เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ดีเดย์1เม.ย.ให้บริการ 4 ช่องทางฝากเงินแทนการใช้ Pay-In

17 มี.ค. 2559 | 08:46 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  เนื่องจาก ASCO ได้กำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่ง กำหนดช่องทางในการรับเงินจากลูกค้าบุคคลธรรมดา และลูกค้าคณะบุคคล ตามช่องทางใดช่องทางหนึ่ง หรือหลายช่องทางดังต่อไปนี้  1.การรับเงินโดยหักบัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้าอัตโนมัติ (ATS) หรือโดยหักบัญชีแคชบาลานซ์ของลูกค้า (Cash Balance) 2.การรับเงินผ่านระบบที่สามารถระบุข้อมูลอ้างอิง (Reference Code) ที่ชัดเจน เช่น Bill Payment ซึ่งสามารถดำเนินการตามช่องทางต่างๆ เช่น เคาน์เตอร์ธนาคาร ตู้ ATM  หรือ E-Payment และ 3.การโอนเงินทางเครือข่ายอิเลคทรอนิกส์ระหว่างธนาคารผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (Bahtnet) ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 เป็นต้นไป ลูกค้าไม่สามารถฝาก/โอนเงินสดเข้าบัญชีบริษัทได้โดยตรง

ปัจจุบันทางบริษัทมีลูกค้าที่เปิดบัญชี ATS อยู่แล้ว 90% ยังคงเหลือลูกค้าบางส่วนเพียงประมาณ 10% ที่ยังคงใช้บริการโอนเงินเข้ามาที่บัญชีบริษัท และส่งหลักฐานการโอนเงินมาเพื่อทำการซื้อหลักทรัพย์ ตราสารอนุพันธ์ อื่นๆ แต่ด้วยเกณฑ์ใหม่ของ ASCO นักลงทุนต้องฝากเงินผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดเท่านั้น

ปัจจุบันบริษัทพัฒนาระบบพร้อมรองรับการฝากเงินทั้ง 4 ช่องทางเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ 1. E-Payment มีขั้นตอนการใช้งานง่ายเพียง Log In และทำรายการผ่าน Website ของบริษัท วงเงินจะขึ้นพร้อมซื้อขายทันทีหลังจากทำรายการฝากเงิน ซึ่งบริษัทแนะนำให้ลูกค้าใช้วิธีนี้ 2. ATS หรือ Cash Balance ลูกค้าสามารถแจ้งการฝากเงินเข้ามาผ่านทางผู้แนะนำการลงทุน ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ หรือทำผ่านหน้า Website ของบริษัทก็ได้ 3.Bill Payment ลูกค้าต้องระบุหมายเลขอ้างอิง (Reference Code) เพื่อฝากเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือ ตู้ ATM หรือ Internet Banking หรือ Mobile Banking ของธนาคารเข้ามา แต่จะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ฝากได้สูงสุด และค่าธรรมเนียมในการทำรายการขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร และ4.Bahtnet ลูกค้าที่เคยใช้บริการอยู่สามารถใช้งานได้ตามปกติ