ทีเส็บเปิดตัวแคมเปญ“THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success”

29 ก.ย. 2559 | 09:20 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ เผยผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดจากธุรกิจไมซ์ สร้างรายได้สูงถึง 2.2 แสนล้านบาท พร้อมเปิดตัวแคมเปญสื่อสารประเทศไทยปี 2560 “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” ส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยสู่จุดหมายปลายทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อนของภูมิภาค ตั้งเป้าดึงนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,109,000 คน ทำรายได้ 101,000 ล้านบาท

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า  ธุรกิจไมซ์ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโต โดยจากผลวิจัยในปีที่ผ่านมาพบว่ามูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรมไมซ์ คิดเป็นจำนวนถึง 2.2 แสนล้านบาท และยังส่งผลต่อการจ้างงานประมาณ 164,000 อัตรา นอกจากนี้รัฐบาล สามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจไมซ์ได้ 10,400 ล้านบาท และยังก่อให้เกิดประโยชน์เชิงปริมาณที่เกิดจากการสร้างเครือข่ายในการลงทุน การสร้างตราสินค้าและการแบ่งปันทักษะระหว่างอุตสาหกรรม จึงเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลบรรจุอยู่ในกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579)

การส่งเสริมตลาดไมซ์ของไทยปี 2560 จึงต้องเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อนของภูมิภาค ภายใต้แคมเปญ “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากกลยุทธ์สื่อสารแบรนด์ในปี 2559 – Thailand Connect Our Heart Your World  แคมเปญ ‘Thailand CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success’ จะนำเสนอภาพรวมของสีสันการเดินทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจโดยยังคงความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยจุดเด่นของประเทศไทยทั้ง 3 ด้าน คือ จุดหมายปลายทาง (Destination) โอกาสทางธุรกิจ (Business) และบุคลากรมืออาชีพ (People)

จุดเด่นของประเทศไทยในด้านจุดหมายปลายทาง (Destination) เป็นการนำเสนอสีสันของจุดหมายปลายทางที่สร้างแรงบันดาลใจไม่รู้จบผ่าน 3 มิติ

1.มิติทางด้านภูมิศาสตร์ - ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในจุดรอยต่อของภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางอาเซียน และยังเป็นประตูเปิดสู่กลุ่มตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วดังเช่นประเทศในกลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประเทศไทยจึงเป็นจุดหมายของการเดินทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุดเพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการในรูปแบบ “Bleisure” หรือ การเดินทางทั้งด้าน “ธุรกิจ” และ “การพักผ่อน” ไปพร้อมๆกันได้ ทำให้ทุกกิจกรรมเชิงธุรกิจประสบผลสำเร็จอย่างน่าจดจำ   2.ระบบโลจิสติกส์ชั้นเลิศ -การขยายโครงข่ายสาธารณูปโภคของประเทศไทย ทั้งในส่วนของระบบคมนาคมและการขนส่ง สร้างความสำเร็จให้กับผู้จัดงานด้วยโอกาสทางธุรกิจมากมาย   และ 3. ความหลากหลาย เติมสีสันให้กับการเดินทางเพื่อธุรกิจ – จุดหมายปลายทางและสถานที่ที่หลากหลายของไทย สร้างประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และน่าประทับใจให้กับกิจกรรมเชิงธุรกิจ

ด้านโอกาสทางธุรกิจ (Business) เป็นการนำเสนอความพร้อมของประเทศไทยที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับนานาชาติ ใน 3 ด้าน  1.การสนับสนุนจากภาครัฐ – ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้รับการผลักดันด้วยนโยบายก้าวกระโดดของภาครัฐทั้งโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจ “ประเทศไทย 4.0” และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศเหล่านี้ จะเป็นแรงผลักให้ผู้ที่เข้ามาจัดงานในประเทศไทยก้าวสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ   2.   ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบดิจิทัลของประเทศไทยมีการพัฒนาเติบโตอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัด  และ3.ศูนย์กลางของความร่วมมือ  ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ขององค์กรธุรกิจชั้นนำของโลก อาทิ Google, Line, Alibaba, Honda, Ford, Chevron ฯลฯ

