สร้างและส่งต่อโอกาส สมการแห่งการพัฒนาพลังคน

21 ส.ค. 2560 | 12:56 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้ คุณสามารถพัฒนาสังคมได้ในทุกช่วงเวลาด้วยการยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ยึดมั่นในหลักการ ตระหนักถึงจรรยาบรรณ มีสามัญสำนึก คิดอย่างเป็นระบบ มีตรรกะ น้อมนำเอาหลักกฎหมายมาผนวกใช้ เพียงเท่านี้พื้นฐานทางความคิดของสังคมจะยกระดับและก้าวเดินต่อไปอย่างมีคุณค่า”

“โอกาส คือ มุมมอง หากเราเลือกใช้คำว่ารอ เราคงไม่ได้รู้จักคำว่า ‘โอกาส’ เพราะฉะนั้นการได้รับโอกาสคือการเตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ และเมื่อเข้ามาแล้วอย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป การก้าวสู่เส้นทางความสำเร็จต้องเรียนรู้ที่จะกล้าเสี่ยง ประสบการณ์จะสอนให้เรารู้จักจังหวะของการลองผิดและลองถูก ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง นี่แหละที่ทำให้ชีวิตของเราสนุกและน่าเรียนรู้ในทุกวัน”

tp25-3289-2 ห้องประชุมที่มองเห็นทัศนียภาพของกรุงเทพมหานครสุดสายตาบนชั้นของผู้บริหารขององค์กรด้านพลังงานระดับโลกคือจุดเริ่มต้นบทสนทนาของ ‘สุขสัปดาห์’ กับผู้บริหารหญิงไทยที่ผ่านงานบริหารระดับสูงมาแล้วในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เชิดชูศักยภาพของคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ คุณศิริพร ไชยสุต ที่ปรึกษาอาวุโสประธาน บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด

การเติบโตมาในครอบครัวนักกฎหมายได้กล่อมเกลาให้คุณศิริพรมีโลกทัศน์ว่าสังคมจะอยู่ได้อย่างสงบสุขด้วยหลักเหตุผล และต้องการทำงานที่จะมีส่วนช่วยจรรโลงสังคมให้อยู่ได้ในกรอบการปฏิบัติที่ถูกต้อง ทำให้คุณศิริพรเลือกเดินในเส้นทาง “นักกฎหมาย” โดยศึกษาระดับปริญญาตรีในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทในสาขาเดียวกันจาก Southern Methodist University เพื่อตอบโจทย์กระบวนการด้านกฎหมายเพิ่มเติม ทั้งยังเพิ่มองค์ความรู้อย่างเป็นหลักการเพื่อตอบคำถามกระบวนการกำหนดนโยบายของภาครัฐด้วยการศึกษาปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์จาก University of Southern California และทำงานที่สำนักงานกฎหมายในสหรัฐอเมริกาอยู่ 2 ปี ก่อนกลับมาที่ประเทศไทย และเริ่มต้นทำงานในฐานะ “ที่ปรึกษากฎหมายประจำ” บริษัท ยูโนแคลไทยแลนด์ จำกัด หรือ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในปัจจุบัน เมื่อ 26 ปีที่แล้ว

คุณศิริพร เล่าพร้อมรอยยิ้มกว้างและสายตาแห่งความภาคภูมิใจว่า ในขณะนั้น การเป็นที่ปรึกษากฎหมายในอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่าควบคุมโดยชายผิวขาวชาวตะวันตก นับเป็นการตัดสินใจที่ทำให้คนรอบข้างประหลาดใจ แต่ตอนนั้นตัวเราเองมีหมุดความตั้งใจอยู่ 2 สิ่ง เริ่มต้นจาก “ความมั่นใจ” ว่าเรามีความสามารถและพร้อมที่จะแสดงศักยภาพในฐานะคนไทยให้กับองค์กรระดับสากลได้รับรู้ และอันดับที่สองคือ “ความเชื่อมั่น” ในปณิธานของเชฟรอนที่ให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาคน” มุ่งพัฒนาความรู้ ความสามารถของบุคลากรทั่วโลกเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าทางอาชีพของทุกคนอย่างเต็มศักยภาพ อันเป็นรากฐานการเติบโตอย่างแข็งแกร่งขององค์กร สามารถบรรลุผลสำเร็จในการปฏิบัติงานด้วยแนวทางที่ถูกต้องเสมอมา

tp25-3289-1 ความสำเร็จของคุณศิริพรในปัจจุบันได้สะท้อนให้เห็นว่าการตัดสินใจร่วมงานกับเชฟรอนของเธอเมื่อ 26 ปีที่แล้วนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง จากจุดเริ่มต้นในฐานะพนักงานชั้นผู้น้อย คุณศิริพรเรียนรู้การทำงานทุกอย่างและใช้องค์ความรู้ที่ได้ศึกษามาทุกแขนง เติบโตสู่การเป็นผู้บริหารในสายงานกฎหมายของเชฟรอนทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายกฎหมายภูมิภาคยุโรปที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งทำธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในยุโรปและตะวันออกกลางรวม 14 ประเทศ และที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายกฎหมายประจำอยู่ ณ สำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีส่วนงานรับผิดชอบธุรกิจต้นน้ำหลากหลายภูมิภาคทั่วโลกอีกด้วย

