ควัก 5 พันล้าน! อุ้ม LPG สวนทางราคานํ้ามันขาลง

01 ธ.ค. 2561 | 00:36 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กระทรวงพลังงานยันตรึงราคาแอลพีจียาว ชี้! ปัจจัยราคานํ้ามันในตลาดโลกยังไม่เอื้อ ฉุดให้แอลพีจีลงมาตํ่าที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันได้ ส่งผลให้ปัจจุบันยังต้องควักเงินกองทุนนํ้ามันฯ อุ้ม 1-2 บาทต่อกิโลกรัม กระทบฐานะกองทุน ติดลบกว่า 5 พันล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ถึงสถานการณ์ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจี ว่า จากราคาแอลพีจีในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันราคาเฉลี่ยแอลพีจี (LPG Cargo) อยู่ที่ 465 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เทียบกับช่วงต้นเดือน พ.ย. 2561 ราคาอยู่ที่ 532 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่งผลให้กองทุนนํ้ามันฯ บัญชีแอลพีจี ชดเชยลดลงเหลือประมาณ 1-2 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่เคยชดเชย 6-7 บาทต่อกิโลกรัม


ภาพประกอบสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว3

โดย นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ติดตามสถานการณ์ราคานํ้ามันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาแอลพีจีปรับตัวขึ้นลงตามราคานํ้ามันด้วย ขณะที่ ราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจียังคุมราคาไว้ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม

"แม้ว่าราคาแอลพีจีจะลดลงมาก แต่กระทรวงพลังงานยังไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินจากแอลพีจีเข้ากองทุนนํ้ามันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น เพราะยังเป็นราคาที่ต้องชดเชย คงต้องรอให้ราคาลงมาตํ่ากว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จะเป็นราคาที่ไม่ต้องใช้เงินจากกองทุนเข้ามาชดเชย แต่แนวโน้มค่อนข้างน้อย เพราะขณะนี้ราคาแอลพีจีผันผวนมาก เพียงแค่ 1-2 สัปดาห์ ราคาลดลงมาก แต่ในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ ราคามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะช่วงปลายปีของทุกปีราคาแอลพีจีจะสูงขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว"


lpg

"ตอนนี้กระทรวงพลังงานเรียกเก็บเงินจากกลุ่มนํ้ามันเบนซินและดีเซลเพิ่ม ล่าสุด กบง. เรียกเก็บเพิ่มอีก 50-70 สตางค์ต่อลิตร และเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแจ้งว่า ยังไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินจากกลุ่มนํ้ามันเพิ่ม เนื่องจากเป็นอัตราที่เพียงพอ แต่จะปล่อยให้ราคาขายปลีกลดลงตามตลาดโลก ส่วนราคาแอลพีจียังตรึงไว้เช่นเดิม"

นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลง ล่าสุด ราคา
นํ้ามันดิบดูไบอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 1-2 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาก๊าซแอลพีจีลดลงเช่นกัน อยู่ที่ประมาณ 460 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

อย่างไรก็ตาม ให้จับตาแนวโน้มราคาแอลพีจีในช่วงปลายปี ซึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้แอลพีจีมาก ทำให้ราคาช่วงนั้นจะปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ในปีนี้อาจจะยังไม่เห็นกองทุนบัญชีแอลพีจีกลับมาเป็นบวก จากปัจจุบันติดลบอยู่ประมาณ 5 พันล้านบาท ขณะที่ กองทุนนํ้ามันเชื้อเพลิงเป็นบวก 2.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น อัตราชดเชยจากกองทุนนํ้ามันฯ จะลดลง แต่การเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนจากแอลพีจีคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากปลายปีจะมีราคาสูงขึ้น แต่กระทรวงพลังงานสามารถเรียกเก็บเงินจากดีเซลเพิ่มขึ้นได้อีก จากปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 0.7 บาทต่อลิตร


DSCF9127

"แนวโน้มราคาแอลพีจีที่ลดลงในช่วงนี้ ทำให้กองทุนชดเชยน้อยลง แต่จะกลับมาเป็นบวกนั้นคงยาก เพราะช่วงปลายปีราคาจะสูง เพราะเข้าสู่ฤดูหนาว และหากจะลดลงจนถึงระดับที่กองทุนไม่ต้องชดเชยเลยนั้น ราคาแอลพีจีต้องอยู่ที่ระดับ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ซึ่งโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ปัจจุบัน กระทรวงพลังงานยังมีนโยบายตรึงราคาแอลพีจีไว้ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม" นายมนูญ กล่าว

ปัจจุบัน กองทุนนํ้ามันเชื้อเพลิงมีฐานะเป็นบวก 2.3 หมื่นล้านบาท มีเงินไหลเข้าจากการเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากกลุ่มเบนซินและดีเซล แบ่งเป็น เบนซินเรียกเก็บอยู่ที่ 8.58 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 อยู่ที่ 2.62 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ อี20 ชดเชยอยู่ที่ 0.28 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ อี85 ชดเชยอยู่ที่ 5.88 บาทต่อลิตร, ดีเซล เรียกเก็บอยู่ที่ 0.7 บาทต่อลิตร, ไบโอดีเซล บี20 ชดเชยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร และแอลพีจีชดเชยอยู่ที่ 1.6 บาทต่อกิโลกรัม

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,422 วันที่ 29 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2561

595959859