ดวงเมือง 2569 การเมืองวุ่นวาย

ตามดวงดาวเกณฑ์ในการเลือกตั้งที่ดีนั้นเป็นปีพ.ศ.2570 แต่เมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ มาแทรกกลางนับได้ว่าเป็นภาวะของการฝืนดวงชะตาฟ้าลิขิต เรื่องการยุบสภา ก็ยังไม่มีเกณฑ์ แต่เมื่อเกิดการฝืนดวงดาวด้วยภาวะจำเป็น จำยอม จำใจ ของรัฐบาลอนุทิน ก็ต้องยอมรับผลกระทบที่จะตามมาให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของธรรมชาติอย่างหนึ่ง

ดวงดาวที่ปรากฏในปีพ.ศ. 2569 ในมุมการเมืองนั้นน่าสนใจอย่างมาก หลังจากเลือกตั้งแล้วเสร็จ(ถ้ามี) จากนั้นดาวเสาร์๗ จรย้ายจากราศีกุมภ์ไปที่ราศีมีนวันที่ 13 ก.พ. 2569 เวลา 10:16 น. ทิ้งดาวราหูไว้ในราศีกุมภ์ลำพัง ดาวเสาร์เป็นดาวที่เกี่ยวเนื่องกับการเมืองโดยตรง เมื่อจรย้ายไปอยู่ในราศีภพวินาศของดวงเมือง ทำให้การเมืองหลังจากการเลือกตั้งเกิดปรากฏที่แปลกประหลาด

1. ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในเวลารวดเร็ว เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี คนเดิมรักษาการยาวไปก่อน
2. มีเหตุปฏิรูปเรื่องความมั่นคงก่อน

ดาวราหู๘ อยู่เดี่ยว ๆ ในราศีกุมภ์โยคใส่ลัคนาเมืองนอกจากจะปรากฏเรื่องแปลกประหลาดกับการเมืองแล้ว เรื่องร้อน ๆ แนวคดีความก็เกิดขึ้นด้วย นักการเมืองอาจฟ้องร้องกันเอง หรือ นักการเมืองร้องคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง แม้จะมีนักกฎหมายออกมาแนะนำตักเตือนในหลาย ๆ เรื่องด้วยดาวพฤหัสโยคถึงดาวอาทิตย์ในลัคนาราศีเมษ แต่เหมือนไม่เป็นผลใด ๆ

พูดง่าย ๆ ว่า เมื่อไม่มีดวงเลือกตั้งแต่ฝืนจะเลือกตั้งก็ต้องรอรับผล ความราบรื่นจึงไม่ปรากฏใด ๆ รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ลากยาวไปสามเดือน จึงเบาลงตกลงกันได้

พรรคการเมืองที่ดวงดีดูเหมือนเป็นพรรคภูมิใจไทย สามารถโกยคะแนนได้มากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนพรรคประชาชน ก็ใช่ย่อยอาจกลายเป็นพรรคที่มีคะแนนเท่ากับพรรคภูมิใจ ถ้าเป็นเช่นนี้ใครจะได้จัดตั้งรัฐบาล ก็ชวนคิดชวนสงสัย...

พรรคที่ 3 ใกล้เคียงกันมีอยู่ 2 พรรคการเมือง คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคกล้าธรรม พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสพลิกฟื้นจากเดิมมาเป็นพรรคที่ 4 พลังประชารัฐตามดวงดาวจะเป็นพรรคลำดับ 5 ดวงชะตาพรรคเพื่อไทย พรรคกล้าธรรม เกณฑ์ดวงชะตาพรรคพอกัน แต่พรรคกล้าธรรมต้องบอกว่าเป็นพรรคใหม่ที่มาแรงมากด้วยดวงชะตาพรรค ดีในระดับหนึ่งแต่ดวงชะตาคนคุมพรรคนั้นดีมาก 

 ในดวงชะตารายบุคคล ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ดวงชะตา อนุทิน ชาญวีรกูล เด่นสุดมีพลังมากสุด ในวันเลือกตั้งดาวเสาร์ยังโอบอุ้มพลังงานดี ๆ ส่งท้ายให้ก่อนจรย้ายไปราศีมีน แต่หลังจากดาวเสาร์ย้ายแล้ว ดาวราหูจะส่งผลร่วมกับดาวพฤหัสและดาวอาทิตย์ทำให้เกิดข้อกังวลและคิดเยอะคิดมากหลากหลายลักษณะ 

ดวงชะตาบุคคลที่ถูกนำเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ดวงชะตามีกำลังที่อ่อนร่ายเรียงกัน ไม่แตกต่างกัน มีจุดแข็งจุดอ่อนที่ต่างกันในคนละมุม แต่รวมกันแล้วยังไม่อาจสู้ดวงชะตาของนายอนุทิน ได้แต่อย่างใด ดวงชะตาของบางคนอาจเป็นภาระให้แก่พรรคตัวเองด้วยซ้ำ 

แต่ถ้ามีเหตุทำให้ไม่ได้เลือกตั้ง โดยมีการปฏิรูปเรื่องความมั่นคงขึ้นมา เพื่อความมั่นคงของประเทศ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อนุทิน ก็รักษาการไปยาว ๆ ตามเกณฑ์ดวงดาวเดิมตามที่ควรจะเป็น และไม่เป็นการฝืนดวงชะตาด้วย เพราะแค่ยุบสภาแต่ไม่มีการเลือกตั้ง ถ้าเป็นเกณฑ์ตามนี้ เรื่องร้อน ๆ อันเกิดจากดาวราหูก็ยังปรากฏ อาจจะมีการฟ้องร้องคณะกรรมการที่จัดการเลือกตั้ง หรือ มีการประท้วง กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการออกมาเสนอเรียกร้องให้ปฏิรูปเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า ประเด็นปฏิรูปนี่ไม่ใช่ปฏิวัติรัฐประหารแต่อย่างใดเป็นการร้องขอความร่วมมือผ่านรัฐบาล 

ความวุ่นวายต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องการเมืองจะมีเกณฑ์เริ่มคลี่คลายในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปการเจรจาต่าง ๆ เริ่มเห็นผลมากขึ้น เพราะในช่วงนั้นดาวพฤหัสตอนย้ายไปอยู่ในภพราศีกรกฎเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้น6เดือนแรกความวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องการเมืองจะมีค่อนข้างมาก แต่ความวุ่นวายแบบนี้เป็นความวุ่นวายเพื่อความมั่นคงถาวรของประเทศและถ้านักการเมืองทุกคนมองถึงผลประโยชน์ของประเทศมากกว่ามองถึงผลประโยชน์ของพรรคพวก จึงนับได้ว่านักการเมืองทุกคนร่วมใจกันสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ นับเป็นการเสียสละของคนการเมืองที่อุทิศตนมาทำงานการเมืองอย่างแท้จริง

สรุปความตามดวงดาวได้ว่า จะมีการเลือกตั้ง หรือ ไม่มีการเลือก การเมืองก็วุ่นวาย ทำให้เกิดภาวะการถ่วงวิถีการเมืองบ้างและประชาชนก็มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย หลากหลายความคิด และพึงควรระวังความแตกต่างทางความคิดจะกลายมาเป็นม็อบประชาชนเกิดขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ไม่ควรดูแคลน