“จริย-คุณธรรม”ค้ำคอ โจทย์ใหญ่แบงก์กรุงไทย ล้างคดีปล่อยกู้ “เอิร์ธ”

มหากาพย์แห่งคดี “บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน)” หรือ EARTH ที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยเงินกู้อย่างหละหลวม จนกลายเป็นหนี้เสียไปร่วม 12,000 ล้านบาท จนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องมีคำสั่งให้สำรองหนี้ก้อนโต ตั้งแต่ปี 2560 กำลังพ่นพิษใส่บรรดาอดีตกรรมการ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย

ยุค นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นประธานคณะกรรมการ ธนาคารกรุงไทย เคยประกาศผลการสอบสวนไว้อย่างน่าตกใจว่า “การปล่อยกู้ให้บริษัท เอิร์ธ พบการทำความผิดของพนักงานธนาคารแทบทุกระดับ” 

“ธนาคาร จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” ( 24 ตุลาคม 2561)
ตอนนั้น นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ผู้เอาจริงเอาจังกับการตรวจสอบหาตัวผู้สร้างความเสียหายบอกว่า “เรื่องที่เกิดขึ้น พบทั้งความผิดจากระบบ ความผิดของพนักงาน ทั้งโดยตั้งใจทำผิด และมาจากความบกพร่อง จนธนาคารต้องนำกรณีนี้มาปรับปรุงระบบเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก…

“ส่วนพนักงานที่ทำผิด ก็จะดำเนินการเอาผิดตามวินัย และทางกฎหมาย”

นับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ธนาคารกรุงไทย มีการเอาผิดทางวินัย พนักงานสินเชื่อระดับล่าง ด้วยการ “ให้ออก-ไล่ออก” ไปอย่างน้อย 3-4 คน

แต่ในระดับบนหลายคนเกษียณอายุไป หลายคนยังทำหน้าที่ใหญ่โตในธนาคารแห่งนี้....

“หากความล่าช้า ก็คือ ความอยุติธรรม: Justice delayed is justice denied.” ตามแนวคิด ตรรกะ ของ “วิลเลียม เอวาร์ต แกล็ดสโตน” รัฐบุรุษอังกฤษ เป็นฉันใด โครงการลงทุนเหมืองถ่านหิน และนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซีย ที่มีขบวนการนำมาขอสินเชื่อจากแบงก์กรุงไทย จนกลายเป็น “หนี้เสีย” กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ถูกลากยาวมาร่วม 8 ปี

คดีนี้ ดีเอสไอ ส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตั้งแต่ปี 2562 ล่าสุด ป.ป.ช. ได้เผยแพร่รายชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้รวม 32 ราย แยกเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มคณะกรรมการ ผู้บริหาร-เจ้าหน้าที่ ธนาคารกรุงไทย ทั้งที่เป็นอดีตและยังมีตำแหน่งในปัจจุบันมีถึง 19 คน

ไล่ตั้งแต่ 1.นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร 2.นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ประธานกรรมการบริหาร 3.นายสมชาย พูลสวัสดิ์ กรรมการบริหาร 4.นายปุณณิศร์ ศกุนตนาค กรรมการบริหาร 5.นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่
6.นายปริญญา พัฒนภักดี กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 7.นายเกษม แพใหญ่ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 8.นายปานะพันธ์ หาญกิจจะกุล กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 9.นายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 10.นายชัยณรงค์ อิษฎาวงศ์ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ

11.นางประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 12.นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 13.นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 14.นางจรี วุฒิสันติ กรรมการกลั่นกรองสินเชื่อ 15.น.ส.ศิริกาญจน์ หรือ ยุพา ชนะอุดมสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม สายงานธุรกิจขนาดใหญ่

16. น.ส.ภัทริกา โสตถิสุพร ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย ทีมธุรกิจอุตสาหกรรม 17. น.ส.ชลธิชา วงศ์วิทยวณิช เจ้าหน้าที่อาวุโสวิเคราะห์สินเชื่อ ทีมธุรกิจอุตสาหกรรม 18.น.ส.กิจฏภัทศ์ ทองพิทักษ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ ทีมธุรกิจอุตสาหกรรม 19. น.ส.สุพรรณษา วันวัฒนกุล รองผู้อำนวยการฝ่าย Dept Capital Market 

แม้ปัจจุบันบุคคลเหล่านี้จะยังเป็น “ผู้บริสุทธิ์” เพราะเป็นเพียงแค่ “ผู้ถูกกล่าวหา” ว่าร่วมกันกระทำผิด แต่เชื่อเถอว่า อดีตคณะกรรมการ-ผู้บริหาร-พนักงาน 19 คน ของธนาคารกรุงไทย กำลังถูกกรรมเก่าไล่ล่า ชนิดที่ต้องเสียวสันหลังวาบ

โจทย์ที่ท้าทายต่อ “ต่อมจริยธรรม+จุดยืน” ของ “กระทรวงการคลัง+ธนาคารกรุงไทย” อย่างมากในขณะนี้คือ เมื่อ ป.ป.ช.กล่าวหา “ผู้บริหาร” แต่คณะกรรมการ ปปช.ยังไม่ชี้มูล คณะกรรมการ+ผู้บริหาร ธนาคารกรุงไทยจะตัดสินใจอย่างในเรื่อง “จริยธรรม-ธรรมมาภิบาล-โปร่งใส-รับผิดชอบ-ตรวจสอบได้”

“นิ่งเฉย-รอ-ปล่อยไป” VS “ต้องตัดสินใจยุติการทำงาน พักงาน” ผู้บริหารจนกว่าคดีจะสิ้นสุด!!!

จริยธรรม+คุณธรรม อันดับแรก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง จะตัดสินใจอย่างไรกับ นายวรภัค ธันยาวงษ์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ นายพิชัย แต่งตั้งไป เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 ให้ นายวรภัค มีหน้าที่ให้คำปรึกษา เสนอแนะ และปฏิบัติงานในเรื่องที่ได้รับมอบหมายจาก รมว.คลัง โดยไม่มีอำนาจสั่งการในเชิงบริหาร 

นายวรภัค นั้น เคยเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ช่วงปี 2556-2559 และเกี่ยวพันกับการพิจารณาอนุมัติปล่อยกู้แก่บริษัท เอิร์ธฯ มากที่สุด

เมื่อปัจจุบันกลายมาเป็นที่ปรึกษาขุนคลัง และกลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ จะหันไปมองหน้าลูกน้องในกรุงไทยอย่างไร

จริยธรรม+คุณธรรม อันดับสอง คือ นายปานะพันธ์ หาญกิจจะกุล อายุ 59 ปี ปัจจุบัน เป็นประธานผู้บริหาร Audit โดยในช่วงมี.ค.2563 - ส.ค.2565 เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานตรวจสอบภายใน และช่วงปี 2557 - 2563 เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มกลุ่มบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อสายงานบริหารความเสี่ยง

จริยธรรม+คุณธรรม อันดับสาม คือ นางประราลี รัตน์ประสาทพร อายุ 53 ปี ปัจจุบันเป็นผู้บริหารสายงาน สายงาน Digital Solutions ธนาคารกรุงไทย ในช่วงปี 2559 - 2562 เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารคุณภาพสินเชื่อและกระบวนการธุรกิจเครือข่ายรายย่อย ผู้บริหารองค์กรนวัตกรรมข้อมูลเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจ

ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการ บจ. อะไรส์ บาย อินฟินิธัส เป็นกรรมการ บจ. กรุงไทยแอดไวซ์เซอร์ เป็นกรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บจ. อินฟินิธัส บายกรุงไทย เป็นกรรมการ บมจ. บัตรกรุงไทย เป็นกรรมการ และกรรมการบริหารความเสี่ยง บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต

นี่คือความท้าทายความกล้าหาญ ทางจริยธรรม คุณธรรม อย่างมากของคณะผู้บริหาร ธนาคารกรุงไทย

ปล่อยเฉยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย “ต่อมจริยธรรมก็ไร้ค่า-มาตรฐานวินัยต่ำเตี้ย”

“พักงาน-พักการทำหน้าที่ผู้บริหาร” อาจโดนฟ้องคดี จากพนักงานก็เป็นไปได้

ทว่า ปฎิญญาสาธารณะว่า ธนาคารกรุงไทยดำเนินการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นองค์กรคุณธรรมต้นแบบ โดยดำเนินโครงการ “กรุงไทยคุณธรรม” และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ทนต่อการทุจริต (Zero Tolerance) ผ่านการยกระดับมาตรฐานด้านบรรษัทภิบาล ด้วยการ “ปลูกจิตสำนึก ป้องกัน และปรับเปลี่ยน”

เป้าหมายเรือธงหลัก คือ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมาย รับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เพื่อให้ธนาคารเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เป็นธนาคารที่ทุกคนไว้วางใจ ต่อต้านการรับ-ให้สินบนและต่อต้านการคอร์รัปชัน
ไม่ทำอะไร เท่ากับ ตบหน้าตัวเอง!

กลุ่มที่สองเป็น “คณะผู้บริหาร-ผู้ถือหุ้น-พนักงาน” บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ รวม 13 ราย

1. บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) โดย นายขจรพงศ์ คำดี 2.บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) โดย นายขจรพงศ์ คำดี 3.บริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด โดยนายขจรพงศ์ คำดี

4.นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด

5.นายพิรุฬห์ พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด

6.นายพิพรรธ พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด

7.นายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด

8.นายพิบูล พิหเคนทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด และบริษัท เอิร์ธ โฮลดิ้ง จำกัด

9.นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด
10.น.ส.กาญจนา จักรวิจิตโสภณ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) 11.นายนุกูล ศรีอินทร์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) 

12.นางเยาวลักษณ์ ลิขิตวัฒนานุรักษ์ ที่ปรึกษา บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) และ13.นายสุธีร์ สวัสดี ที่ปรึกษา บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน)

นอกจาก บรรดาผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น และ ผู้บริหาร บริษัทเอิร์ธฯ หลายคนโดนถล่มจากคำสั่ง ก.ล.ต. ที่ลงโทษในความผิดใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น EARTH รวมกันเป็นเงินราว 183.26 ล้านบาท  ยังมาต้องเจอกับคดีใหญ่ที่อาจนำมาซึ่งปัญหาในชีวิตที่หนักหน่วง

ขณะที่บรรดานักลงทุนที่เป็นผู้ถือหุ้นเอิร์ธฯ รวม 16,000 คน ต่างก็ได้รับความเสียหายย่อยยับไปตามๆ กัน

แต่นั่นเป็นเรื่องนักลงทุน ที่ต้องยอมรับชะตากรรม “ในความเสี่ยงที่พ่วงมากับการเก็งกำไร”

แผลจากฝีกลัดหนองในคดีการกู้เงิน สร้างหนี้ทิพย์ บริษัท เอิร์ธฯ กำลังจะแตก

คอลัมน์ห้ามเขียน โดย...พรานบุญ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์