ช็อปช่วยชาติดันแรงซื้อ สร้างบรรยากาศ‘ร้านอาหาร แฟชั่น ค้าปลีก’คึกคัก

11 พ.ย. 2560 | 12:39 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

มั่นใจมาตรการช็อปช่วยชาติ ปลุกมู้ดกำลังซื้อในประเทศฟื้น  แฟชั่น ค้าปลีกเตรียมพร้อมรับมือทัพนักช็อปพาเหรดใช้เงิน เล็งอัดแคมเปญโกยยอดขาย เพิ่มพนักงาน ระบบการออกใบภาษี คาดดันรายได้โตส่งท้ายปี

มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศ หรือ “ช็อปช่วยชาติ” ถือเป็นหมัดเด็ดที่กระทรวงการคลังส่งออกมากระตุ้นผู้บริโภคในประเทศให้ออกมาจับจ่ายใช้สอย หลังจากที่ภาคเอกชนต่างออกมาโอดครวญว่าตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา กำลังซื้อและเศรษฐกิจในประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่ผลสำเร็จในการจัดมาตรการช็อปช่วยชาติที่เกิดขึ้นใน 2 ครั้งที่ผ่านมา ต่างได้รับการตอบรับดีมีเม็ดเงินสะพัดในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร และธุรกิจบริการ ซึ่งปี 2559 ที่ผ่านมาศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่ามีมูลค่าสูงถึง 1.3 หมื่นล้านบาท และคาดว่าปีนี้ก็จะมีเงินสะพัดสูงขึ้นกว่าแน่นอน

โดยนางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้บริหารร้าน “บาร์บีคิว พลาซ่า” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเตรียมพร้อมรับมือมาตรการช็อปช่วยชาติ ที่ภาครัฐกำหนดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน-3 ธันวาคมนี้ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบโอเปอเรชันภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมของพนักงานในการออกใบกำกับภาษี เพิ่มจำนวนพนักงาน รวมถึงการขยายโซนบริการหน้าร้านที่เกี่ยวข้องกับการออกใบกำกับภาษี เพื่อให้การบริการภายในร้านไม่สะดุดและเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก

MP36-3312-A “ในขั้นตอนการเช็กบิลช่วงปกติของทางร้านจะใช้เวลาราว 5-10 นาที ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงที่มีมาตรการดังกล่าวทางบริษัทจะเร่งดำเนินการออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าภายในกรอบเวลาเดิมที่กำหนด ซึ่งจะไม่มีการส่งใบกำกับภาษีทางไปรษณีย์เด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าและจบภายในวันเดียว นอกจากนี้ยังมีแผนในการนำระบบออกใบกำกับภาษีแบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในอนาคตเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้าน”

ขณะที่ในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ บริษัทจัดแคมเปญโปรโมชันอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีการจัดแคมเปญใดเพิ่มเติม

“มองว่ามาตรการช็อปช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายและสภาพเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งหลังจากภาพรวมกำลังซื้อภายในประเทศค่อนข้างชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งแน่นอนว่าในกลุ่มธุรกิจอาหารอาจจะได้รับอานิสงส์บ้าง แต่คงไม่มากเท่ากับธุรกิจอื่นที่มีการจับจ่ายสูงมากกว่า”

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดการณ์ว่าตลอดช่วงระยะเวลา 19 วันที่มีการมาตรการช้อปช่วยชาติจะสามารถสร้างยอดขายเติบโต 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีการจัดมาตรการช็อปช่วยชาติและมียอดขายเติบโต 9% ขณะที่การจัดมาตรการช็อปช่วยชาติครั้งแรกในปี 2558 ซึ่งมีระยะเวลาจัดงาน 7 วัน มียอดขายเติบโตจากช่วงเวลาปกติ 6%

