กรมฝนหลวงฯ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยอง ปฏิบัติภารกิจสลายฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 62) ทำให้มีฝนตกในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองที่ปกคลุมเมืองหลวง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอยู่ในขณะนี้
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยหลังจากการประชุมหารือรายงานความคืบหน้าประมวลผลการดำเนินการและวางแผนการปฏิบัติการระหว่างส่วนกลางกับศูนย์ปฏิบัติการฯ ในภูมิภาคพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านวิดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ ว่า เมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 62) หลังจากปฏิบัติการฝนหลวงแล้ว ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในเขตราชเทวี พญาไท จตุจักร หนองจอก ห้วยขวาง ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย บางซื่อ พระนคร ลาดพร้าว บางพลัด ดินแดง สัมพันธวงศ์, จ.ปทุมธานี อ.สามโคก และ อ.ลาดหลุมแก้ว, จ.นนทบุรี อ.เมืองนนทบุรี และ อ.บางกรวย รวมถึง จ.สมุทรปราการ อ.เมืองสมุทรปราการ และ อ.บางพลี
ส่งผลให้ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศได้ดีระดับหนึ่ง และในวันนี้ (16 ม.ค. 62) ทางสถานีเรดาร์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการตรวจวัดสภาพอากาศในช่วงเช้าร่วมกับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยอง ก็ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศแล้ว พบว่า สภาพอากาศในวันนี้ยังคงเอื้อต่อการปฏิบัติการฯ และมีความชื้นสัมพัทธ์ในระดับปฏิบัติการที่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ในทางกลับกัน ส่วนของค่าการยกตัวของเมฆลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย และในช่วงบ่ายก็จะมีการตรวจวัดสภาพอากาศซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และหากในระหว่างวัน ถ้ามีแสงแดดก็จะทำให้ค่าการยกตัวของเมฆดีขึ้น
นายสุรสีห์ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการทำฝนเทียมในวันนี้ ได้มีการวางแผนให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการวางแกนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานเป็น 2 แกน คือ ภารกิจที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 สูตร 1(4/2) จำนวน 1,000 กก. บริเวณทิศเหนือ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถึงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ภารกิจที่ 2 ขั้นตอนที่ 1 สูตร 1(4/2) จำนวน 1,000 กก. ทิศเหนือ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ถึง อ.องครักษ์ จ.นครนายก เนื่องจากในวันนี้ เราหวังผลการปฏิบัติการให้มีความครอบคลุมในพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งในฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยกำชับให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วประสานความร่วมมือในการเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง และไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่ต้องการฝนในขณะนี้ด้วย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในความพร้อมของกรมฝนหลวงฯ ที่จะช่วยบรรเทาปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ โดยสามารถติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์/เพจ Facebook