ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังพายุ Gordon อ่อนกำลังลง เคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันดิบ

06 ก.ย. 2561 | 02:56 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ราคาน้ำมันดิบร่วงหลังพายุ Gordon อ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันดิบ

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 6 กันยายน 2561

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับพายุฤดูร้อน Gordon ที่อ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันดิบ จากก่อนหน้านี้ บริษัทขุดเจาะน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกได้อพยพคนงานและปิดทำการผลิตเพื่อเตรียมรับมือกับพายุดังกล่าว โดยมีการหยุดผลิตน้ำมันดิบ 156,907 บาร์เรลต่อวันในช่วงเวลาดังกล่าว

- ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดย Donald Trump ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้มีท่าทีที่จะเพิ่มรายการการปรับขึ้นภาษีที่สหรัฐฯ นำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการขึ้นภาษีสินค้าหลายรายการไปแล้ว ซึ่งสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันได้

- นอกจากนี้ วิกฤติทางการเงินในตุรกีก็เป็นอีกปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หลังค่าเงิน Lira ของตุรกีได้อ่อนค่าลงไปกว่าร้อยละ 40 ในปีนี้เทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ

- หลังตลาดปิดทำการ สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) ได้ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนหน้าพบว่า ปรับตัวลดลง 1.17 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ระดับ 1.29 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันเบนซินจากประเทศอินเดียและการประกาศขึ้นราคาขายปลีกในประเทศจีน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดีเซลในประเทศอินเดียที่เพิ่มขึ้นประกอบกับราคาขายปลีกประกาศในประเทศจีนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

090861-1927 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 75-80  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

สำนักข่าว Reuters เผยปริมาณการส่งน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือน ส.ค. 61 ลดลงมาแตะระดับ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับสูงสุดที่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังได้เผชิญหน้ากับการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ซึ่งกำกับให้ทุกประเทศหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านนับตั้งแต่ 4 พ.ย. 61 นี้เป็นต้นไป

ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลามีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากท่าเรือขนส่งน้ำมันหลักของประเทศได้มีการหยุดดำเนินการลง หลังเกิดเหตุเรือขนส่งน้ำมันดิบชนกัน

จับตาการการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกในเดือน ก.ย. ว่าจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นเพื่อชดเชยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านที่หายไปหรือไม่

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ 23626556