เปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ทำประชามติเลยพี่น้อง!

18 ธ.ค. 2564 | 00:30 น.

คอลัมน์ทางออกนอกตำรา โดย...บากบั่น บุญเลิศ

กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ของประเทศไทย เมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติด้วยคะแนนเสียง 310 ต่อ 9 ให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ Entertainment Complex เพื่อหาแหล่งรายได้เข้าประเทศ
 

เชื่อหรือไม่ว่า บรรดาสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ์ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้เสนอญัตติให้ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บ่อนพนัน และการจัดระเบียบการพนันถึง 12 ญัตติ เรียกได้ว่า ทุกคนมีส่วนร่วมกันอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

อยากรู้ใช่มั้ยว่า ส.ส. ที่เป็นผู้เสนอ 12 ญัตติ มีใครบ้าง ผมไปหามาแล้วพบว่ามีถึง 14 คน
 

ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 3 คน  นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ที่เพิ่งย้ายเข้าพรรคได้ไม่นานนัก

พรรคภูมิใจไทย 2 คน  นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา 
 

พรรคเพื่อไทย 2 คน  นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ 
 

พรรคพลังท้องถิ่นไทย 2 คน นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
 

ที่เหลือมาจาก 5 พรรคการเมืองอยากรู้ใช่มั่ยว่าเป็นใครบ้าง
 

นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล 
 

นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ 
 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย 


นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม 
 

นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย


 

ในญัตติ และคำชี้แจงของสมาชิกสภาพผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติที่เสนอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการตั้งกาสิโนและเอ็นเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ส่วนใหญ่จะระบุว่า
 

เพราะรายได้หลักของประเทศไทยในแต่ละปีมีจำกัด มาจากการเก็บภาษีซื้อ ภาษีนิติบุคคลและเงินได้ของประชาชนปีละ 2.7 ล้านล้านบาท แต่พอเกิดโรคโควิด-19 รายได้จากภาษีของประเทศไทยลดลงอย่างมาก  
 

ดังนั้น หากมีการลงทุนหรือมีการเปิดโครงการ Entertainment Complex  จะทำให้ประเทสไทยเกิดรายได้ใหม่จากกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ  สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศมากถึงปีละ 4 ล้านล้านบาท
 

เม็ดเงินรายได้จากเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือจาก “ภาษีบาป” สามารถนำมาแก้ปัญหาโครงสร้างประเทศที่บิดเบี้ยวได้เช่น ดูแลลดภาษีน้ำมัน ดูแลการศึกษาเยาวชน  แก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน แก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำให้กับเกษตรกรได้
 

ในที่สุดจึงมีการลงมติตั้ง กมธ. มากโขถึง 60 คน เป็นสัดส่วนคณะรัฐมนตรี 15 คน มาจากพรรคการเมืองอีก 45 คน กำหนดเวลาในการแปรญัตติ 3 เดือน หรือ 90 วัน


 

ผมอยากให้คนไทยทุกคนได้ชื่นชมกับการทำงานอย่างทุ่มเทของ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ” ที่ประชาชนทุกคนอุตส่าห์เดินทางออกไปจากบ้านเพื่อลงคะแนนเลือกคนที่ใช่เลือกพรรคที่ชอบว่า “ผู้ทรงเกียรติ” ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ไม่มีใครงอมืองอเท้าเลยสักคนหนึ่ง
 

กมธ. วิสามัญศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บ่อนพนัน และการจัดระเบียบการพนัน ชุดนี้ล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้ทรงความรู้ วัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์โดยตรงในเรื่องการพนันที่หาตัวจับยากที่สุดของประเทศไทย  
 

ไล่เลียงชื่อไปแต่ละคนต้องบอกว่าสุดยอดที่สุดในประเทศ นายชัชวาลล์ คงอุดม “ชัช เตาปูน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท พี่เต้-นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ฯลฯ ปรบมือให้ส.ส.เหล่านี้กันสิครับพี่น้องไทย...รออะไรกันอยู่ละครับ..
 

พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เจ้าของญัตติขอให้ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันลงมติเห็นชอบกับการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถึงขนาดที่ระบุว่า....
 

นี่คือ  “วาระแห่งชาติ” 
 

นี่คือผลประโยชน์ของชาติ...
 

