‘แป้งฝุ่นออโซ’ รุกขึ้นห้าง เดินเครื่องอัดกิจกรรมตลาดครบวงจรสร้างการจดจำ

10 ต.ค. 2559 | 09:00 น.
ออโซ ไทยแลนด์ฯ สบช่องตลาดเครื่องสำอางเมืองไทยโตต่อเนื่อง ส่งแป้งฝุ่น "ออโซ ลูส พาวเดอร์ เอสพีเอฟ 50" รุกตลาด พร้อมเดินเครื่องอัดกิจกรรมทางการตลาดครบวงจรผ่านกลยุทธ์ "ป่าล้อมเมือง" และ "เซเลเบรตี้มาร์เก็ตติ้ง" ก่อนสบายปีกต่าวประเทศต่อเนื่อง

[caption id="attachment_104124" align="aligncenter" width="336"] อนุดิษฏ์ ลิ้มสุขเจริญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโซ (ไทยแลนด์) จำกัด อนุดิษฏ์ ลิ้มสุขเจริญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโซ (ไทยแลนด์) จำกัด[/caption]

นายอนุดิษฏ์ ลิ้มสุขเจริญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโซ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งฝุ่นแบรนด์ ออโซ (Also) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากที่บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่น ออโซ ลูส พาวเดอร์ เอสพีเอฟ 50 ออกมารุกตลาดเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผ่าน 2 ช่องทางจำหน่ายหลัก ได้แก่ ช่องทางออนไลน์และช่องทางร้านค้าโมเดิร์นเทรด ล่าสุดบริษัทมีแผนจะขยายช่องทางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย 1 ศูนย์การค้าต่อ 1 ตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้การนำรูปแบบตัวแทนจำหน่าย 1 รายต่อ 1 ศูนย์การค้ามาใช้เพื่อป้องกันการขายตัดราคากันเองในท้องตลาด และจะส่งผลให้โพซิชั่นนิ่งของแบรนด์ดูเป็นแมสมากเกินไป

"ก่อนหน้านี้เราได้พัฒนาสินค้าออกมาพร้อมกัน 2 รายการ คือผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นอัดแข็ง และแป้งฝุ่นแบบธรรมดา ซึ่งหลังจากทดลองตลาดกับกลุ่มผู้ใช้พบว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เท่ากับแป้งฝุ่นธรรมดา สุดท้ายทางบริษัทจึงหันมาพัฒนาสินค้าให้เหลือ 1 รายการเพื่อรุกตลาดเมืองไทย นอกจากนี้ในอนาคตมีแผนปรับโฉมแพ็คเกจจิ้งเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและจดจำมากขึ้น"

สำหรับตลาดต่างประเทศมีแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านทั้ง เมียนมา,กัมพูชา,เวียดนาม และลาว เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) โดยจะสามารถนำเข้าไปทำตลาดได้ภายในปีนี้ หลังจากที่กัมพูชาบริษัทมีการนำสินค้าในกลุ่มคลีนซิ่งโฟมเข้าไปทำตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่ายแล้ว

นายอนุดิษฏ์กล่าวอีกว่า ขณะที่แผนการสร้างแบรนด์นับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ทางการตลาดที่เรียกว่าป่าล้อมเมืองมาใช้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักของสินค้า นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดจากราคาปกติ 1,290 บาทลดเหลือ 690 บาทควบคู่กับการแจกสินค้าตัวอย่างในช่วงแรก รวมถึงการสร้างแบรดน์ผ่านช่องทางออนไลน์

"เรามองว่าจากจำนวนประชากรชาวไทยปัจจุบันราว 67 ล้านคน ซึ่งเรามองว่าหากประชากร 10% หรือราว 20 ล้านคน ใช้สินค้าของบริษัทมองว่าถึงตรงนั้นก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว โดยปัจจุบันพฤติกรรมของชาวไทยใช้แป้งฝุ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 2 เดือนต่อ 1 ตลับ"

นายอนุดิษฏ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีนำกลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบของเซเลเบรตี้มาร์เก็ตติ้งมาใช้ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการใช้พรีเซ็นเตอร์หรือตัวแทนจำหน่ายที่เป็นนักร้อง ดารา หรือคนที่มีชื่อเสียงมาสื่อสารอีกทั้งยังเป็นการสร้างความสนใจให้ผู้บริโภคและอยากรับเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงระยะ 3 เดือนนับจากนี้ถึงสิ้นปีจะสามารถสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดได้

โดยบริษัทวางเป้ายอดขายช่วง 1 ปีหลังจากที่มีการทำตลาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ 1 หมื่นตลับ นอกจากนี้บรอิษัทยังมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มเติมอีก 2 รายการได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งทาผิว และกลุ่มผลิตภัณฑ์รองพื้น ซึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์รองพื้นจะเน้นทำตลาดในต่างประเทศ เนื่องจากมีความต้องการสูง ขณะที่ตลาดในเมืองไทยจะเน้นสร้างรุกตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์และเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,198 วันที่ 6 - 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559