GL ฝ่าวิกฤติเชื่อมั่น ฟลอร์-เด้งซิลลิ่งวันเดียว ‘มิทซึจิ’ชี้แจงทุกข้อสงสัย

16 มี.ค. 2560 | 00:00 น.
“กรุ๊ปลีส” แถลงข่าวด่วนรอบ 3 หลังราคาหุ้นร่วงฟลอร์ 2 วันติด เหตุวิกฤติความเชื่อมั่นกรณีปล่อยกู้ 2 บริษัทในสิงคโปร์-ไซปรัส ยันไม่ได้ปล่อยไปไล่หุ้น GL รับต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม โชว์พันธมิตรเจ ทรัสต์ ญี่ปุ่นใส่เงินหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท เล็งซื้อหุ้นคืน ตลาดหุ้นฟื้น

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส ( GL ) เปิดแถลงข่าวตอบทุกข้อสงสัยกรณีผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตการปล่อยกู้ ธุรกิจ SMEs ผ่านบริษัทย่อยในสิงคโปร์ ให้แก่บริษัทในสิงคโปร์และไซปรัส ว่า การปล่อยกู้ให้กับผู้กู้ทั้ง 2 ราย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ไม่ส่วนเกี่ยวโยงใด ๆ โดยส่วนตัวนายมิทซึจิ หรือกรรมการ ไม่ได้เป็นผู้บริหารหรือถือหุ้นในบริษัทที่ปล่อยกู้ มีเพียงผู้กู้ 2 รายที่ถือหุ้น GL เล็กน้อย โดยผู้กู้สิงคโปร์ ถือหุ้น GL 75 ล้านหุ้น หรือ 4.96 % และ ผู้กู้ไซปรัส ถือ11.5 ล้านหุ้น หรือ 0.75 %

สำหรับนโยบายการปล่อยกู้ เน้นธุรกิจ SME ที่มีการเติบโตสูง โดยช่วงแรกจะปล่อยกู้ระยะสั้น 3 เดือน เมื่อเห็นว่าธุรกิจโตเติบ มีความน่าเชื่อถือ มีความสามารถชำระหนี้ ก็จะขยายเวลาปล่อยกู้เป็น 1-3 ปี ไม่ใช่การปรับโครงสร้างหนี้แต่อย่างใด ส่วนเหตุที่ผู้กู้ 2 ราย ตั้งบริษัทในสิงคโปร์และไซปรัส เป็นเรื่องระบบกฎหมายและภาษี ที่เอื้ออำนวยในการจัดตั้งบริษัท ผู้กู้ทั้ง 2 ราย มีหลักประกันคุ้มมูลหนี้ มีความสามารถจ่ายดอกเบี้ยปกติ ถือว่าเป็นผู้กู้ที่ดี จึงไม่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินกู้ยืมกับผู้กู้ 2 ราย

สำหรับหุ้น GL ที่ผู้กู้นำมาเป็นหลักประกัน ได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ได้ชี้แจงให้ผู้กู้เข้าใจและเตรียมเรียกหลักประกันเพิ่ม นอกเหนือจากหลักประกันอื่น เช่นที่ดิน สิ่งปลุกสร้าง เพื่อให้คุ้มสินเชื่อ โดยผู้กู้สิงคโปร์ มีหลักประกัน 230 % ของมูลหนี้ และมีบริษัทแม่ขนาดใหญ่ในสิงคโปร์ค้ำประกันจึงไม่ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม ส่วนผู้กู้ไซปรัส มูลค่าหลักประกันเดิม 103 % จะเรียกเพิ่มอีก 88 % เป็น 183 % ถือว่ามากเกินมูลหนี้ ซึ่งจะเรียกให้เพิ่มหลักประกันภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยไม่นับรวมหุ้น GL ที่นำมาค้ำประกัน โดยใช้เป็นหลักประกันคู่ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการซื้อหุ้นคืน รวมทั้งพันธมิตรทางธุรกิจ เจทรัสต์ เข้ามาซื้อ GL – W 4 จำนวน 8 ล้านหน่วย ซึ่งได้แจ้งสำนักงานก.ล.ต.ญี่ปุ่นไปแล้ว อนาคตหาก เจทรัสต์แปลงสภาพหุ้นกู้ จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 10 % จากเดิม 6.5 %

สำหรับเหตุผลที่ผู้กู้ 2 ราย มีหุ้น GL และนำมาค้ำประกันเงินกู้ นายมิทซึจิ กล่าวว่า เป็นการลงทุนของผู้กู้ตามปกติ ซึ่งบริษัทไม่ได้ปล่อยเงินกู้ ให้ไปซื้อหุ้น GL แต่ปล่อยกู้เพื่อการทำธุรกิจ

สำหรับฐานะของ GL แข็งแรง มีเงินสด 2,500 ล้านบาท สำหรับขยายธุรกิจหรือซื้อกิจการได้ มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 1 ต่อ 1

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ทำธุรกิจในประเทศไทย ไม่ได้เป็นยากูซ่า ไม่ได้ทำแครี่เทรด และไม่ได้เป็นนักลงทุนเก็งกำไรปั่นหุ้น ที่มีข่าวถูกสำนักงานก.ล.ต.ประเทศญี่ปุ่น ปรับไม่เป็น มีเพียงการตรวจสอบขอข้อมูลในคอมพิวเตอร์ซึ่งได้คืนกลับมา ไม่มีการฟ้องร้องอย่างใด โดยไม่มีขบวนการฟ้องร้องในศาล และรู้สึกเห็นใจผู้ถือหุ้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัท ทำให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ตนต้องการทำธุรกิจในไทย ไม่ต้องการต่อสู้กับคนไทย และ ขอบคุณนักลงทุนที่สนับสนุน ขอให้ดูที่ผลประกอบการของบริษัท

สำหรับการซื้อหุ้น บริษัท Commercial Credit & finance (CCF ) บริษัทจดทะเบียนในศรีลังกา สัดส่วน 29.9 % เป็นการลงทุนระยะยาว

“ ข่าวลือที่เกิดขึ้นไม่จริง แต่เป็นเรื่องของราคาหุ้น ผมคิดว่าเป็นความผิดของผมเอง ต้องขอโทษนักลงทุนทุกคน ที่ราคาหุ้นตกลงมาทำให้นักลงทุนเดือนร้อน คนที่เดือนร้อนที่สุดคือผม ที่เสียหายหนัก ผมจะแก้ไขให้ผลประกอบการดีมากยิ่งขึ้น ให้ความน่าเชื่อถือกลับมา ส่วนสำนักงานสอบบัญชี EY ที่ตรวจสอบบริษัทมานาน ก็ยังเหมือนเดิม ไม่คิดเปลี่ยนผู้สอบบัญชี ไม่เคยปกปิดการปล่อยกู้ โปร่งใสไม่เคยปิดบัง มีการรายงานทุกไตรมาส อาจเป็นเรื่องการสื่อสารไม่เพียงพอ “ นายมิทซึจิ กล่าว

อย่างไรก็ตามหุ้น GL ที่ฟื้นตัวซิลลิ่งขึ้นมา ส่งผลให้บรรยากาศตลาดหุ้นโดยรวมดีขึ้น และหุ้นกลุ่มเช่าซื้อมีการซื้อขายคึกคัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,244 วันที่ 16 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2560