และด้านบุคลากรมืออาชีพ (People) เป็นการนำเสนอบุคลากรด้านไมซ์ของไทยมีทักษะความสามารถ มีความมุ่งมั่นและให้บริการดีเยี่ยมด้วยเสน่ห์แบบไทย และมีทัศนคติในการทำงานที่มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ พร้อมทั้ง 3 ด้าน  1.การสนับสนุนที่นำไปสู่ความสำเร็จ  ข้อดีของการจัดกิจกรรมเชิงธุรกิจในประเทศไทย คือ การได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม และการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่จากภาครัฐและประชาชน  2. การให้บริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน บุคลากรด้านไมซ์ของไทยเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น และทักษะความสามารถ และพร้อมที่จะสร้างความสำเร็จไปกับผู้จัดงานธุรกิจ

3.ความท้าทายใหม่จากเจ้าของธุรกิจเกิดใหม่ กลุ่มธุรกิจ “สตาร์ทอัพ” ของประเทศไทย ถือเป็นกำลังสำคัญที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับธุรกิจและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ทีเส็บยังได้ใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดงาน IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2016 ซึ่งเป็นงานเทรดโชว์ด้านไมซ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดตัวแคมเปญสื่อสารประเทศไทยประจำปี 2560 “Thailand CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” สู่การรับรู้ของผู้ประกอบการไมซ์และสื่อมวลชนกว่า 2,800 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลกที่เดินทางมาร่วมงานระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

“ทีเส็บยังได้นำเสนอประเทศไทยผ่านไทยแลนด์พาวิลเลียนที่บูธหมายเลข B1 ถือเป็นบูธนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในงาน ที่รวบรวมผู้ประกอบการไมซ์กว่า 63 ราย นำเสนอสินค้าและบริการทางด้านไมซ์ และเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ   และมีการเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้รับประสบการณ์สุดพิเศษผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ พิธีกรหุ่นยนต์ยักษ์, การวาดระบายสีร่ม, โชว์ศิลปะมวยไทย และเพลิดเพลินกับความตื่นเต้นเร้าใจจากการสัมผัสมุมมองประเทศไทยผ่านภาพวิดีโอเสมือนจริง 360 องศา

นอกจากนี้ยังสนับสนุนพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและงานเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด ภายใต้แนวคิด Siam Spice Night เพื่อเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายของกลุ่มผู้ซื้อ ผู้ขาย วิทยากร สื่อมวลชนจากกว่า 60 ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ อินเดีย จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น รวมทั้งยังสนับสนุนการเดินทาง ที่พักและจัดกิจกรรมต้อนรับ City Tour ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กรุงเทพมหานคร และกิจกรรม Post Tour 2 เส้นทาง คือ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการนำเสนอสถานที่การจัดงานและจังหวัดที่มีความพร้อมในการต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์แก่กลุ่มผู้ซื้อที่เข้าร่วมงานจำนวน 550 ราย ทั้งนี้ทีเส็บตั้งเป้ารายได้ที่เกิดจากการเจรจาธุกิจในงานประมาณ 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทยที่ไม่เป็นเพียงจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานเพื่อธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายในฝันของการเดินทางพักผ่อนเพื่อให้รางวัลกับตัวเองอย่างน่าประทับใจไม่รู้ลืมอีกด้วย” นางศุภวรรณ กล่าวสรุป

ในปี 2560 ทีเส็บประมาณการว่า ประเทศไทยจะให้การต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งสิ้น 1,109,000 คน ทำรายได้ 101,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีนักเดินทางไมซ์ 1,060,000 คน คิดเป็นรายได้ 92,000 ล้านบาทขณะเดียวกันยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการดึงเอาการจัดงานเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่อีกหลายงานเข้ามาจัดในประเทศ อาทิ การประชุมทางด้านปิโตรเลียมนานาชาติ the 10th International Petroleum Technology Conference ด้วยจำนวนผู้ร่วมงาน 2,500 คน / the 10th International Convention of Asia Scholars (ICAS) มีผู้ร่วมงาน 2,000 งาน / VIV Asia 2017 มีผู้ร่วมงาน 30,000 คน และ Bangkok Entertainment Week ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากถึง 700,000 คน