'เงินบาท' แนวโน้มอ่อนค่าต่อ เหตุนักลงทุนต่างชาติขายหุ้น

24 ต.ค. 2561 | 00:51 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดเช้าวันนี้ (24 ต.ค. 61) ที่ระดับ 32.80 บาท แข็งค่าจาก 32.77 บาท ในช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ตลาดการเงินโลกยังอยู่ในอารมณ์ปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) โดยปัจจัยที่ตลาดมีความกังวลมาก ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องสงครามการค้า ที่กำลังกระทบเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ, แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และความวุ่นวายทางการเมืองทั่วโลก ซึ่งตลาดเชื่อว่า ทุกปัญหาจะไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในระยะสั้น จึงทยอยลดความเสี่ยงลง

ด้าน นักลงทุนสหรัฐฯ มองรายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทจดทะเบียนเป็นข่าวร้าย อาจไม่ยั่งยืน แม้มากกว่าครึ่งจะรายงานกำไรออกมาดีกว่าคาด แต่มีโอกาสที่รายได้จะไม่ขยายตัวในอนาคต เพราะกลัวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว และมีความเสี่ยงที่จะพบกับเศรษฐกิจถดถอย

ภาพรวมดังกล่าวส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัย รวมไปถึงสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นทันที โดยล่าสุด บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงมาที่ระดับ 3.16% เงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าลงมาที่ 112.45 เยนต่อดอลลาร์ และราคาทองที่ปรับตัวขึ้นมาที่ 1231 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ภาพตลาดดังกล่าว ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่า เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั่วไป อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อว่า ภาวะปัจจุบันที่บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับตัวลง ชี้ว่าความผันผวนที่เพิ่มขึ้นกระทบตลาดการเงินและการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นกัน ดังนั้น ดอลลาร์สหรัฐฯ จึงอาจไม่แข็งค่าเร็วเหมือนช่วงที่ผ่านมา และเงินเยนจะเป็นตัวเลือกของสินทรัพย์ปลอดภัยแทนที่

ส่วนของค่าเงินบาท ช่วงนี้ภาพหลักจะเป็นการอ่อนค่าตามทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค เพราะแนวโน้มการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติตามตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวลง เป็นแรงส่งให้เงินบาทอ่อนค่าได้เช่นกัน แต่มองว่า เงินบาทจะไม่ใช่สกุลเงินที่อ่อนค่าเร็ว เพราะตลาดจัดเงินบาทเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่าสกุลเงินตลาดเกิดใหม่เอเชียทั่วไป จึงมีแรงซื้อบอนด์เข้ามาช่วยถ่วงดุลไว้ โดยวันนี้ (24 ต.ค. 61) กรอบค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 32.72-32.88 บาท


บาร์ไลน์ฐาน