ทอท. อ้างอะไหล่หมด ... CTX โต้! ใช้ยันปี 2030

04 ธ.ค. 2560 | 11:33 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

1909

“นิตินัย” แจงแผนเปลี่ยน “ซีทีเอ็กซ์” 26 เครื่อง สนามบินสุวรรณภูมิ เหตุเลิกผลิตอะไหล่ ยัน! ยังไม่เปลี่ยนสเปกความเร็วเป็น 0.5 เมตรต่อวินาที ชี้! เกณฑ์พิจารณารองรับ 15 ปีข้างหน้า รับเดินตามที่ปรึกษาสิงคโปร์

“ฐานเศรษฐกิจ” เสนอข่าวประเด็นที่ บริษัท Smiths Detection (Smiths-SD) ได้ทำหนังสือประท้วงไปยังกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสำเนาเสนอประธานบอร์ด ทอท. พิจารณาถึงข้อกังวลความสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น และมีแนวโน้มต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น หากมีการเปลี่ยนระบบการตรวจสอบวัตถุระเบิดและสายพานลำเลียงกระเป๋าภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และการกำหนดความเร็วในการตรวจสอบสัมภาระ จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.3 เมตรต่อวินาที มาเป็น 0.5 เมตรต่อวินาที ที่หวั่นว่าจะส่อให้เกิดการล็อกสเปกเกิดขึ้น

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ตนรับหนังสือร้องเรียนของบริษัทไว้พิจารณา และยืนยันว่า โครงการปรับปรุงเครื่องเอกซ์เรย์ของระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ทดแทนเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9400 จำนวน 26 เครื่อง ที่ใช้งานอยู่ตั้งแต่เปิดสนามบิน ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนสเปกความเร็วในการตรวจสอบกระเป๋า จากความเร็ว 0.3 เมตรต่อวินาที เป็น 0.5 เมตรต่อวินาที ส่วนที่ ทอท. ต้องเปลี่ยนระบบ เป็นเพราะอะไหล่ในรุ่นนี้ทางซีทีเอ็กซ์แจ้งว่า จะไม่มีการผลิตออกมาแล้ว เพราะตกรุ่น ประกอบกับระบบนี้มีอายุการใช้งานมากว่า 11 ปีแล้ว




T04-07-16-7

| ยัน! มอง 15 ปีข้างหน้า |
ทั้งนี้ การกำหนดสเปก หรือ คุณสมบัติของเครื่องและระบบใหม่ ผู้พิจารณา คือ คณะอนุกรรมการพัสดุของ ทอท. ไม่ใช่ตน ซึ่งเกณฑ์ในการพิจารณาถึงระบบใหม่ที่จะนำมาใช้แทนระบบปัจจุบัน คือ ซีทีเอ็กซ์ 9000 ซึ่งมีความเร็วในการตรวจกระเป๋า 0.3 เมตรต่อวินาที และหากระบบใหม่ติดตั้งระบบเสร็จในปี 2562 ซีทีเอ็กซ์รุ่นนี้จะมีอายุการใช้งานรวมกว่า 13 ปี

สเปกการปรับปรุงใหม่ ทอท. ต้องคำนึงเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ ต้องมีความทันสมัยกว่าเดิมเป็นสำคัญ ไม่ใช่ประเด็นแค่เรื่องความเร็วเท่านั้น เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำเข้ามาต้องรองรับได้ในระยะยาว ถึง 13-15 ปีข้างหน้า หรือ ถึงปี 2577

ในฐานะเป็นฝ่ายบริหาร จะดูใน 2 ปัจจัย คือ

1.เชิงคุณภาพ ซึ่งสเปกของเครื่องเอกซ์เรย์ระบบใหม่นี้ ต้องมีมาตรฐานระดับโลก ควรต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Transportation Security Administration (TSA)

2.เชิงปริมาณ คือ ศักยภาพในการใช้งานที่ต้องรองรับได้ไปอีก 13-15 ปี นับจากติดตั้งเสร็จในปี 2562

ส่วนกรณีที่มีการพูดกันถึงความเร็วในการตรวจที่ 0.5 เมตรต่อวินาที เนื่องจากเป็นเครื่องรุ่นใหม่ แน่นอนว่า ตรวจได้เร็วกว่ารุ่นเดิม ที่อยู่ที่ 0.3 เมตรต่อวินาที ซึ่งความเร็ว 0.5 เมตรต่อวินาที ปัจจุบัน ทาง TSA ออกใบรับรองให้กับเครื่องเอกซ์เรย์แอล 3 แล้ว


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

“ความเร็วต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องเทคนิค ทอท. จ้างทีมที่ปรึกษามาช่วยเราดู ซึ่งหนึ่งในทีมก็มีที่ปรึกษาเป็นสิงคโปร์ แต่วันนี้ยังบอกไม่ได้ว่า จะเป็นความเร็วที่ 0.5 เมตรต่อวินาที หรือ ความเร็ว 0.3 เมตรต่อวินาที จะต้องตกไป เพราะเกณฑ์ที่เราดู ต้องเน้นเรื่องของการรองรับให้ได้ไปอีก 13-15 ปี เป็นสำคัญ”

| ‘ซีทีเอ็กซ์’ ยัน! มีอะไหล่ถึงปี 2030 |
Mr.Scott Basham ผอ.ฝ่ายขาย บริษัท Smiths Detection ได้ยื่นหนังสือถึง ทอท. โดยระบุว่า เครื่องซีทีเอ็กซ์ 9400 สามารถสนับสนุนอะไหล่ไปอีก 10 ปี และขณะนี้ บริษัทผลิตรุ่นซีทีเอ็กซ์ 9800 สนับสนุนอะไหล่ไปจนถึงปี 2030 ซึ่งเครื่องซีทีเอ็กซ์ที่ติดตั้งนั้นใช้อะไหล่ร่วมกันได้ ที่สำคัญ เครื่องซีทีเอ็กซ์มีฐานของเครื่อง มีขนาดและตำแหน่งเดียวกัน ดังนั้น ผลกระทบต่อระบบสายพานลำเลียง Baggage Handking (BHS) ที่มีอยู่ หรือ การจัดการสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระใหม่ ที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในระบบจะมีน้อยมาก

นายสราวุธ สรัคคานนท์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารพัสดุ ฝ่ายสนับสนุนโครงการ ทอท. กล่าวว่า วันที่ 1 ธ.ค. เป็นการประกาศผลของคุณสมบัติให้ผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 3 ราย ได้รับทราบ ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ฯ กลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงานล็อกซเลย์-แอลพีเอส และเอวีทีคอนซอร์เตียม ซึ่งทั้ง 3 ราย ก็ผ่านคุณสมบัติครบถ้วน


02-3318

ส่วนขั้นตอนต่อไป จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติด้านเทคนิคและซองราคาไปพร้อมกัน ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 800 คะแนน จาก 1,000 คะแนน ซึ่งหากไม่มีปัญหาใด ๆ จะประกาศผลให้รับทราบได้ในวันที่ 18 ธ.ค. นี้


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,319 วันที่ 3-6 ธ.ค. 2560 หน้า 01-02

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว