“ประชาชนระบุ social media live ทำให้รับรู้ข่าวสารได้รวดเร็วขึ้น

26 ม.ค. 2560 | 09:02 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“ประชาชนร้อยละ 71.02 ระบุ social media live ทำให้รับรู้ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้น มากกว่าครึ่งหนึ่งยอมรับว่า social media live ทำให้ติดตามข่าวสารทางโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์น้อยลง แต่ 69.15% เกรงว่าผู้ไม่หวังดีจะใช้เผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือน”

ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้ให้บริการระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์มีการนำเสนอบริการใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งบริการหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน คือ ระบบการถ่ายทอดสดหรือ Live เช่น  Facebook live ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ลำดับต้นๆที่นำเสนอบริการดังกล่าวให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกรวมถึงผู้ใช้งานในประเทศไทยที่มีมากกว่า 19 ล้านบัญชี

โดยในปัจจุบันระบบดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อเผยแพร่ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนได้รับรู้ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆรวดเร็วขึ้น ขณะที่มีผู้มีชื่อเสียงในสังคม เช่น นักการเมือง ดารานักร้อง หรือสื่อมวลชนที่ใช้ระบบดังกล่าวจัดรายการส่วนตัว เพื่อเผยแพร่ข่าวสารหรือรายงานสถานการณ์ต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามผู้คนบางส่วนในสังคมได้แสดงความห่วงใยถึงการใช้ระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่าอาจถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนเพื่อสร้างความสับสนให้กับสังคมหรืออาจใช้นำเสนอภาพที่ไม่เหมาะสมให้สาธารณะได้รับชม

จากประเด็นดังกล่าว สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการติดตามข่าวสาร-สถานการณ์ต่างๆผ่านระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์  โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 ถึง 25 มกราคม พ.ศ. 2560 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,180 คน สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านพฤติกรรมการติดตามข่าวสารสถานการณ์ต่างๆผ่านระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์กับการติดตามข่าวสารผ่านสื่อประเภทอื่นๆนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.53 ร้อยละ 59.07 และร้อยละ 54.92 มีความคิดเห็นว่าการติดตามข่าวสาร/การรายงานสถานการณ์ต่างๆผ่านระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ส่งผลให้ตนเองรับชมข่าวสารต่างๆทางโทรทัศน์ อ่านข่าวสารทางหนังสือพิมพ์ และรับฟังข่าวสารทางวิทยุน้อยลงตามลำดับ

ในด้านความคิดเห็นต่อการใช้ระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 71.02 มีความคิดเห็นว่าการใช้ระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวสาร/รายงานสถานการณ์ต่างๆมีส่วนทำให้ผู้คนในสังคมรับรู้ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 66.53 มีความคิดเห็นว่าการใช้ระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เผยแพร่ข่าวสาร/รายงานสถานการณ์ต่างๆมีส่วนทำให้ผู้คนในสังคมสามารถรับรู้รายละเอียดของข่าวสารสถานการณ์ต่างๆได้มากกว่าการติดตามข่าวสารผ่านช่องทางอื่นๆ

นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.12 มีความคิดเห็นว่าการมีระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์มีส่วนช่วยให้ผู้คนรับรู้ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 69.15 มีความคิดเห็นว่าการมีระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์มีส่วนทำให้ผู้ไม่หวังดีใช้เป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือนไม่ถูกต้องเพื่อสร้างความวุ่นวายตื่นตระหนกให้กับผู้คนได้ง่ายขึ้น และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.63 ยอมรับว่าตนเองรู้สึกกลัวว่าการมีระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์จะทำให้มีการเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม/น่ากลัวเกี่ยวกับข่าวสารสถานการณ์ต่างๆได้ง่ายขึ้น

ส่วนในด้านการติดตามการจัดรายการส่วนตัวของผู้มีชื่อเสียงในสังคมผ่านระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 52.54 ระบุว่าตนเองเคยติดตามชมการจัดรายการส่วนตัวรายงานข่าวสารสถานการณ์ต่างๆผ่านระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ของกลุ่มผู้มีชื่อเสียงในสังคม เช่น นักการเมือง นักธุรกิจ ดารา/นักร้อง สื่อมวลชน เป็นต้น  ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.66 ระบุว่าเคยติดตามบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 12.8 ยอมรับว่าไม่เคยติดตามเลย และกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 57.12 มีความคิดเห็นว่าการที่กลุ่มผู้มีชื่อเสียงในสังคม เช่น นักการเมือง นักธุรกิจ ดารา/นักร้อง สื่อมวลชน เป็นต้น ใช้ระบบถ่ายทอดสดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์จัดรายการส่วนตัวเผยแพร่ข่าวสาร/รายงานสถานการณ์ต่างๆมีส่วนทำให้ตนเองเข้าใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์บ่อยขึ้น