ไทย-เม็กซิโกเร่งจับมือสร้างพันธมิตรทางการค้าการลงทุนในระยะยาว

02 พ.ย. 2559 | 08:30 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2559) เวลา 10.30 น. นายไฆเม บีร์กิลิโอ นัวลาร์ต ซานเชซ (H.E. Mr. Jaime Virgilio Nualart Sánchez) เอกอัครราชทูตสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ในโอกาสรับตำแหน่งใหม่

ภายหลังการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของเอกอัครราชทูตสหรัฐเม็กซิโก และยืนยันว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับเม็กซิโกอย่างใกล้ชิดต่อไป

โดยเอกอัครราชทูตเม็กซิโกได้แสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  และกล่าวว่า ท่านทรงเป็นตัวอย่างที่ดีในด้านการพัฒนา ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศไทย แต่รวมถึงโลกด้วย ซึ่งคนเม็กซิโกเองมีความชื่นชมต่อสิ่งที่ท่านได้สร้างไว้และการอุทิศตนต่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย   ทั้งนี้ เม็กซิโกมีความสนใจในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งไทยยินดีแบ่งปันองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกับเม็กซิโก เพื่อสานต่อพระปณิธานและส่งเสริมความผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป

ด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี เม็กซิโกถือเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งไทยประสงค์ จะส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับเม็กซิโกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน

ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การค้าของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีนายกรัฐมนตรีเห็นว่ามูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันยังสามารถขยายตัวได้อีก โดยเสนอให้ทั้งสองประเทศแสวงหาโอกาสทางการค้า โดยแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไทย-เม็กซิโกมีศักยภาพ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจน อุตสาหกรรมภาคบริการและการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้เม็กซิโกใช้ไทยเป็นประตูสู่อาเซียนในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการบริการ ซึ่งตรงกับความต้องการของเม็กซิโกที่ต้องการให้ไทยใช้เม็กซิโกเป็นประตูสู่ลาตินอเมริกา โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้สองประเทศร่วมมือกันในลักษณะประเทศไทยบวกหนึ่งประเทศในภูมิภาคอาเซียน และเม็กซิโกบวกหนึ่งประเทศภูมิภาคลาตินอเมริกาในสาขาที่แต่ละประเทศมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ เพื่อขยายตลาดระหว่างกันให้กว้างขึ้น

สำหรับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สองฝ่ายยินดีที่มีการนำคณะผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานจากไทยเยือนเม็กซิโก เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีในสาขาดังกล่าว เพื่อนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานของไทย  โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ ไทยกำลังขยายความเชื่อมโยงทางอากาศ (air connectivity)  มีการปรับเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ของ BOI และมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทางภาคตะวันออก (EEC- Eastern Economic Corridor)  ซึ่งเห็นว่า หากเม็กซิโกสนใจเข้ามาลงทุน ณ ตอนนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่และเป็นสาขาที่เม็กซิโกเองมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว

นอกจากนี้ มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเม็กซิโกเองเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 7 ของโลก และไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก ซึ่งในเรื่องนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ทางสถานทูตเม็กซิโก ได้จัดงานสัมมนาเพื่อแสวงหาความร่วมมือทางการค้าระหว่างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างไทยและเม็กซิโก ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ณ ไบเทค ซึ่งหวังว่างานสัมมนาดังกล่าวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มมากขึ้น และสร้างความใกล้ชิดระหว่างผู้ประกอบการไทย-เม็กซิโก

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนให้เม็กซิโกมาเป็นหุ้นส่วนของไทยในระยะยาวตามยุทธศาสตร์ 5 ปี และ 20 ปี ซึ่งเอกอัครราชทูตเห็นพ้องว่า จะเร่งเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาของไทยเพื่อส่งเสริมให้สองประเทศเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในระยะยาวต่อไป