ถ้าเอ่ยถึงไอศกรีม หรือไอติม เชื่อว่าหลายคนชื่นชอบ และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดไอศกรีมในประเทศแข่งขันกันดุเดือด ทั้งแบรนด์ที่ติดตลาดอยู่แล้ว และแบรนด์น้องใหม่ และหนึ่งในแบรนด์ไอติมที่ติดทำเนียบไอติมรสชาติคนไทย ในลำดับแถวหน้า เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วยกันแล้วถ้าไม่มีชื่อ “ไอติม ละมุน” คงเป็นไปไม่ได้ เพราะตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา “ไอติมละมุน” ไม่ได้หยุดพัฒนาตัวเองสำรวจ ศึกษาตลาดและกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงลองผิดลองถูก เพื่อให้ไอติมที่ออกมาตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด
น้องโบว์ “อมรรัตน์ อำนวยปรีชากุล” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ละมุนกรุ๊ปผู้ผลิตและจำหน่าย “ไอติมละมุน” เล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของ “ไอติม ละมุน” เกิดจากที่โบว์และแฟน (ดนุพนธ์ อำนวยปรีชากุล ผู้ร่วมก่อตั้งไอติมละมุน) ไปทานไอติม กะทิสดมาแล้วรู้สึกว่าไม่อร่อย จึงมีแนวคิดว่าอยากทำเอง และเริ่มจริงจังมากขึ้น เมื่อตัดสินใจทำในเชิงพาณิชย์ โจทย์แรกที่นึกถึงก่อนคือ การสร้างความต่าง โดยเริ่มจากองค์ความรู้พื้นฐานก่อน แล้วพัฒนาไปสู่ผลงานที่สร้างสรรค์ แม้แต่การตั้งชื่อแบรนด์ จะต้องบ่งบอกได้ว่า ไอติมที่ผลิตจะต้องมีรสชาติละมุน เพราะละมุนคือความกลมกล่อม และเราก็มองต่อว่า ควรจะเป็นแนวไหนจะต้องทำให้แบรนด์ “ไอติมละมุน” ชัดเจนยิ่งขึ้น จะต้องเป็นไอติมไทยวิลเทจ ซึ่งในเมืองไทยมีผลไม้ และชนิดของขนมหวาน และเครื่องดื่มไทยๆ จำนวนมากเราก็มาคิดกันว่า น่าจะแปลงมาเป็นไอติม
ในช่วงแรกๆ “ไอติมละมุน” จึงนำร่องก่อน 3 รสชาติคือ ไอติมกะทิสด,โอวัลติน และรสชาไทย (มีส่วนผสมของนมกับชาไทย) โดยทั้งหมดจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% ถ้าเป็นกะทิสดก็จะใช้แต่หัวกะทิล้วนๆ ไม่มีส่วนผสมของนม ถ้าเป็นรสชา ก็ต้องชาไทย จะใช้ชาทั้งหมด 5 ชนิด เป็นต้น
โบว์เล่าว่าเมื่อผลผลิตออกมา ก็ต้องออกไปทดลองขายโดยออกงานอีเว้นต์เพื่อดูกระแสตอบรับก่อน พอได้รับการตอบรับกลับมาดี ก็มาขยายไอติมรสชาติต่างๆมากขึ้น จนขณะนี้สามารถพัฒนา “ไอติมละมุน” ได้มากกว่า 20 รสชาติแล้ว มีทั้งไอติมรสผลไม้ เช่น ไอติมกะทิทุเรียน, กะทิมะม่วง, กะทิมะพร้าว รวมไปถึงไอติมกะทิบัวลอยเผือก, กะทิเต้าส่วน ผสมกับรสชาติอื่นๆที่นำร่องไปก่อนในหมวดเครื่องดื่ม เช่น ไอติมรสชาไทย รสกาแฟยกล้อ รสโอวัลติน เป็นต้น