คุณพิเชษฐ์ ว่าแบบนี้ครับ วันนี้ประเทศไทยเรามีหวยออนไลน์ บ่อนออนไลน์ มวยตู้ บ่อนทั่วไป  ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ ขณะที่ประเทศรอบบ้านของไทยมีการหาประโยชน์จากคนไทย จนร่ำรวยมหาศาล
 

“ผมอยากให้คนไทยเห็นการพนันเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกคนก็เล่นหวย ซื้อหวย ชนไก่ ชนวัว คือการพนันอยู่กับชีวิตมนุษย์ทุกคน มาถึง พ.ศ. นี้อยากจะให้ประเทศไทยได้ยอมรับความจริงว่าเราจำเป็นต้องหาเงินเข้าประเทศด้วยเมกะโปรเจกต์ ไม่ใช่ว่าจะเปิดบ่อน แต่เราจะเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” 


 

คุณพิเชษฐ์ว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์  จะเป็นสถานที่ที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง มีความสุขของคน มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และเชื่อว่าจะเพิ่มทั้งมูลค่าการท่องเที่ยว และทำให้ได้นักท่องเที่ยวระดับวีไอพีมากขึ้น
 

“วันนี้ไม่มีฝ่ายค้านกับรัฐบาล เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายเพื่อให้การเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เป็นเมกะโปรเจกต์เกิดขึ้น และทำรายได้ให้กับประเทศ” ท่านส.ส.พิเชษฐ์ แสดงความเห็นไว้อย่างน่าชื่นชมโสมนัสใจอย่างยิ่ง
 

เช่นเดียวกับ พี่เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ผู้เสนอญัตติขอให้ศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายนั้นอภิปรายว่า...
 

ความจริงไม่ได้อยากให้ประเทศไทยมีการพนัน แต่มันจำเป็นจริง ๆ เพราะแม้เราไม่มีกฎหมายให้เปิดกาสิโนอย่างถูกกฏหมาย แต่ประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เมียนมา กัมพูชา มีราว 40 แห่ง ในไทยน่าจะไม่น้อยกว่า 200 แห่ง ต่อให้เราไม่ออกกฎหมาย เขาก็ทำอยู่ แต่เงินดังกล่าวจะเป็นเงินใต้ดิน เป็นเงินนอกระบบ เงินดังกล่าวเอาไปใช้ผิดกฎหมาย ใช้วิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เอาไปเป็นทุนสนับสนุนนักการเมือง” 
 

แต่ในสภาพเศรษฐกิจที่เป้นอยู่ในปัจจุบันนั้นเราจำเป็นต้องตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย เชื่อว่าจะทำให้รายได้นอกระบบปีละ 80,000-120,000 ล้านบาท กลับมาอยู่ในระบบ การตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่จะนำเม็ดเงินมาสู่ประเทศได้มหาศาลแน่...
 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการขับเคลื่อนในรัฐสภาเพื่อนำไปสู่การหารายได้ของประเทศผ่านธุรกิจการพนัน ในสมัย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นายกฯ ทักษิณ นี่แหละเป็นผู้เสนอแนวคิดนี้สู่สาธารณะในช่วงปี 2548 


จากนั้นก็ตั้งปรมาจารย์ด้านกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่ใคร เขาคือ คุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายในตอนนั้น เป็นประธานศึกษาเรื่องการจัดตั้งกาสิโนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ในประเทศไทย 
 

ตอนนั้นมีการเล็งกันไปที่ ระยอง เกาะช้าง เกาะกูด จ.ตราด จนราคาที่ดินพุ่งพรวดพราด ท่ามกลางผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านอย่างหนักหน่วง 
 

สุดท้ายโครงการนี้ก็ไม่เกิดขึ้นแต่ นายทักษิณ ประสบปัญหาทางการเมืองกลายเป็น “บักหำน้อยตุรัดตุเร่ อยู่ที่เมืองนอก”
 

ผมจำได้แม้ในตอนนั้นมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หาญกล้าออกมาประกาศหนุนนโยบายเปิดบ่อนการพนันอย่างถูกกฎหมาย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พับไป
 

ผมว่าอย่าทำใฝห้รัฐสภาเป็นเพียงจุดเดียวที่เอาประเทสมาเดิมพันกัน แต่เพื่ออนาคตของประเทศไทย เพราะถือ เรื่องใหญ่ที่กระทบต่อวิถีปฏิบัติ จารีตประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของผู้คนในประเทศ
 

ถ้ารัฐบาล-รัฐสภา และสมาชิกรัฐมภาผู้ทรงเกียรติ์จะกรุณาโปรดนำมาตรา 166 ของรัฐธรรมนูญฯ และมาตรา 9 วรรคสอง (4) ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาใช้จะดีมั้ย
 

โยนเรื่องการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสินใจว่า จะให้มีการเกิด เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ดีหรือไม่ครับ...ทำเลย อย่าผูกขาดความคิดอยู่แค่คนไม่กี่หยิบมือเลยครับท่านผู้ทรงเกียรติ


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3741 ระหว่างวันที่ 19-22 ธ.ค.2564