องค์การเภสัชกรรมกวาดรายได้ 1.66 หมื่นล้าน เดินหน้าผลิตยาต่อ

23 ม.ค. 2562 | 09:24 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

องค์การเภสัชกรรมปลื้ม! ทำรายได้กว่า 1.66 หมื่นล้าน ช่วยรัฐประหยัดกว่า 7,500 ล้านบาท เดินหน้าผลิตยา วัคชีนไข้หวัดใหญ่ ขณะที่ สารสกัดต้นแบบกัญชาชุดแรกสำหรับศึกษาวิจัยในผู้ป่วยเริ่มได้กลางปี

นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการ องค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า องค์การเภสัชกรรมได้มีการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์การดำเนินงานใหม่ "เป็นองค์กรหลักเพื่อความมั่นคงทางยาและเวชภัณฑ์ของประเทศที่ทันสมัยและยั่งยืน" โดยมุ่งเน้นการผลิตยาและดำเนินงานที่เป็นมาตรฐานสากล และยังคงยึดมั่นดำเนินการวิจัยและผลิตยาเชิงสังคม ยาที่มีความจำเป็นในระบบสาธารณสุขไทย และสร้างความเข้มแข็งให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมเร่งสร้างนวัตกรรมยาและเวชภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีศักยภาพทางการแข่งขันและสอดรับกับรูปแบบการใช้ดูแลรักษาสุขภาพและความต้องการที่หลากหลายและเพิ่มมากขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา องค์การฯ มีผลประกอบการ 16,651 ล้านบาท ทำให้ช่วยรัฐประหยัดได้มากกว่า 7,500 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_378685" align="aligncenter" width="503"] แถลงผลการดำเนินงาน_190122_0048 นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์[/caption]

สำหรับในปีนี้ องค์การฯ ตั้งเป้าหมายผลประกอบการไว้ 16,720 ล้านบาท โดยมีโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ได้แก่ ด้านโรงงานผลิต (วัคซีน) ชีววัตถุ ที่ จ.สระบุรี จะได้วัคซีนที่ใช้ทำการทดสอบอาสาสมัครในเดือน พ.ค. นี้ และใช้เวลาในการติดตามผล 1 ปี โดยจะนำข้อมูลที่ได้ไปยื่นขอทะเบียนวัคซีนต่อไป ด้านโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อผลิตยาน้ำรับประทาน ยาครีม ยาขี้ผึ้ง ยาปราศจากเชื้อ ยาน้ำใช้ภายนอก ยาฉีด และยาเม็ด ที่จำเป็นในระบบสาธารณสุข รวมทั้งคลังที่ใช้สำหรับการสำรองวัตถุดิบและอุปกรณ์ งบประมาณจำนวน 5,607 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดในการคัดเลือกบริษัทผู้จ้างก่อสร้าง คาดว่าจะได้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างภายในเร็ว ๆ นี้


แถลงผลการดำเนินงาน_190122_0061 แถลงผลการดำเนินงาน_190122_0070

ในส่วนการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์นั้น คาดว่าปลายเดือน ก.พ. นี้ จะสามารถเริ่มทำการปลูกกัญชาสำหรับเป็นวัตถุดิบในการนำมาผลิตเป็นสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมายแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่องค์การฯ อ.ธัญบุรี ได้ และจะสามารถสกัดเป็นสารสกัดต้นแบบสำหรับมาศึกษาวิจัยพัฒนาและทำการศึกษาทดลองในผู้ป่วยที่ร่วมโครงการในกลางปีนี้ พร้อมกันนั้นจะทำการเพิ่มพื้นที่การปลูก และการศึกษา วิจัย พัฒนา สายพันธุ์กัญชาและผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชาให้มากขึ้นเป็นระดับกึ่งอุตสาหกรรม สำหรับทำการศึกษา ทดลอง ในผู้ป่วยได้ ที่เข้าร่วมโครงการในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นและกลุ่มโรคที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ในส่วนของผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรนั้น เป็นสิ่งที่องค์การฯ ได้ยกระดับให้เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่สำคัญ โดยมุ่งดำเนินด้านสมุนไพรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งยกระดับเทคโนโลยีและมาตรฐานการวิจัย พัฒนา และผลิตสารสกัดและรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปในระดับสากลมากขึ้น โดยเน้นผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรที่เป็นยารักษาโรค และขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศและการส่งออกสู่ต่างประเทศ


แถลงผลการดำเนินงาน_190122_0071

แถลงผลการดำเนินงาน_190122_0073

"ในช่วงปี 2562 นี้ ผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงยาใหม่ที่มีความจำเป็นในระบบสาธารณสุขไทย ไม่น้อยกว่า 3 รายการ อาทิ ยาต้านไวรัสเอดส์ชนิดเม็ดสูตรผสม 3 ชนิด ยาละลายลิ่มเลือด โคลพิโดเกรล ซึ่งก่อนหน้านี้ องค์การฯ จัดหาโดยนำเข้าจากต่างประเทศและกระจายตามการประกาศใช้สิทธิ์เหนือสิทธิ์บัตร หรือ CL มาตั้งแต่ปี 2551 นั้น ปัจจุบัน องค์การฯ ได้ทำการวิจัยและพัฒนาจนสามารถผลิตได้เอง ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว ซึ่งยานี้จะทำให้รัฐประหยัดงบประมาณได้ถึง 350 ล้านบาทต่อปี ในส่วนการสร้างการเข้าถึงยาในภาคประชาชนผ่านร้านขายยานั้น องค์การจะขยายแสวงหาพันธมิตรเพิ่มให้มากขึ้น จากเดิมที่ในปี 2561 ได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงยาผ่านร้านเพรียวในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีไปแล้วกว่า 140 สาขาทั่วประเทศ"

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว