หลวงปู่ดูลย์ อตุโล แห่งวัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ เป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
นักเขียนรุ่นพี่ผม บัว ปากช่อง บวชอยู่กับหลวงปู่มานานหลายพรรษา ทุกครั้งที่พบเจอกัน ผมมักจะให้เล่าเรื่องของหลวงปู่ดูลย์ให้ฟังเสมอ ผมชอบที่หลวงปู่เป็นพระกรรมฐาน แต่เน้นเรื่องจิตแบบพระเซนคล้าย ๆ ท่านตั๊กม้อ ให้นั่งภาวนาแต่ไม่ให้ยึดการภาวนา เพราะสมาธิภาวนาไม่ได้ทำให้บรรลุธรรม แต่เพราะธรรมนั้นปรากฏคู่โลกอยู่มาช้านานแล้ว
พระที่บวชมาใหม่ คำสอนของหลวงปู่ที่กินใจนั้นมีมากมาย อย่างตอนออกบิณฑบาต บางบ้านก็ใส่บาตรด้วยความสำรวม บางบ้านก็โวยวายตามนิสัยชุมชน
วันหนึ่งหลวงปู่นำออกบิณฑบาต ครั้นมาถึงบ้านหนึ่งชอบโวยวายตะโกนไปมา ขณะที่ตักบ้านหลวงปู่อยู่ ลูกสาวที่อยู่ในบ้านก็ตะโกนถามออกมาว่า
"ไก่นาต้มยังไงแม่"
แม่กำลังตักบาตรอยู่นั้นจึงหันไปตอบว่า
"กูตายแล้วมึงสิถามไผ"
หลวงปู่ยืนด้วยความสำรวมแล้วหันไปมองพระเณร ด้วยแววตาแห่งความเมตตาเหมือนกับสอนว่า การอยู่ในอุดมเพศนี้ดีนักแล คือ บวชนี่ดีนักแล คนที่มีครอบครัววุ่นวายนัก
อีกบทธรรมหนึ่ง ท่านสอนพระใหม่ ๆ เสมอว่า
"บวชแล้วไม่ใช่จะเป็นพระ ความเป็นพระต้องทำเอาเอง"
ในความหมายของท่าน แม้โกนผม ใส่ผ้าเหลือง ผ่านพิธีกรรมทางสงฆ์แล้ว แต่ทว่าความเป็นพระไม่ได้เกิดเพราะแค่นั้น อยู่ที่การปฏิบัติตนให้รู้จักสำรวม ให้รู้จักคำว่าศีล และธรรม โดยอย่างเคร่งครัด
ผู้ที่บวช และเรียนบาลีจนเป็นมหาเปรียญแล้ว แต่ถ้าไม่ฝึกจิตใจ เหมือนที่เจ้าคุณพุทธทาสฝึก เหมือนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปอ.ประยุตโต) ท่านฝึก ก็ไม่ต่างพวกใบลานเปล่า
ซึ่งตอนบวชก็เป็นใบลานเปล่า.. รอพัด รอยศ รอตำแหน่ง ผู้เป็นมหาเปรียญแบบนี้ก็มีมาก สุดท้ายกิเลสพอกพูนมากมาย ไม่พ้นเรื่องสตรีและสตางค์ มหาเปรียญบางคนลาสิกขาบท ก็เป็นใบลานเปล่าอีก ไม่เอาความรู้มาใช้กับตนด้วยระวังสำรวม แต่คอยเอาธรรมะมาตอกใส่ผู้อื่นร่ำไป
แสดงความคิดความเห็นใดในธรรมก็ยังเจือปนด้วยวาจาที่มุสาวาท คือ ส่อเสียดเพ้อเจ้อ เหน็บแนมผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นว่า การเรียนเป็นมหาเปรียญ ยิ่งเรียนมาก รู้มาก กลับไม่ได้ทำให้จิตใจพัฒนาในธรรมใด ๆ เลย ถ้าไม่ปฏิบัติตามที่เรียนมา
แต่พระภิกษุที่เป็นมหาเปรียญที่เรียนแล้ว ใฝ่ปฏิบัติธรรมยังมีอยู่ ท่านเหล่านั้นจะไม่มุ่งในลาภสักการะใด ๆ สงบนิ่ง ไม่แสวงหาชื่อเสียงใด ๆ แม้วันใดลาสิกขาบทก็น้อมธรรมไปปฏิบัติใส่ตนเสมอ
ดังนั้น ความเป็นพระไม่ใช่ อยู่ที่เรียนมามาก มาน้อย แต่อยู่ที่น้อมธรรมมาปฏิบัติมากกว่า พระสงฆ์ที่เป็นข่าวโด่งดังทุกวันนี้ โดยมากเรียนเป็นมหาเปรียญแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติธรรมเกือบทั้งนั้น กิเลสไม่ได้หมดไปตามตอนที่โกนผม จีวรไม่สามารถกั้นขวางกิเลสได้ ทุกอย่างอยู่ที่จิตทั้งสิ้น
หลวงปู่ดูลย์ ท่านจึงย้ำหนักหนาว่า...
จิตที่ส่งออกข้างนอกทำให้เกิดทุกข์
จิตที่อยู่ข้างใน จะคอยเรียนรู้ทุกข์และดับทุกข์
ดังนั้น แม้เราจะเป็นเพียงฆราวาสคนธรรมดา ถ้าเราพยายามไม่ส่งใจออกไปสนใจเรื่องนอกตัวมากนัก ให้มีใจอยู่กับตัวตลอดเวลา ความทุกข์ก็ย่อมจะน้อยลงเช่นกัน