การกลับมา ของ DELTA

08 ก.ย. 2565 | 23:00 น.

คอลัมน์ เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

  *** การกลับมาของ DELTA ในรอบนี้ เป็นการกลับมาพร้อมกับผลการดำเนินงานที่ดีมากจนมีโอกาสที่จะกลับเข้าไปติดอยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 ได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยถูกปลดออกจากกรณีที่จำนวน ผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) มีต่ำกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันนี้ DELTA ก็ยังคงมี Free float เพียงแค่ 22% เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ถูกปลดออกไปก่อนหน้า จะต่างกันอยู่บ้างก็เพียงในครั้งก่อนราคาหุ้นถูกดันราคาขึ้นมาทั้งที่ผลการดำเนินงานยังไม่เข้าตา...แต่คราวนี้เป็นการกลับมาพร้อมกับผลงานที่ดีกว่าเท่านั้น ดังนั้น ข้ออ้าง หรือ คำกล่าวที่ทางตลาดฯ และ ก.ล.ต.เคยบอกว่าจะจัดการเรื่องหุ้น Free float ต่ำก็ยังเป็นแค่การกล่าวออกมาลอยๆ เหมือนกับการ “ขายผ้าเอาหน้ารอด” ไปวันๆ โดยที่ยังไม่มีขอปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมออกมารองรับก็เท่านั้นเอง 

 

  *** ราคาของหน่วยลงทุน JASIF ปรับลงต่อเนื่องหลายวัน หลังจากที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ให้ความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการเข้าทำรายการจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์เกี่ยวกับการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) และหน่วยลงทุนใน JASIF รวมมูลค่าทั้งสิ้น 32,420 ล้านบาท รวมถึงการที่ทาง ADVANC กล่าวว่าถ้าไม่ลดค่าเช่ากองทุน JASIF ทาง ADVANC ก็อาจจะไม่ซื้อ และถ้าหากทาง ADVANC ไม่ซื้อ บมจ..จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ก็จะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้  

  *** อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็เห็นว่า นี่เป็นเกมการกดดันให้ JASIF ต้องปรับราคาต่ำลงมาเพื่อให้ผู้ถือหุ้นของ ADVANC โหวตให้ผ่านนั่นเอง และในทางกลับกัน หากมองในมุมของนักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ การที่ราคาของ JASIF ปรับลงมาได้ขนาดนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะทำให้สามารถเข้าไปเก็บหน่วยลงทุนที่ให้ปันผลสูง 8-9% ต่อเนื่องได้อีกหลายปี และถึงแม้ผลตอบแทนจะลดลงไปอีกราย 30% ภายหลังปี 2568 แต่ท้ายที่สุดเจ๊เมาธ์ก็ยังเห็นว่าราคานี้กำลังดีและน่าสนใจมากเจ้าค่ะ

  *** ดูเหมือนการปฏิบัติการของ ก.ล.ต.ผู้คุมกฎยุคนี้ค่อนข้างปะฉะดะ ไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์ หน้าพรหมใดใด ไม่ว่าขาใหญ่ ขาเล็ก ไล่ฟันหมด ล่าสุด ได้สั่งให้ นพปฎล เดชอุดม ชำระเงินรวม 2.7 ล้านบาท รวมทั้งห้ามเป็นกรรมการ หรือ ผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน เนื่องจากขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)  ได้สั่งขายหุ้น TRUE ที่ถืออยู่ในวันที่ 5 กันยายน 2561 ก่อนที่ TRUE เปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงเย็น (19.00 น.) ของวันเดียวกัน ในเรื่องที่ กสทช. มีมติให้ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด (True Move) ต้องนำส่งเงินรายได้เข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว จำนวน 3,381.95 ล้านบาท และเรื่องที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดให้ TRUE ชำระเงินค่าผิดสัญญาให้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) รวม 94,474.27 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการของนายนพปฎล เข้าข่ายความผิดการหาประโยชน์โดยอาศัยข้อมูลภายใน (Insider) ก็ได้แต่หวังก.ล.ต.จะทำหน้าที่อย่างเข้มข้น เข้มแข็งต่อไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปราบปรามและปกป้องผลประโยชน์นักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อยทั้งหลาย ที่ยังตามไม่ทันข้อมูล เชิงลึก เชิงลับทั้งหลาย

 

  *** แม้ว่าราคาหุ้นของ TLI จะไม่สามารถยืนเหนือราคาหุ้นไอพีโอ แต่แฟนคลับของ TLI ไม่ต้องคิดมากนะคะ อย่างแรกคือ ระดับราคานี้คาบเกี่ยวอยู่กับการมีกำไรและการขาดทุน (นับเอาราคาไอพีโอ 16.00 บาทเป็นจุดกึ่งกลาง) หมายความว่า ถ้ายังติดดอยอยู่ก็เป็นดอยที่ไม่สูงมากนัก รวมถึงการที่ TLI มีแนวโน้มว่าสามารถที่จะข้ามแนวต้านนี้ได้ตลอดเวลา ก็เป็นกำลังใจที่ดี ส่วนเรื่องที่สองคือ ช่วงไฮซีซั่นของหุ้นตัวนี้จะมาถึงในช่วงปลายปี ซึ่งก็หมายความว่า ยังมีหวังว่า ผลการดำเนินงานในอนาคตที่ถึงแม้ว่าจะยังมาไม่ถึงแต่ก็มีโอกาสที่จะมา ...ดังนั้น ถ้าใครที่ติดดอยอยู่ก็มีโอกาสที่จะหลุดดอยนี้ได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันข้อดีอีกอย่างของการติดดอย TLI ก็คือ การได้พักอยู่ในหลุมหลบภัย ซึ่งมีความเสี่ยงที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับความผันผวนของภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบัน  ดังนั้น แล้วจึงไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากเจ้าค่ะ อิอิอิ...