ยอดติดตั้ง "ถัง LPG" พุ่ง! รถหนีราคานํ้ามันขยับ

18 ธ.ค. 2561 | 05:19 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ธ.ค. 2561 | 19:47 น.
"สมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย" เผย ยอดติดตั้งถังแอลพีจีช่วงนี้กระเตื้อง ล่าสุด "เอนเนอร์จี รีฟอร์ม" รับ 200-300 คันต่อเดือน จากช่วงต้นปีซบเซา 80-100 คันต่อเดือน รอดูท่าทีภาครัฐหนุนดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้า รออีก 2 ปี ราคาแบตเตอรี่ลงเหลือ 1.2 แสนบาท พร้อมเปิดศูนย์ดัดแปลงเชิงพาณิชย์

นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้แทนจำหน่ายชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซรถยนต์และในฐานะนายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า ปัจจุบันมียอดติดตั้งถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เพิ่มขึ้น โดยเห็นได้ว่า ยอดติดตั้งถังก๊าซของบริษัทในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 คันต่อเดือน เทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 80-100 คันต่อเดือน ซึ่งยอดติดตั้งเริ่มกระเตื้องขึ้นเมื่อช่วงกลางปี 2561 ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 3 ปี หมดประกันศูนย์ จึงกล้าติดตั้งถังก๊าซ เนื่องจากราคาแอลพีจีที่ถูกกว่านํ้ามันครึ่งหนึ่งอยู่ที่ 13-14 บาทต่อลิตร และมีระยะทางการวิ่งได้มากกว่าการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลที่บางคันก็ถอดถังเอ็นจีวีออกแล้วหันมาติดตั้งถังแอลพีจีแทน

สำหรับการติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีจะมีเพียงกลุ่มรถแท็กซี่เท่านั้น เพราะปัจจุบันราคาขายปลีกเอ็นจีวี ณ สถานีบริการ อยู่ที่ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม ประกอบกับภาครัฐไม่มีมาตรการส่งเสริมการใช้เอ็นจีวี ปล่อยให้ผู้ประกอบการรับภาระราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเห็นว่ายอดขายเอ็นจีวีในสถานีบริการช่วงนี้ก็เริ่มลดลงเช่นกัน


Picture 038

"ตอนนี้ภาพรวมตลาดติดตั้งก๊าซรถยนต์เริ่มดีขึ้น ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแอลพีจี สาเหตุมาจากกลุ่มรถยนต์ที่อายุเก่า อายุครบ 3 ปี หมดระยะประกัน จึงกล้าติดตั้ง เพราะส่วนต่างราคานํ้ามันและก๊าซไม่เท่ากัน ซึ่งราคาแอลพีจีถูกกว่านํ้ามันครึ่งหนึ่ง เนื่องจากแอลพีจีเป็นผลิตภัณฑ์จากนํ้ามัน ดังนั้น การติดตั้งถังก๊าซแอลพีจีในช่วงนี้จะไม่หวือหวาเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ราคาแอลพีจีถูกกว่านํ้ามัน 3 เท่า แต่กลุ่มลูกค้าเห็นว่า ราคาแอลพีจีถูกกว่านํ้ามันและติดตั้งปลอดภัย ทำให้ช่วงนี้มียอดติดตั้งเข้ามามากขึ้น"

นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการติดตั้งถังก๊าซในรถยนต์ในปี 2562 นั้น คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีนี้ หากราคานํ้ามัน ก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี ยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้ และคาดว่ายอดติดตั้งถังแอลพีจีจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเอ็นจีวี เนื่องจากติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง และมีจำนวนสถานีบริการที่มาก

ส่วนการปรับตัวของผู้ประกอบการติดตั้งก๊าซรถยนต์นั้น ที่ผ่านมาส่วนหนึ่งจะหันมาดำเนินธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในธุรกิจดัดแปลงรถยนต์เชื้อเพลิงนํ้ามัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่ปัจจุบัน ต้นทุนยังสูง เฉลี่ย 4-5 แสนบาทต่อคัน เนื่องจากต้นทุนคิดเป็นสัดส่วน 60% มาจากราคาแบตเตอรี่ ดังนั้น คาดว่าในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า ราคาแบตเตอรี่จะลดลง หลังจากภาครัฐส่งเสริมให้ผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ เข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย

ดังนั้น คาดว่าแนวโน้มต้นทุนดัดแปลงรถยนต์นํ้ามันเป็นไฟฟ้าในอีก 2 ปีข้างหน้า จะอยู่ที่ 8 หมื่นบาท - 1.2 แสนบาทต่อคัน บริษัทมีความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากมีสถานที่ อู่ติดตั้ง เทคโนโลยี และแบรนด์ พร้อมแล้ว

ส่วนกรณีที่บางรายแจ้งว่า ต้นทุนดัดแปลงรถยนต์นํ้ามันเป็นไฟฟ้าเพียง 2 แสนบาทต่อคันนั้น ก็สามารถทำได้ แต่จะเป็นแบตเตอรี่ธรรมดา ราคาถูก วิ่งได้ระยะทางเพียง 100 กิโลเมตรเท่านั้น เทียบกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ที่ชาร์จ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 300-400 กิโลเมตร ใกล้เคียงกับนํ้ามัน ดังนั้น บริษัทจึงต้องรอให้ต้นทุนแบตเตอรี่ลดลงใกล้เคียงกับระดับดังกล่าวก่อน จากนั้นจะเข้ามาดำเนินธุรกิจดัดแปลงรถยนต์นํ้ามันเป็นไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แน่นอน

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,426 วันที่ 13-15 ธันวาคม 2561

595959859