กทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่ซื้อของออนไลน์ได้เข้าถึง เราจึงอยู่ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์"

อย่างไรก็ดี แบรนด์ยังได้ดำเนินการต่อยอดธุรกิจไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นถุงซิปล็อก เพื่อใช้สำหรับการเก็บสิ่งของที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ในการปั๊มนม ยา หรือ อาหารสำหรับเด็กในขนาดต่าง ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยสามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย ภายใต้แบรนด์ SealZip วางเป้าโต 20-30% ทุกปี

ด้านกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้ แบรนด์ยังคงมุ่งเน้นไปที่การออกงานแสดงสินค้า และการทำธุรกิจร่วมกับโรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมทั้งเปิดช่องทางออนไลน์ให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ และสอบถามปัญหา รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มของคุณแม่




ส่วนตลาดต่างประเทศ แบรนด์มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศสเปน เพราะเป็นประเทศที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าว แต่มีการจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างสูง และที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเจรจาทางธุรกิจกับตัวแทนจำหน่าย เพื่อเปิดหน้าร้านเป็นของตนเองร่วมกัน หลังจากที่แต่เดิมจะใช้วิธีสั่งสินค้าทางออนไลน์ เพื่อนำมาจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ อย่าง อีเบย์ (eBay) และอเมซอน (Amazon) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

วิภาวรรณ บอกอีกว่า บริษัทมีเป้าหมายทางรายได้ โดยให้มีการเติบโตที่ระดับ 20-30% ในทุกปี จากกลยุทธ์การทำตลาดที่จะมีมากขึ้น พร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทตั้งใจจะออกให้ได้ปีละ 1-2 ผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจะนำเสนอจะอยู่บนแนวทางของการเติบโตไปพร้อมกับเด็ก ต้องการให้ลูกค้าอยู่กับเราไปตลอดทุกวัย นอกจากงานที่เกี่ยวกับถุงพลาสติกแล้ว แบรนด์ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทแผ่นสำลีขนาดใหญ่ ขนาด 4X6 นิ้ว ผ้าเปียกสำหรับผิวเด็ก แผ่นซับนํ้านม ฯลฯ และล่าสุด ถุงเก็บนํ้านมแบบต่อสายจากเครื่องปั๊มลงถุงได้เลยทันที


| เรื่อง : นิธิโรจน์ เกิดบุญภานุวัฒน์

| ภาพ : ประเสริฐ ขวัญมา

หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3447 วันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2562