ปลาผัดกะเพรา

07 ม.ค. 2566 | 00:30 น.

คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

ปลาผัดกะเพรา ปกติเขาไม่ทำกัน เลี่ยงไปผัดฉ่าเสียมากกว่า ใส่พริกเหลืองและเครื่องใบมะกรูดดับคาวทะเล
 

ร้านนิรนาม สรงประภา นาวง แม้เฮียตงเจ้าวิชาล่วงลับดับขันธุ์ไปแล้ว หากภริยายังคงสืบฝีมือปรุงปลาสดได้แท้ไม่บกพร่อง นึ่งปลาชิ้นปลาสดร้อนๆ ชื่นอกเราในวันโหยของดี
 

วันนี้ไม่มีปลาหมอทะเลเข้าร้าน อยากจะกินผัดฉ่าให้เนื้อแน่นหนังนุ่ม เปนอันว่า เอวัง ปลาหมอทะเลผัดฉ่าของเขากินอร่อยหนุบหนับกินดีเปนหนักหนา
 

แต่เพื่อมิให้เสียหน้าแม่ครัวเสนอใช้ราวท้องปลากะพงยักษ์ ผัดใบกะเพราแก้เกมส์แทน ใช้พริกเล็กทุบเอาซื่อๆ น้ำผัดนั้นใสแหนว แต่เปี่ยมรสเผ็ดร้อนหอมฉุน ทั้งข้นและมัน ข้าวหอมมะลิจานหนึ่งไม่อาจพอเลย
 

วันนี้นิรนาม ย้ายจากอาคารพาณิชย์ที่นาวง มาอยู่บ้านในเมืองเอก ฝีมือยังดีงามเหมือนเคย
 

ของอื่นที่ไม่น่าพลาดคือปูทะเลผัดผงกะหรี่กินกับหมี่ซัวสีขาวเส้นเขื่องๆ ลวก นอกนี้มีปลาทะเลนึ่งขิงทอด ผู้ใหญ่บางท่านจริงจังกับการกินปลา ศีลของท่านเหล่านั้นคือความคุ้มค่า ปลาเนื้อไรเหมาะแก่ทำไร กินแล้วคุ้มค่า จะนึ่งซีอิ้วท่านให้ใช้ปลาเก๋า เนื้อลิ่มกินเค็มสมชาติเกิด จะนึ่งบ๊วยท่านใช้เต๋าเต้ย จาระเม็ดเทาเนื้อมันละเอียดกินอมเปรี้ยวสุขุม จะนึ่งมะนาวใช้กะพงเนื้อบางกินจี๊ดจ๊าด จะนึ่งเย็นใช้กระบอกหูดำจากเมืองจีนกินหวานมัน ที่ ‘ร้านนิรนาม’ เขาเอาขิงซอยทอดเสียก่อนให้คลายรสดิบเผ็ดจ้าน นึ่งบ๊วยกะพงชิ้นราวท้องให้รสนุ่มนวลหอมมัน ละมุนละไม แทนปลาเก๋าเนื้อหนั่นได้สมบูรณ์
 

ที่ร้านตั้งใจอยู่เยาวราช ตรงถนนเยาวพานิช สงวนเครื่องในปลาเอาไว้ให้รุ่นใหญ่เรียกหามาผัดกระเพรา กินอร่อยอุ่นท้องยามท่องราตรีมาดึกๆ
 


 

อีกรูปนี้คือเจ๊เก๊กฮวย แกเปิดร้านเก่าเเก่นานเนอยู่เชิงสะพานพระพุทธเลิศหล้าแม่กลอง ใช้ปลากระพงสดจากเรือสับหยาบผัดกระเพรารสจัดจ้าน แก้เผ็ดด้วยผัดผักบุ้ง และไข่เป็ดทอดในน้ำมันหมู

ใครไม่ไหวจะเผ็ดก็ปลาทูสดของแกน่ะแหละทอดน้ำปลากินกรอบกร้วมได้ทั้งตัวเลยเชียว

 

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,851 วันที่ 8 - 11 มกราคม พ.ศ. 2566