10 ก.ค. วัดใจ กสทช. ปล่อยดีแทค+ทรู

23 มิ.ย. 2565 | 23:25 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ By…เจ๊เมาธ์

*** ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเพื่อลดผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้ AAV และ BA ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง ซึ่งหากเปรียบเทียบกันก็จะดูเหมือนว่าทางด้านของ AAV อาจจะดูเหนือกว่าบ้างในส่วนของชื่อชั้นที่ดูเป็นสากลมากกว่า แต่หากจับเอาผลการดำเนินงานและทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตมาเปรียบเทียบ เจ๊เมาธ์กลับเห็นว่าทางด้านของ BA ดูจะเหนือกว่า เพราะแม้ว่าทั้งคู่จะมีปัญหาขาดทุน แต่ดูเหมือนว่า AAV จะติดลบมากกว่า 
 

ขณะที่เมื่อมองไปทางอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น พบว่า AAV มีสัดส่วนที่มากถึง 4.1 เท่า ในขณะที่ทาง BA ติดอยู่เพียงแค่ 2.55 เท่า ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตพบว่า BA มีฐานลูกค้าชาวต่างชาติที่หลากหลายมากกว่านักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งยังคงเดินทางออกนอกประเทศได้ไม่เต็มที่ 
 

ขณะที่ AAV ยังคงพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังพบว่าอายุการใช้งานเครื่องบินของ BA ยังมีเหลือสูงกว่า AAV ซึ่งจะทำให้ปัญหาการปลดระวางเครื่องบินกว่าครึ่งหนึ่งในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า มีน้อยกว่าเช่นกัน พูดกันมาถึงขนาดนี้แล้ว จะชอบ หรือ จะลุยตัวไหนก็ว่ากันไปนะคะ เงินอยู่ในกระเป๋า...บังคับกันไม่ได้เจ้าค่ะ อิอิอิ


 

*** เจ๊เมาธ์เคยพูดถึง SABUY มาหลายรอบ...แต่ท้ายที่สุดก็อดที่จะพูดถึงอีกไม่ได้อยู่ดี อย่างแรกก็เป็นเรื่องสารพัดดีล “ขายฝัน” ที่มีเยอะมากจนไม่รู้ว่า มีดีลไหนสามารถทำได้จริง หรือ ดีลไหน ที่เป็นแค่การปั่นข่าวเพื่อล่อแมงเม่า ส่วนเรื่องที่สองคือ ผลการดำเนินงาน 1/65 ซึ่งเจ๊เมาธ์เองก็ยอมรับว่าดูดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้ราคาหุ้นของ SABUY ปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้มากกว่าที่เป็นอยู่อย่างชัดเจน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการที่กูรูหลายรายที่ออกมาบอกว่า ราคาหุ้นของ SABUY จะกลับตัวแบบ “วีเชฟ” ประมาณว่าลงมาเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะดีดกลับไปที่เดิมได้อีกครั้ง 
 

อูยย...อย่าลืมว่าจุดสูงสุดเมื่อเดือนมกราคม 65 คือราคา 38.00 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นหน้ากระดานปัจจุบันเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้าใครยังชอบก็ตามดูต่อได้นะคะ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจ จะมองหาหุ้นตัวอื่นมาแทนก็ไม่เสียหายเช่นกันค่ะ
 

***  กลุ่มหุ้นธนาคารใหญ่ทั้งหมดดูเหมือนว่าทางด้านของ KTB จะเป็นหุ้นดาวรุ่งที่น่าจับตาเอาไว้มากกว่าหุ้นตัวอื่น อย่างแรกก็เป็นเพราะผลการดำเนินงาน 1/65 ที่ออกมาโดดเด่นกว่าธนาคารอื่น ส่วนเรื่องที่สองคือ การที่ KTB คือ เจ้าของแอป “เป๋าตัง” ซึ่งมีโอกาสที่จะสามารถต่อยอด เพื่อการสร้างรายได้ในทางอื่นหลังจากการขายสลากกินแบ่งออนไลน์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เหนือความคาดหมาย 
 

