บ้านหมุน น้ำในหูไม่เท่ากัน ไม่ใช่แค่ “สูงวัย” ที่เป็นได้

11 ส.ค. 2568 | 21:28 น.

บ้านหมุน น้ำในหูไม่เท่ากัน ไม่ใช่แค่ “สูงวัย” ที่เป็นได้ : Tricks for Life

อาการเวียนหัว บ้านหมุน หลายคนเข้าใจถูกต้องว่าเป็น “โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน” แต่หลายคนก็เข้าใจว่าโรคนี้เกิดขึ้นในเฉพาะผู้สูงวัยเท่านั้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง  

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) หรือโรคน้ำในหูผิดปกติ เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของความดันน้ำในหูชั้นใน (Endolymph)  จนส่งผลต่อการได้ยิน ทำให้รู้สึกหูอื้อ การได้ยินน้อยลง หรือวิงเวียนศีรษะ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในหูข้างเดียว และพบได้ในทุกเพศตั้งแต่วัย 30 ปีขึ้นไป

อาการแบบไหน เข้าข่ายน้ำในหูไม่เท่ากัน?

  • น้ำในหูไม่เท่ากันมักเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน สังเกตได้จากอาการดังนี้
  • เวียนศีรษะรุนแรง รู้สึกเหมือนบ้านหมุน
  • หูอื้อ รู้สึกเหมือนมีแรงดันในหู
  • การได้ยินเสียงลดลง
  • อาจคลื่นไส้ อาเจียน ร่างกายเสียการทรงตัว
  • อาจมีเสียงวิ้งหรือเสียงรบกวนในหู

 

สาเหตุของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

ปัจจุบัน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ยังไม่เป็นที่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่จากการศึกษาและสมมติฐาน พบข้อบ่งชี้ว่าอาจมีสาเหตุ ดังนี้

  • โครงสร้างหูชั้นในผิดปกติแต่กำเนิด
  • โรคทางพันธุกรรม
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคจากต่อมไร้ท่อ เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
  • การติดเชื้อไวรัส หูชั้นกลางอักเสบ
  • ความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกาย
  • อุบัติเหตุที่ศีรษะ

บ้านหมุน น้ำในหูไม่เท่ากัน ไม่ใช่แค่ “สูงวัย” ที่เป็นได้

การรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาดได้ มักรักษาตามอาการที่ตรวจพบ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดย

การใช้ยา เช่น ยาขับปัสสาวะ เพื่อลดปริมาณน้ำที่คั่งในหูชั้นใน ยาบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ แก้คลื่นไส้

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา แพทย์อาจใช้วิธีรักษาด้วยการฉีดยาผ่านเยื่อในหูชั้นกลาง หรือในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจพิจารณาให้มีการผ่าตัด แต่เป็นส่วนน้อย

การป้องกันและควบคุมโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

เราสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงของโรคได้ด้วยการดูแลตัวเอง ดังนี้

  • ลดเค็ม อาหารโซเดียมสูง
  • ลดคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
  • ทำจิตใจให้แจ่มใส ควบคุมความเครียด
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รีบมาพบแพทย์เมื่อเกิดอาการผิดปกติของร่างกาย

 

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ถือเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันและบรรเทาได้หากสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ และมาพบแพทย์เฉพาะทาง จะช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำและการรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น 

 

ขอบคุณ : แพทย์หญิง ณัฐชา อริยสังกัปป แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน โสต ศอ นาสิก ศูนย์โสต-ศอ-นาสิก เฉพาะทาง โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)