"ตลาดยิ่งเจริญ" เปิดแผนรุกปี 62 ชูนโยบาย "Y Together" สานต่อตลาดต้นแบบยุค 4.0 เต็มสูบ พร้อมเปิดรับพรีออเดอร์สินค้าผ่านบริการ "ส่งสด" รับเทศกาลปีใหม่
นางสาวณฤมล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร
"ตลาดยิ่งเจริญ" เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจในปี 2562 มุ่งเน้นการสานต่อภายใต้แนวคิด
"Y Together" ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาองค์กรรอบด้าน การศึกษา สิ่งแวดล้อม และการแบ่งปัน เพื่อการพัฒนาตลาดยิ่งเจริญให้เกิดการยอมรับจากทั้งผู้ค้า องค์กรธุรกิจ ชุมชน และประชาชนทั่วไป ให้เป็นตลาดสดมาตรฐานของประเทศไทย โดยเน้นการพัฒนาตลาดสู่การเป็น Green Market ตลาดยิ่งเจริญยังคงมุ่งการบริหารแบบมีส่วนร่วมและก้าวเดินไปด้วยกันอย่างยั่งยืนและมั่นคงไปพร้อม ๆ กับกลุ่มของคู่ค้า ลูกค้า พันธมิตร และชุมชน เน้นการพัฒนาศักยภาพและทักษะการเรียนรู้ของกลุ่มพันธมิตรในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสร้างสรรค์ โดยที่ผ่านมา จากการดำเนินนโยบาย
"Y Together" มีผลตอบรับจากสังคม ผู้ค้า และชุมชน เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตามวิสัยทัศน์
"ศูนย์กลางการค้าต้นแบบ ยกระดับมาตรฐานสากล สุดยอดแหล่งอาหารสุขภาวะสังคม"
"ปีหน้าตลาดยิ่งเจริญยังคงเดินหน้าต่อเนื่องนโยบาย Y Together ประกอบกับตลาดถือเป็นศูนย์กลางแหล่งอาหาร แหล่งปากท้องที่สำคัญ ดังนั้น ความรับผิดชอบต่อสังคมจึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด และที่ผ่านมาได้มีการจัดระเบียบพื้นที่ตลาดใหม่ เน้นความเป็นสัดส่วน สะอาด สะดวก ปลอดภัย สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค และด้วยความพร้อมหลาย ๆ ด้าน ทั้งเป็นตลาดค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สำคัญของกรุงเทพฯตอนเหนือและบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งมีบริการสั่งซื้อสินค้าพร้อมจัดส่งถึงที่หมายได้ง่าย ได้สินค้ามีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องเดินทางมาเอง ผ่าน
"ส่งสด" ตามสโลแกน
"ตลาดยิ่งเจริญ ครบ จบในที่เดียว""
ด้าน นางกัญจนิดา ตันติสุนทร กรรมการบริหาร
"ตลาดยิ่งเจริญ" กล่าวว่า ตลาดยิ่งเจริญดำเนินโครงการ
"Y-Selection" โดยเดินหน้าคัดสรรสินค้าจากผู้ค้าในตลาด ชุมชน นำมาสร้างมูลค่าเพิ่มสู่ผู้บริโภค โดยสินค้าจากชุมชนและสินค้าเด่น ๆ ในตลาดที่นำมาจำหน่ายในร้านยิ่งสุขและได้รับผลตอบรับอย่างมีพัฒนาการ ทางตลาดได้จัดงานเทศกาลของขวัญ Gift Fair ภายในร้านยิ่งสุขอีกด้วย โดยร้านยิ่งสุขได้เปิดรับรับออเดอร์กระเช้าของขวัญ โดยทำการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพในตลาด ซึ่งสามารถสั่งทำชุดของขวัญได้ตั้งแต่ราคาที่ย่อมเยา ให้เลือกสรรกว่า 10 หมวดหมู่ ประกอบด้วย ชุดกระเช้าของขวัญกระเช้าหมูอยู่ยั่งยืน, กระเช้าอิ่มบุญ, ของขวัญผลไม้สุขภาพ, ของขวัญผักปลอดภัย, ของขวัญสุขภาพยั่งยืน, ของขวัญสมุนไพรสปาธรรมชาติ, ของขวัญคนรักชา, ของขวัญคนรักกาแฟ, ของขวัญแม่ครัวตัวจริง, ของขวัญสำหรับเด็ก รวมถึงอาหารสด อาหารแห้ง ของทะเล เนื้อสัตว์ ผักสด และผลไม้ สามารถสั่งได้เพื่อต้อนรับปีหมูทอง ซึ่งผู้ซื้อสามารถขอใบกำกับภาษีจากตลาดได้ ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าวยังเป็นการสร้างช่องทางการขายสินค้าปีใหม่กับกับคู่ค้าในตลาดอีกด้วย