ขณะเดียวกัน หากมองข้ามซ๊อตไปยังเรื่องของหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่มีโอกาสจะปรับตัวเป็นขาขึ้นจากแนวโน้มที่ กนง. อาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ทำให้มองได้ว่า ในฐานะที่ราคาหุ้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงการที่มีค่าพีอีต่ำกว่าหุ้นธนาคารตัวอื่นทำให้ KTB อาจจะขยับตัวได้มากกว่าหุ้นธนาคารใหญ่ตัวอื่นเช่นเดียวกัน จังหวะนี้บอกเลยว่า KTB น่าสนใจมากค่ะ 
 

*** ถ้าไม่เกิดความผิดพลาด...การควบรวมกิจการระหว่าง TRUE กับ DTAC ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ติดตามวันที่ 10 ก.ค.นี้ กสทช. ผู้ที่ศาลปกครองชี้ชัดลงมาแล้วว่า มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชี้เป็นสั่งตายให้เกิดการควบรวมได้  
 

สิ่งนี้สะท้อนความกังวลผ่านราคาหุ้นของคู่แข่งทางตรงอย่าง ADVANC แต่ก็ไม่แน่ว่าการควบรวมกิจการของ TRUE และ DTAC จะสร้างได้เพียงแค่ความเสียหายเท่านั้น เพราะถ้าหากคิดในแง่ลบหน่อยก็จะรู้ว่า ยิ่งคู่แข่งทางธุรกิจลดจำนวนลงมากเท่าไหร่ การผูกขาด และการกินรวบทางธุรกิจก็จะทำได้ง่าย และมีสูงมากยิ่งขึ้นตามมา และยิ่งคู่แข่งเหลือเพียงแค่ 2 ราย ก็ทำให้โอกาส “ฮั้ว” เพื่อการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างคู่แข่งมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่าไปถามถึง “ใบเสร็จ” เพราะแค่ต่างฝ่ายต่างทำเป็นมองไม่เห็น การเอาเปรียบผู้บริโภคของคู่แข่งก็ไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จ หรือหลักฐานมายืนยัน สุดท้ายรายได้ และผลกำไรก็จะไหลกลับเข้าไปหาผู้ประกอบการ ส่วนประชาชนที่เป็นลูกค้า หรือ ผู้รับบริการ ก็ต้องทนต่อไป เพราะไม่มีทางเลือก เรื่องมันก็เท่านั้นเอง
 

*** ทุกครั้งที่เห็น BWG ลากราคา หมายความว่า จะต้องมีแมงเม่าเจ็บตัวตามมาด้วยทุกครั้งเช่นกัน ก็อย่างที่เจ๊เมาธ์เคยบอกมาตลอดว่า หุ้นตัวนี้ คือ แหล่งรวมตัวของแก๊งนักปั่นโบราณ ที่ชอบหาเกมการทำกำไรง่ายๆ ด้วยการจับจังหวะลากแล้วตบ ซึ่งก็ทำแบบนี้มาแล้วเป็นสิบปี แน่นอนว่าในระหว่างที่ราคาหุ้นยังไม่ขยับ แก๊งนักปั่นโบราณเหล่านี้ ก็จะแบ่งงานกันปล่อยข่าว ทั้งการเทคโอเวอร์ การซื้อกิจการ การเข้ามาร่วมทุนของนักลงทุนรายใหญ่ หรืออะไรก็ได้ ที่สามารถทำเป็นข่าวได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ถึงจะรู้ทั้งรู้ แต่สำหรับหุ้นปั่นมันก็ยังมีความหอมหวานและความดึงดูดในสไตล์ของหุ้นปั่นอยู่ดี  
 

ดังนั้น ถ้าใครชอบหุ้นแบบนี้จำเป็นต้องเข้าไว...ออกไว หรือ ถ้าตีหัวเข้าบ้านได้ก็ทำไปเลยนะคะ จะได้หรือไม่ได้ก็ว่ากันไปตามเกม ...ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและการเลือกส่วนตัวเจ้าค่ะ 
 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,795 วันที่ 26 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565