'บีโอไอ' หนุนใช้ "รถยนต์อีวี" ไฟเขียว! ตั้งสถานีชาร์จ 3 พันแห่ง

25 ธ.ค. 2561 | 10:52 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บีโอไอไฟเขียว! "พลังงานมหานคร" ลงทุนกว่า 1,000 ล้าน ตั้งสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 3,000 หัวจ่าย กระจายในทุกภาคทั่วประเทศ พร้อมอนุมัติโครงการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หนุนการเติบโต หลังค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกหันลงทุนในไทย ป้อนความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลกว่า 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2564

นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,092 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นโครงการลงทุนแห่งแรกในกิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของภาคเอกชน ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ

 

[caption id="attachment_366246" align="aligncenter" width="503"] นายโชคดี แก้วแสง นายโชคดี แก้วแสง[/caption]

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก หรือ ปลั๊ก-อินไฮบริด (Plug-In Hybrid Electric Vehicle : PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกได้ให้ความสนใจและวางแผนจะตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยตามแผนของการขับเคลื่อนด้านพลังงานและส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล คาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2564

"ปัจจุบันมีหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ขสมก., กฟน., กฟผ. และ ปตท. จัดให้มีสถานีอัดประจุไฟฟ้าบ้างแล้ว แต่เป็นเพียงโครงการนำร่องสำหรับรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า หรือ รถไฟฟ้าในหน่วยงาน ดังนั้น การลงทุนของบริษัทครั้งนี้ ซึ่งมีแผนกระจายการจัดตั้งสาขาสถานีบริการทั่วประเทศมากกว่า 3,000 หัวจ่าย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น ระยอง ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ภูเก็ต สงขลา และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น นอกจากจะเป็นการบริการและอำนวยความสะดวก สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้รถ ยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญให้บริษัทรถยนต์ลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น"


F6D8D7DC-1D4A-4424-89B4-B91EDA9549A6

นายโชคดี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ยังได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่ บริษัท ดีทีเอส แดร็ค เซิลไมเออร์ ออโทโมทีฟ ซีสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในกิจการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เงินลงทุนกว่า 542 ล้านบาท โดยโครงการนี้เป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญของระบบขับเคลื่อน ต้องใช้เทคโนโลยีทันสมัยและมีกระบวนการผลิตเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ นอกจากการลงทุนในกิจการครั้งนี้แล้ว บริษัทยังวางแผนจัดฝึกอบรมและส่งพนักงานคนไทยไปต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีในการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และการประกอบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่อีกด้วย

ทั้งนี้ บีโอไอประกาศให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการรถยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV) รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก หรือ ปลั๊ก-อินไฮบริด (Plug-In Hybrid Electric Vehicle : PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) รวมถึงกิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าและกิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย และสอดคล้องกับการเปลี่ยนเทคโนโลยียานยนต์ของโลก


B7C80D09-47E9-4DFE-B86D-629C69FA4F30

ปัจจุบัน มีค่ายรถยนต์ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ แล้วหลายโครงการ อาทิ โครงการผลิตรถยนต์ไฮบริดของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท นิสสันมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก หรือ ปลั๊ก-อินไฮบริด ได้แก่ เมอร์เซเดสเบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู เป็นต้น

595959859