ร.ฟ.ท.เร่งเซ็นสัญญาก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงหัวหิน-ประจวบ, นครปฐม-หัวหิน และประจวบ-ชุมพร รวม 5 สัญญาภายในกย.นี้ เผยอีไอเอช่วงหัวหิน-ประจวบเข้าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 6 ก.ย.ก่อนนำเสนอบอร์ดรับทราบ 8 ก.ย.นี้ ต้นปีหน้ามีลุ้นทางคู่ระยะที่ 2 อีกราว 9 เส้นทาง
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ” ว่าอยู่ระหว่างการเร่งรัดลงนามสัญญาโครงการรถไฟทางคู่ระยะแรกอีก 5 เส้นทาง ประกอบไปด้วยเส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง90 กิโลเมตร วงเงิน 10,239 ล้านบาท ,นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง165 กิโลเมตร วงเงิน 20,046ล้านบาท, ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน17,290 ล้านบาท, ลพบุรี-ปากนํ้าโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตรวงเงิน 24,722 ล้านบาท และมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท รวมทั้งสิ้น 10 สัญญา
[caption id="attachment_181793" align="aligncenter" width="503"]
อานนท์ เหลืองบริบูรณ์[/caption]
โดยขณะนี้การลงนามสัญญาช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์เลื่อนจากวันที่ 25 สิงหาคมออกไปเป็นภายในเดือนกันยายนนี้ที่บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) (ITD) ได้ชนะการประมูลดังกล่าวคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับรถไฟทางคู่สายใต้จำนวน 5 สัญญาประกอบไปด้วยช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 1 สัญญา ช่วงนครปฐม-หัวหิน 2 สัญญา และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร จำนวน2 สัญญา โดยเฉพาะช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์นั้นจะนำผลการพิจารณาด้านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.) ในวันที่ 6 กันยายนนี้
นอกจากนั้นคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ยังจะมีการประชุมในวันที่ 8 กันยายนนี้จึงคาดว่าจะนำผลการพิจารณาอีไอเอที่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.)รายงานให้ที่ประชุมบอร์ดทราบในวันดังกล่าวเพื่อเห็นชอบให้มีการลงนามสัญญาโดยเร็วต่อไปดังนั้นหากในวันที่ 5 กันยายนนี้ที่จะมีเสนอราคาช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ที่เลื่อนมาจากวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ไม่มีปัญหาใด ๆก็น่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ครบทั้ง 5 สัญญาดังกล่าว
ทั้งนี้ในส่วนเส้นทางที่เหลือประกอบด้วยช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 3 สัญญาและช่วงลพบุรี-ปากนํ้าโพ 2สัญญานั้นยังมีลุ้นการเซ็นสัญญาให้ทันในเดือนตุลาคม 2560เนื่องจากช่วงสถานีนครราชสีมาที่อยู่ในช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระนั้นได้รับการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ให้มีการปรับแบบก่อสร้างเป็นเส้นทางยกระดับจึงคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงการดังกล่าวให้ล่าช้าออกไปอีก เนื่องจากจะต้องมีการพิจารณารายละเอียดและเสนองบประมาณที่เพิ่มขึ้นให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติโดยเร็วต่อไป
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงร.ฟ.ท. รายหนึ่งกล่าวว่าสำหรับแผนการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 7 เส้นทาง รวมระยะทางกว่า 1,483 กิโลเมตร รวมวงเงินกว่า 2.7 แสนล้านบาท และยังมีเส้นทางสายใหม่อีก 2 เส้นทางคือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของระยะทาง 326 กิโลเมตร วงเงิน7.6 หมื่นล้านบาท ล่าสุดผ่านการพิจารณาอีไอเอเรียบร้อยแล้วคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากครม.ในเร็วๆนี้ ในส่วนเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนมระยะทาง 355 กิโลเมตร วงเงิน6 หมื่นล้านบาท ยังมีลุ้นการพิจารณาอีไอเออีกราว 1-2 ครั้งคาดว่าจะสามารถเสนอครม.อนุมัติเปิดประกวดราคาในต้นปี 2561
“เบื้องต้นนั้นระยะที่ 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาอีไอเอซึ่งคงจะพิจารณากันอีกราว 1-2 ครั้งก็จะแล้วเสร็จซึ่งกระบวนการจะแล้วเสร็จและสอดคล้องกับกระบวนการเปิดประกวดราคาในช่วงต้นปีหน้าพอดี ดังนั้นปี 2560 นี้จึงเร่งรัดดำเนินการในระยะแรกให้แล้วเสร็จทั้งหมดหลังจากนั้นจึงจะเร่งผลักดันระยะที่ 2 ต่อเนื่องกันไป”
ทั้งนี้นอกจากรถไฟทางคู่ตามแผนระยะที่ 1 และระยะที่ 2แล้วในเส้นทางสายใต้ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างการเร่งรัดโครงการรถไฟเส้นทางสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทางกว่า329 กิโลเมตร
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560