**จุดเด่นไอติมละมุน
สำหรับไอติมละมุน เป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจนในแง่นำวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตมา?บอกเล่าเรื่องราวผ่านรสชาติต่างๆของไอติม เช่น ขนมบัวลอย เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จัก เมื่อออกมาในรูปของไอติมบัวลอยก็จะเป็นที่นิยมมากขึ้น ดังนั้นจุดเด่นของไอติม ละมุนจึงเริ่มจาก 1.การรักษาความเป็นไทย ที่จะบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของคนสมัยก่อน ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทกาแฟยกล้อ ขนมบัวลอยเผือก ที่มาในรูปไอติม 2.ช่วยส่งเสริมเกษตรกรไทย เพราะผลไม้ทุเรียน หรือมะม่วงมีฤดูกาลแต่ถ้ามาทานไอติมกะทิทุเรียนหรือกะทิมะม่วงจะมีรองรับได้ตลอดปี ถือเป็นแบรนด์ที่ชัดเจนและแตกต่างจากไอติมทั่วไป เนื่องจากเล่าเรื่องราวในอดีตนำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อตอนเด็กๆ มาทำเป็นรสชาติต่างๆ ในไอติมละมุน
**เป้ายอดขายปีนี้โต15ล้าน
ตัวชี้วัดของแบรนด์ “ไอติม ละมุน” โบว์บอกว่าเริ่มรุกไปสู่ฐาน ลูกค้าที่เป็นโออีเอ็มเมื่อปี 2559 ทำให้ยอดขายเติบโตจาก 3 ล้านบาทเมื่อปี 2558 เพิ่มเป็น 7 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 15 ล้านบาท โดยภายในปีนี้หลังจากที่ขยายฐานออกไปยังต่างจังหวัด (ดูกราฟิก) จากเดิมที่มีลูกค้าขายส่งไปยังร้านอาหาร ร้านกาแฟ ทั้งที่ใช้แบรนด์ละมุนและแบรนด์อื่นๆ รวมถึงช่องทางดีลิเวอรี่
นอกจากนี้ก็ขายผ่านไลน์@itimlamoon และขายผ่านเฟสบุ๊ก ไอจี itimlamoon. โดยส่วนใหญ่จะเน้นขายในกรุงเทพฯมีทั้งลูกค้าที่ซื้อไปใช้แบรนด์ตัวเอง ทั้งแบบแพ็กใส่กระปุก และซื้อไปขายภายใต้แบรนด์ “ไอติมละมุน” ตามร้านอาหาร หรือโรงแรม และในร้านกาแฟ ส่วนหน้าร้าน “ไอติม ละมุน” ล่าสุดมีอยู่ 4 สาขาหลักคือที่เซ็นทรัลพระราม 3 ท่ามหาราช เมกาบางนา และที่เอเชียทีค นอกจากนี้ไม่เกิน 3 ปีจะโกอินเตอร์โดยจะส่งออกครั้งแรกไปยังตลาด CLMV
ทางด้านราคาไอติมละมุน เริ่มต้นที่ 1 สกู๊ป ราคา 49 บาท ไปจนถึง 135 บาท (นั่งทานที่ร้าน) หรือในแบบที่ลูกค้าสามารถหิ้วกลับบ้านได้ ส่วนเมนู ติมปัง คือใส่ไอติมในขนมปังราคาจะอยู่ที่ 69 บาท มีขนมปัง 3 ลูก ใส่ได้ 3 รส เป็นต้น
ปัจจุบันโรงงานผลิตไอติม ละมุน ตั้งอยู่ที่สุขสวัสดิ์ 14 มีกำลังผลิตต่อเดือนประมาณ 1-2 ตัน โดยกำลังผลิต 50% จะใช้แบรนด์ “ไอติมละมุน” และอีก 50% จะเป็นโออีเอ็ม (รับจ้างผลิต)ให้กับแบรนด์อื่นๆ ที่ขณะนี้มีมากถึง 15 แบรนด์ทั่วประเทศ
**กรมส่งเสริมสนับสนุน
โบว์...กล่าวทิ้งท้ายว่า การเริ่มธุรกิจจำเป็นต้องให้ภาครัฐเป็นพี่เลี้ยง ต้องขอความช่วยเหลือไปทางกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่อง จากเป็นธุรกิจเอสเอ็มอี เมื่อขยายฐานการผลิตให้โตขึ้นและได้มาตรฐาน ก็ต้องมีภาครัฐให้คำแนะนำส่งเสริม ยิ่งมีแผนส่งออกก็ต้องรอบคอบ เพราะจะมีคู่แข่งมากขึ้น และคุณภาพต้องผ่าน
นอกจากนี้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยังให้ความช่วยเหลือในอนาคตได้ด้วย ถ้าเราจะมีการวิจัยและพัฒนา (R&D) รวมถึงช่องทางการขาย เวลาที่ภาครัฐไปออกงานในต่างประเทศก็อยากร่วมขบวนไปด้วยโดยนำไอติม?ละมุนไปออกงาน เป็นการออกไปประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560