แม้ว่าประธานาธิบดี
"โดนัลด์ ทรัมป์" แห่งสหรัฐอเมริกา จะมุ่งมั่นส่งเสริมให้บริษัทอเมริกันหันมาลงทุนและขยายการจ้างงานภายในประเทศของตัวเองมากกว่าการขนเงินออกไปลงทุนในประเทศอื่น ๆ ที่มีต้นทุนต่ำกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แผนการของ นายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ในระบบพลังงานหมุนเวียน เปลี่ยนใจไปจากแผนการที่ตั้งไว้ นั่นคือ การเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 66,000 ล้านบาท
เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ม.ค. 2562
'มัสก์' เขียนข้อความไว้ในทวิตเตอร์ว่า เขาหวังจะได้เห็นการวางศิลาฤกษ์โรงงานขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า
"กิกะแฟคทอรี่" ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ในวันนี้ โดยโรงงานดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 500,000 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้เทสล่ามีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นราว 2 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้นับเป็นโรงงานแห่งแรกของเทสล่าในประเทศจีน และยังจะเป็นโรงงานแห่งแรกในจีนที่บริษัทต่างชาติได้รับอนุญาตให้ลงทุนและเป็นเจ้าของทั้งหมด โดยไม่ต้องมีหุ้นส่วนเป็นบริษัทท้องถิ่นของจีน
มัสก์มองว่า การลงทุนในจีนเป็นวิสัยทัศน์ระยะยาว ในการเดินทางเยือนจีนเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เขาได้พบปะหารือกับผู้นำระดับอาวุโสของจีนหลายคน และยังได้มีการลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นกับรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเซี่ยงไฮ้เกี่ยวกับการลงทุนสร้างโรงงานกิกะแฟคทอรี่ แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้พื้นที่ก่อสร้างโรงงานของเทสล่าในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีอาณาบริเวณราว 860,000 ตารางเมตร มีการล้อมรั้วและปรับหน้าดินเอาไว้เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และการก่อสร้างก็น่าจะเริ่มขึ้นได้ในเร็ววัน
โรงงานแห่งนี้เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 ของเทสล่า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะผลิตในเชิงพาณิชย์ได้จำนวนมาก และทำให้สามารถปรับลดราคาจำหน่ายลงมาได้ เพื่อจะสามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ที่มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก