ประดิษฐ์ปัญญา ฉากที่ 18

19 เม.ย. 2567 | 23:30 น.

ประดิษฐ์ปัญญา ฉากที่ 18 : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3985

“คนรักงาน” สวดคาถาแบบย่อ เพราะว่า “สุดวิสัย” ที่จะสวดยืดยาว เขามีงานด่วนค้างค้ำคอรออยู่ “คนขี้เกียจ” สวดคาถาแบบย่อ เนื่องจาก “สุดนิสัย” ห่วงว่าจะเสียเวลาในการเล่นเกม นักเรียนเคยถามผมหลังจากบรรยายเสร็จว่า “เบื่ออาจารย์ประจำชั้น ผมจะทำไงดี” ผมก็บอกว่า “รีบอ่านหนังสือให้หมดทุกเล่ม สอบผ่านจะได้หลั่ง โซดาเซย์โนถก ประกาศอิสระสมใจนึก” (ฮา)

ผมชอบ มุกชุบพริก ของ ท่านปรมาจารย์ เพลโต หลังจาก อริสโตเติ้ล ท่านพูดจบว่า “คนเป็นสัตว์ที่ดื้อกว่าสัตว์ใดๆในโลกนี้” ท่านปรมาจารย์ เพลโต รีบตีควีนโพดำน็อค ท่านอริสโตเติ้ล กลางวงว่า “ผมเห็นด้วยกับท่านอริสโตเติ้ล เพราะว่า ท่านอริสโตเติ้ล เป็นคนที่ดื้อที่สุด” (ฮา)

สำนวนที่น่าสนใจกว่ามุกนั้น เห็นทีจะเป็นสองวรรคนี้ ท่านปรมาจารย์ เพลโต กล่าวฝากไว้กับสังคมหมู่ชนคมกริบฝุดๆ ว่า “การมองเห็นแต่ไม่รู้จึงไม่เกิดสติปัญญา ความคิดมีสติปัญญาแต่ก็ไม่ได้มองเห็น!” สองวรรคนี้สะท้อนให้รู้ว่า เขามีจุดบอด เราก็มีจุดเบี้ยว ทั้งสองคนนี้ควรช่วยกันเคาะภูมิปัญญาให้เข้ารูปถึงจะเป็นปราชญ์ได้!

ใครที่ตัดบทอนาคตตัวเองว่า “ฉันยังคิดอะไรไม่ออกจึงไม่มีอะไรที่จะนำเสนอ” ผมขออนุญาตส่งซิกส์ว่าท่านรีบ U-Turn มาตั้งหลักกันนิดเดียว เรียนเพื่อทราบว่า เร่งฝึก สองกระบวนท่า คือ จุดแรก หาข้อมูลสองเรื่องเอามาเล่าเชื่อมโยงกันเป็นเรื่องผสมผสาน ที่มีส่วนสอดคล้องต้องกันอย่างไม่ยากเย็น ทั้งนี้ จุดที่สอง ท่านต้อง ฝึกปรือ! ไม่ใช่ ลงมือฝึกแล้วตาปรือ (ฮา) 

ฝึกปรือ คือ “ฝึกทำจนเป็น หัดทำจนชำนาญ” จงฝึกหาจุดสำคัญว่าข้อมูลนี้มีนัยสำคัญสอดคล้องกับข้อมูลนั้น ตรงไหน พิจารณาชัดเจนแล้วก็นำมา สนธิ หรือ โยงเรื่อง เข้าด้วยกัน 

ตลาดหุ้นเคยเชิญผมไปติว ทักษะในการโยงเรื่อง ตรงที่ บุคลากรป้ายแดง เพิ่งจะเริ่มทำหน้าที่เป็นพิธีกรโยงหัวข้อหลักมาสู้ประเด็นต่างๆได้ระดับหนึ่ง หัวหน้าเห็นว่า น้องเขามีหน่วยก้านก็ไม่เปลี่ยนคน แต่ต้องฝึกโยงให้กริ๊บยิ่งขึ้น

ประสิทธิภาพ คือ ความสามารถในการผลิต ทำงานเก่งจนเกิดผลลัพธ์ทรงคุณภาพ เกินกว่าความสามารถพื้นฐานดั้งเดิมที่เคยผลิตตามปกติ อาทิ โดยปกติ ร้านขนมครก มักจะผลิตได้วันละ 1,000 ฝา ถ้าสามารถทำได้ 1,500 ฝา ถือว่า ทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ผลิตภาพ คือ การวัดผลประสิทธิภาพ จาก การผลิต และ การบริการ เพื่อดูว่ามันมีปัจจัยใดเข้ามาหน่วงหรือไม่ ถ้า กะทิไม่บูด ต้นทุนไม่สูง ผลิตไม่ชักช้า ผิว่า ร้านขนมครก ยกระดับในการผลิต ครึ่งวัน 1,000 ฝา ปรับกำลังภายในให้ผลิตได้วันละ 2,000 ฝา ต้นทุนลด กำไรเพิ่ม แสดงว่า มี ผลิตภาพ โปรโมท ยั่วให้อยาก มีนักซิ่งมาเข้าคิวเอาไปส่งลูกค้า แต่ละวันขายได้ 3,000 ฝา ชัดเจนเลยว่า เจ้าของร้าน บรรลุทฤษฎีผลิตภาพ

                            ประดิษฐ์ปัญญา ฉากที่ 18

โทษฐานที่ผมบ้าหนังจอมยุทธ์ ก็มุดไปคัดเอาคอหนังจีน ที่นักคอมเมนท์เอามาลวกจนเห็นภาพ อิๆ…

□ กิมย้ง ตอนแรกกาก ตอนหลังเก่ง

○ โกวเล้ง เก่งสำเร็จรูป

□ กิมย้ง เน้นลมปราณ

○ โกวเล้ง เน้นอาวุธ

□ กิมย้ง จัดวางตัวเอก เน้นฝึกวรยุทธ

○ โกวเล้ง จัดวางตัวเอก เน้นฝึกชนจอก (ฮา)

□ กิมย้ง พระเอกมีสาวรุมรัก

○ โกวเล้ง พระเอกโดนสาวหลอก (ฮา)

□ กิมย้ง เขียนเรื่องราวของคนอื่น

○ โกวเล้ง เขียนเรื่องราวของตัวเอง

□ กิมย้ง สไตล์ป๊อป

○ โกวเล้ง สไตล์อินดี้

□ กิมย้ง อาภาพร

○ โกวเล้ง อาภัพ (ฮา)

□ กิมย้ง เล่ายาวก่อนห้าวเป้ง

○ โกวเล้ง พูดไม่กี่ก็ยำกันเละ

□ กิมย้ง พลีชีพเพื่อชาติ

○ โกวเล้ง เน้นคุณธรรมน้ำมิตร (ปรบมือๆ)

■ มีคนหมั่นไส้อย่างสมดุลทั้ง กิมย้ง และ โกวเล้ง กรีดทีเผลอว่า

□ กิมย้ง มันจะเก่งได้ไง

○ โกวเล้ง มันจะเก่งไปไหน

จะไปไหนเล่า ก็ยังเมาอยู่ อิๆ...

อ่านขาด ใช่ไหม กิมย้ง กับ โกวเล้ง ใครเขียนนิยาย มี ผลิตภาพ ล้ำ(เส้น)กว่า 

ผู้ใด เข้าใจ และ ทำเป็น ตามหลัก “ประสิทธิภาพ” กับ “ผลิตภาพ” ถือว่า ผู้นั้นเป็นบุคลากรผู้มีคุณภาพ