คุณศิริพร เล่าต่อไปว่า ชีวิตการทำงานของทุกคนมีช่วงการเติบโตหรือภาคต่อในแต่ละบทของการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งขอเรียกเป็นภาพยนตร์ไตรภาค โดยภาคแรกของการเข้ามาอยู่เชฟรอนยอมรับเลยว่าที่นี่คือ ร้านขนมอันหอมหวานที่เต็มไปด้วยพื้นที่ของโอกาสสำหรับการเรียนรู้ในทุกด้านจริงๆ เรียกได้ว่าความรู้ทางกฎหมายที่เรียนมาสามารถนำมาใช้กับการทำงานได้ทั้งหมด สามารถลบและกลบทฤษฎีที่ว่า “สิ่งที่เรียนมาไม่ได้ใช้” ให้กลายเป็น “คุณจะหยิบมาใช้เป็นหรือเปล่า” ได้อย่างทันที ทั้งยังได้เพิ่มพูนทักษะในด้านการเจรจา วางแนวคิดและกรอบนโยบายในการบริหารจัดการธุรกิจต้นน้ำของเชฟรอน ทั้งยังได้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนา “พลังคน” ของเชฟรอน

“ที่เชฟรอนเราให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้วยการรักษาความเป็นตัวตน ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติหรือเพศ สนับสนุนการทำงานแบบทีม สร้างบรรยากาศการทำงานที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสำเร็จ พร้อมกับให้รางวัลและเติมเชื้อไฟแห่งโอกาสในการขับเคลื่อนของทุกคนอย่างเท่าเทียม และที่สำคัญคือทุกอย่างวัดกันที่ผลงาน”

สำหรับภาคที่สอง ก้าวสู่การเป็นหัวหน้างานหรือเดินผ่านการชิมขนมหวานมาเป็นการแนะนำร้านขายขนมให้กับรุ่นน้อง พร้อมด้วยความท้าทายจากการได้รับโอกาสรับตำแหน่งบริหารของเชฟรอนในระดับภูมิภาค คุณศิริพรได้ใช้ทั้งความสามารถ ความอ่อนน้อมถ่อมตนและหลักการทางพระพุทธศาสนาในการเหนี่ยวนำจิตใจให้มั่นคง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงานในความรับผิดชอบ และผู้ใต้บังคับบัญชาที่มาจากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณศิริพรได้สรุปการทำงานในช่วงนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “การทำงานในช่วงนี้เหมือนกับการวิ่งมาราธอน เพราะถ้าหากเราวิ่งในแบบเกาะกลุ่มเราจะอยู่ในระดับที่พอเหมาะ ในทางกลับกันหากเราวิ่งช้าอยู่รั้งท้ายก็ไม่ต่างไปจากการไม่เรียนรู้และพัฒนาตนเอง และที่สำคัญหากเราวิ่งอยู่ในกลุ่มผู้นำนั้นหมายถึงกราฟเส้นชัยได้ขยับเข้าใกล้มาทุกขณะ”

สำหรับภาคที่สามหรือการทำงานในปัจจุบัน คุณศิริพร เน้นย้ำเสมอมาว่า จากวันแรกที่ก้าวเข้ามาจนถึงวันนี้ สิ่งที่ยังปฏิบัติอยู่เสมอในทุกๆ วันคือ “การเรียนรู้” โดยมิติของผู้บริหารอาวุโสคือการเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและรับทราบความเป็นไปของธุรกิจเชฟรอนทั่วโลกในทุกขณะ ซึ่งทำให้เธอเห็นว่าการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงในองค์กรระดับโลกอย่างเชฟรอนไม่ได้อยู่ที่การมุ่งสร้างผลกำไร แต่คือการเป็นพันธมิตรกับทุกสังคมที่เราดำเนินธุรกิจด้วยการให้ความสำคัญและตอบแทนอย่างตระหนักถึงบริบทโดยรอบของสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นอยู่ของประชาชน สัตว์ป่า พันธุ์ไม้และทรัพยากรต่างๆ เพื่อเกิดความสมดุลอันนำไปสู่ความยั่งยืนของโลกในอนาคต ฉะนั้นสมการความสำเร็จที่ผ่านมาของเชฟรอนคือการให้ความสำคัญกับการพัฒนา “พลังคน” ทั้งในและนอกองค์กรรวมถึงบริบททุกมิติในทุกประเทศที่เชฟรอนดำเนินธุรกิจ

คุณศิริพร ยกตัวอย่างที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างน่ารักว่า “ความประทับใจที่ยังคงเก็บมาจนถึงทุกวันนี้คือ การพูดคุยบนชั้นทำงานของผู้บริหารระดับสูง ณ สำนักงานใหญ่เชฟรอน ที่สหรัฐฯ ที่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆ ที่เกิดขึ้น ณ มุมใดมุมหนึ่งของโลก ซึ่งบางคนหรือบางธุรกิจอาจเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างกรณีที่มีการพบเต่าป่วยใกล้แหล่งผลิตบนเกาะแบร์โรวส์ในประเทศออสเตรเลีย เมื่อทราบเรื่องทางคณะผู้บริหารระดับสูง ก็หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นพูดคุยที่สำคัญยิ่งกว่าเรื่องของผลประกอบการหรือราคาหุ้น และคอยติดตามผลจนทราบว่าเต่าตัวนั้นหายเป็นปกติ เฉกเช่นเดียวกับการใช้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทุกคนในองค์กร ไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใดของโลกก็ตาม ชีวิตของพนักงาน คุณภาพชีวิตของสังคมและการปกป้องสิ่งแวดล้อมคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของเชฟรอน”

เพราะการบริหารงานอย่างมีคุณภาพคือความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ก่อนส่งต่อโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ไปสู่ทีมงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในทุกระดับ นี่คือหนึ่งต้นแบบแนวคิดผู้นำหญิงไทยที่ควรค่าแก่การนำไปปรับใช้สำหรับทุกคน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560