บิ๊กเครือข่ายยางชี้เหตุหลักราคายางรูด จากยางสังเคราะห์ทั่วโลกยังค้างสต๊อก 4 ล้านตันตัวกดราคายางธรรมชาติไม่โงหัว บิ๊กสมาคมยางฯระบุตลาดเซี่ยงไฮ้-ชิงเต่าของจีนตุนสต๊อกใกล้เต็มพิกัดชะลอนำเข้า กยท.ปฏิเสธลั่นบียูบริษัทลูกกดราคาซื้อตํ่ากว่า 5 เสือ
จากราคายางพาราในประเทศที่ปรับตัวลดลงในช่วง 2สัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ย 15 บาท/กก. ทาง 9 องค์กรด้านยางพาราได้มีการประชุมหารือกันเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาเรียกร้อง 4 ข้อส่วนหนึ่งได้ให้เวลาการยางแห่งประเทศไทย(กยท.)หน่วยงานกำกับดูแลยางพาราของประเทศ 10 วันในการแก้ไขปัญหาดันราคายางให้สูงขึ้นนั้น
[caption id="attachment_123528" align="aligncenter" width="503"]
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์[/caption]
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โดยระบุสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทำให้ราคายางพาราลดลงอย่าผิดปกติ เชื่อตามข้อมูลของทางการของมาเลเซียที่ได้วิเคราะห์ว่า ในปี 2559 ทั่วโลกมีการผลิตยางสังเคราะห์หรือยางเทียมรวมประมาณ 14 ล้านตัน ใช้ไป 10ล้านตันยังเหลือสต๊อกอีกประมาณ4 ล้านตัน ซึ่งยางสังเคราะห์นี้สามารถใช้ทดแทนกันได้และเป็นตัวกดราคายางธรรมชาติไม่ให้สูงขึ้น
“ทาง กยท.มักจะกล่าวเป็นสูตรสำเร็จว่าราคายางที่ลดลงเป็นผลจากตลาดล่วงหน้าได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทแข็งค่า จากราคานํ้ามันในตลาดโลกที่ลดลงทำให้ราคายางลดลงตาม แต่ส่วนตัวเชื่อสาเหตุสำคัญจากสต๊อกยางสังเคราะห์ของโลกยังมีมากนอกจากนี้เป็นผลจาก กยท.บริหารจัดการในการระบายสต๊อกยางได้ในราคาตํ่า และ 6 ตลาดกลางที่กยท.บริหารมีการกดราคาซื้อยางจากเกษตรกร ทั้งนี้ทาง 9องค์กรจะหารือกันอีกครั้งในเรื่องการเสนอแนวทางการปฏิรูปกยท.ในวันที่ 19 มิถุนายน ก่อนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในวันที่20 มิถุนายนนี้”
ด้านนายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทย กล่าวว่าสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ราคายางลดลงมากผิดปกติ ส่วนหนึ่งผลจากราคายางธรรมชาติปรับตัวลดลงตามราคานํ้ามัน จากนักลงทุนในตลาดซื้อขายยางล่วงหน้าเทรดซื้อขายยางลดลงจากการขาดความเชื่อมั่น รวมถึงบาทแข็งค่าก็มีส่วนทำให้ราคายางส่งออกสูงขึ้น คู่ค้าชะลอซื้อ นอกจากนี้เป็นผลจากจีนผู้ใช้วัตถุดิบยางพารารายใหญ่ได้มีการนำเข้ายางไปเก็บสต๊อกแล้วปริมาณมากทำให้มีความต้องการนำเข้าลดลง
“ตลาดยางแหล่งใหญ่ในจีน 2 แหล่งคือที่เซี่ยงไฮ้เวลานี้ซื้อไปสต๊อกแล้วกว่า 3 แสนตันซึ่งเป็นระดับสูงสุดแล้วที่เขาเคยนำเข้า ส่วนที่ชิงเต่า เคยนำเข้าสต๊อกสูงสุด 3.5 แสนตัน เวลานี้ซื้อไปเก็บสต๊อกแล้วกว่า 2.5แสนตัน รวม 2 แหล่งตุนสต๊อกแล้ว 5.5 แสนตัน ทำให้การนำเข้าชะลอตัวลง”
แหล่งข่าวจากวงการค้ายาง กล่าวถึงกรณีราคายางมีทิศทางขาลง ส่วนหนึ่งจากกระแสข่าวลวง ทั้งคุณภาพยางของเกษตรกรไม่ดี บริษัทยางล้อรถญี่ปุ่นในประเทศไม่รับซื้อแล้วยังมีข่าวว่า บียู (Business Unit:BU) หรือหน่วยธุรกิจ กยท. ได้ซื้อยางจากเกษตรกรในราคาตํ่ากว่า 5 ผู้ค้ายางรายใหญ่ของประเทศ จึงทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องซื้อตํ่าลงมาเรื่อยๆต่อประเด็นนี้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการกยท. ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ขอถามกลับว่าใครกันแน่ที่ปล่อยข่าวทำให้ราคายางพาราตกตํ่าลง ขอให้เกษตรกรใช้วิจารญาณให้ดี
“บียู เพิ่งเริ่มตั้งไม่นานเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานธุรกิจเกี่ยวกับยางพาราทั้งระบบอยู่ในกยท.เพิ่งเริ่มตั้งก่อตั้งตามมติบอร์ดเมื่อวันที่ 20 กันยายน2559 วัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ เพราะต่อไปกยท.ต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น และมุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงพาณิชย์แต่วันนี้ต้องยอมรับว่ายังมีข้อกฎหมายที่ยังขาดความคล่องตัวต่างจากบริษัทเอกชน ต้องใช้ระยะเวลาอีกเล็กน้อยที่จะมีการปรับตัว”
[caption id="attachment_161636" align="aligncenter" width="466"]
ยางสังเคราะห์ล้นโลก4ล้านตัน กดราคายางไทยร่วง-จีนตุน5.5แสนตันชะลอนำเข้า[/caption]
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,270 วันที่ 15 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560