ขณะที่ นายอริย ธรรมวัฒนะ กรรมการบริหาร
"ตลาดยิ่งเจริญ" กล่าวว่า เพื่อมุ่งสู่ตลาดสดยุค 4.0 อย่างต่อเนื่อง ในช่วงเทศกาล
"ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่" บริการ
"ส่งสด" ได้จัดงาน Gift Fair ภายใต้ธีมงาน
"Give Greatest Gifts" ให้สิ่งที่ดีที่สุด เทศกาลสินค้าของขวัญจากสินค้าของผู้ค้าของตลาดยิ่งเจริญ โดยได้รับการปรับโฉมรูปแบบบรรจุภัณฑ์จากทีมงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ที่มาพร้อมกับความสวยงาม สามารถเลือกซื้อเป็นของขวัญ ของที่ระลึกในราคาพิเศษ มอบแด่คนพิเศษ ที่พร้อมส่งตรงถึงทุกครอบครัว โดยสามารถสั่งซื้อผ่านบริการ
"ส่งสด" ผู้ที่สนใจสามารถพรีออเดอร์สินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2561 ถึงวันที่ 2 ม.ค. 2562 โดยมีสินค้าหลากหลายให้เลือกสรร ประกอบด้วย ชุดกระเช้าของขวัญ รวมถึงอาหารสด อาหารแห้ง ของทะเล เนื้อสัตว์ ผักสด และผลไม้ ตลอดจนอาหารสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน สามารถสั่งผ่านช่องทาง
www.songsod.com / Fb : songsoddelivery, แอพพลิเคชัน Line : @songsod เนื่องจากที่ผ่านมา ช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีลูกค้ารอจับจ่ายซื้อของและเข้าคิวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เสียเวลาในการจับจ่าย การสั่งพรีออเดอร์สินค้าล่วงหน้าจะช่วยให้การสั่งสินค้ามีความสะดวกสบายและรวดเร็วแก่ลูกค้ามากขึ้น
ปัจจุบัน ตลาดยิ่งเจริญตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 30 ไร่ มีจำนวนร้านค้าประมาณ 1,500 ร้าน แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการซื้อสินค้าครบทุกประเภท นอกจากนี้ยังมีโซนต่าง ๆ เปิดให้บริการอีก เช่น โซนตลาดนัดคนกันเอง, ตลาดนัดคลองถม 2, ลานโปรโมชั่น, ยิ่งเจริญพลาซ่า, ศูนย์อาหารให้บริการ 24 ชั่วโมง และโรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญ เป็นต้น ตลาดยิ่งเจริญถือเป็นตลาดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีคนเข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาดสดจำนวนประมาณ 20,000 คนต่อวัน โดยพบว่า มีรถเข้ามาใช้บริการราว 7,000–8,000 คัน ในวันปกติ และในเทศกาลสำคัญไม่ต่ำกว่า 10,000 คันต่อวัน แบ่งสินค้าออกเป็น 15 กลุ่ม ได้แก่ 1.เนื้อสัตว์ 2.ปลาและของทะเล 3.ผัก 4.สินค้าชำ 5.อาหารแปรรูป 6.อาหารสำเร็จรูป 7.เครื่องดื่ม 8.สินค้าทานเล่น ขนม 9.ผลไม้ 10.ดอกไม้ 11.เครื่องแต่งกาย 12.อุปกรณ์เครื่องใช้ 13.อุปกรณ์ไอที 14.บริการ 15.อื่น ๆ