อู่ติดตั้งถังก๊าซ เร่งปรับตัวหันซบรถยนต์อีวี ชง “ศิริ” พิจารณาเงินอุดหนุนติดตั้งชุดดัดแปลงอีวี 30-50% พร้อมออกมาตรการจูงใจผู้ประกอบการตั้งโรงงานอุปกรณ์อีวี-มอเตอร์ไฟฟ้า-แบตเตอรี่ในประเทศไทย มั่นใจอีก 2 ปีต้นทุนรถยนต์อีวีลด
นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจก๊าซรถยนต์ไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้สมาคมยังรอความชัดเจนนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ของภาครัฐ โดยต้องการให้นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการดัดแปลงรถยนต์นํ้ามันเป็นรถยนต์อีวี อาจอยู่ในระดับ 30-50% ของมูลค่าทั้งหมด หรือการลดภาษีนิติบุคคลเพื่อจูงใจให้ประชาชนนำรถยนต์มาดัดแปลงเป็นอีวีเพิ่มขึ้น
[caption id="attachment_240507" align="aligncenter" width="313"]
ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน[/caption]
พร้อมกันนี้ ภาครัฐควรมีมาตรการจูงใจ การส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนโรงงานผลิตอุปกรณ์รถยนต์อีวี มอเตอร์ไฟฟ้า กล่องสมองกล (Electronic Control Unit:ECU) และแบตเตอรี่ ในประเทศไทย เพื่อช่วยตอบโจทย์ของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมรถยนต์อีวีให้ได้ 1.2 ล้านคันภายในปี 2579 เพราะหากรอเพียงรถยนต์ใหม่อย่างเดียวยังมีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับรถยนต์นํ้ามัน
โดยปัจจุบันการดัดแปลงรถยนต์นํ้ามันเป็นไฟฟ้ายังมีราคาแพงมาก ค่าอุปกรณ์ 4-5 แสนบาทต่อคัน เทียบกับแอลพีจีเพียง 2 หมื่นบาทต่อคันเท่านั้น โดยต้นทุนที่แพงมาจากแบตเตอรี่ คิดเป็น 60% ของต้นทุนทั้งหมด หากทำให้ต้นทุนราคาแบตเตอรี่ถูกลง หรือส่งเสริมตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ คาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าต้นทุนดัดแปลงรถยนต์อีวีจะลดลงเหลือ 1 แสนบาทต่อคัน ทำให้ประชาชนสนใจมากขึ้น นอกจากนี้การส่งเสริมสถานีชาร์จไฟฟ้าควรเพิ่มขึ้นและครอบคลุมทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประ กอบการอู่ติดตั้งถังก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี ยังรอความชัดเจนจากทางภาครัฐ และเร่งปรับตัวเพื่อหันไปจับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะหลังจากยอดติดตั้งถังแอลพีจีและเอ็นจีวีลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากตัดสินใจปิดกิจการ หรือบางรายหันไปปรับเป็นธุรกิจซ่อมบำรุงแทน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560