ส่งออกไทยยังไหว แม้เดือน ก.พ. พลิกล็อคติดลบ 2.8%

22 มี.ค. 2560 | 09:15 น.
keypoint

มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ก.พ. พลิกกลับมาหดตัวที่ 2.8%YOY จากการส่งออกทองคำและยุทโธปกรณ์ที่สูงกว่าปกติในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ หากไม่รวมกลุ่มสินค้าดังกล่าว มูลค่าการส่งออกจะขยายตัวกว่า 8.5%YOY

การส่งออกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน ได้แก่ ยางพาราและผลิตภัณฑ์,น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์และพลาสติกที่ขยายตัวกว่า 65%YOY, 18%YOY และ 8%YOY ตามลำดับ

มูลค่าการนำเข้าเติบโตสูงต่อเนื่องที่ 20.4%YOY จากการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่ขยายตัวตามราคาน้ำมัน และการนำเข้าสินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ 12%YOY นำโดยการนำเข้าสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะที่ขยายตัวกว่า 7 เท่า

Implication

อีไอซีคาดว่ามูลค่าการส่งออกไทยในปี 2017 จะขยายตัวเพียง 1.5% จากอัตราการขยายตัวของราคาน้ำมันที่จะเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันไม่สามารถขยายตัวได้สูงเทียบเท่ากับในช่วงไตรมาสแรกของปี ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปี 2017 ก็นับว่าเป็นปัจจัยกดดันต่อการส่งออกไทยในระยะต่อไปเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนจากนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส และเยอรมนี หรือแม้กระทั่งการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) ความไม่แน่นอนทางด้านการค้าและการลงทุนของโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคได้ทุกเมื่อ

อีไอซีมองว่าการนำเข้าสินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) ที่ขยายตัวสูงในเดือน ก.พ. อาจไม่ได้สะท้อนถึงการฟื้นตัวของการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเครื่องจักรกลและสินค้าทุนพื้นฐานอื่นๆ ยังไม่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ทั้งนี้ อีไอซีคาดว่ามูลค่าการนำเข้ารวมในปี 2017 จะขยายตัวที่ 3.5%YOY จากมูลค่าการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่อาจเริ่มทรงตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป และการลงทุนของผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวในปีนี้

ผู้เขียน: พิมพ์นิภา บัวแสง

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC)

EIC_Infographic_THA_Trade_Aug16