น.พ.สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง บำรุงผิว และของใช้ส่วนบุคคล กล่าวว่า เชื่อว่ามาตรการช็อปช่วยชาติจะส่งผลดีต่อบริษัท ทำให้ยอดขายและจำนวนการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนบิลเพิ่มมากขึ้น 8% และมียอดขายเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเวลาปกติที่ไม่ได้จัดมาตรการช็อปช่วยชาติ ซึ่งในปีนี้ได้เตรียมมาตรการรองรับกับการจัดมาตรการช็อปช่วยชาติ โดยเน้นด้านการบริหารจัดการระบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกใบกำกับภาษี การเตรียมบุคลากรเพื่อให้บริการ พนักงานขายหน้าร้าน การประชา สัมพันธ์ การสื่อสารข้อมูลผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

ส่วนแคมเปญโปรโมชัน สินค้า และการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม บริษัทได้วางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีนโยบายช็อปช่วยชาติ ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้บ้างว่าปีนี้น่าจะมีแคมเปญออกมากระตุ้นเหมือนกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะประเมินสถานการณ์ว่าบรรยากาศโดยรวมของช่วงปลายปี จะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ส่งสัญญาณไปในทิศทางบวกด้วย

ด้านนางสาวนุชนาฎ แก่นทองเจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี กล่าวว่า สำหรับธุรกิจคอนซูเมอร์ โปรดักต์ น่าจะได้รับผลบวกจากนโยบายช็อปช่วยชาติ แต่อาจจะไม่หวือหวามากนัก เพราะเป็นสินค้าของกินของใช้ที่ผู้บริโภคซื้อเป็นปกติอยู่แล้ว ขณะที่สินค้าของบริษัทส่วนหนึ่งมีการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ซึ่งไม่สามารถขอใบกำกับภาษีได้ โดยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายบริษัทยังคงจัดแคมเปญ โปรโมชันเป็นปกติร่วมกับช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ

สำหรับยอดขายสินค้ากลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัท ยังคงเติบโตมีอัตราการเติบโตจากการออกสินค้าใหม่ที่ทำให้มีอัตราการเติบโตด้วยเลข 2 หลัก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยว แต่หากเป็นสินค้ากลุ่มเดิมมีอัตราการเติบโตเพียงตัวเลขหลักเดียว ส่วนกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มภาพรวมถือว่าไม่เติบโต ขณะที่ปัจจุบันภาพรวมตลาดกลุ่มขนมขบเคี้ยวมีอัตราการเติบโต 4.5% ซึ่งช่วง 2 เดือนสุดท้ายเชื่อว่าตลาดยังคงเติบโตต่อเนื่อง

[caption id="attachment_228929" align="aligncenter" width="503"] ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด[/caption]

ขณะที่นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติที่ภาครัฐจัดขึ้นครั้งนี้ เชื่อว่าจะกระตุ้นกำลังซื้อปลายปีนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะหากไม่ทำอะไรอาจทำให้สถานการณ์ยํ่าแย่กว่าที่เป็นอยู่ เพราะในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วยพยุงไว้ ขณะที่กำลังซื้อในประเทศชะลอตัว แม้ช็อปช่วยชาติจะส่งผลแค่กำลังซื้อท้องถิ่น แต่หากกระตุ้นนักท่องเที่ยวมาไทยให้จับจ่ายเพิ่มขึ้นจะช่วยได้อีกมาก

นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และหากขยายเวลาช็อปให้เพิ่มมากขึ้นก็จะช่วยให้ผู้บริโภคมีเวลาในการจับจ่ายมากขึ้นตามไปด้วย โดยมาตรการช็อปช่วยชาติปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเติบโตไม่ตํ่ากว่า 5-10% จากครั้งก่อน

ส่วนนายณัฐกิตติ์ ตั้งพูล-สินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็น ทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวแสดงความคิดเห็นว่ามาตรการช็อปช่วยชาติมองว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคในทุกๆ กลุ่ม และสินค้าในหลากหลายเซ็กเม้นต์ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะช่วยให้มีนักช็อปเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น และมียอดขายเพิ่มขึ้นราว 30%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว