น้ำมันแพง-ค่าไฟขึ้น ซ้ำเติมประชาชน รัฐอย่าเมินเฉย

24 พ.ย. 2564 | 08:09 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

***หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3734 ระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย.2564 ...กาแฟขม


***สถานการณ์โควิดในประเทศล่าสุดวันที่ 22 พ.ย.2564 ยอดผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 6,428 คน เสียชีวิต 49 คน หายป่วย 7,882 คน ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นมาทั้งสิ้น 2,042,146 ราย แต่สถานการณ์โดยทั่วไป ยุโรปกลับมาระบาดหนักอีกระลอก โดยเฉพาะในเยอรมนียอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นสูง 50,000 ต่อวัน ในบางแคว้น ซึ่งอาจจะมีการประกาศ “ล็อกดาวน์รอบใหม่” หลังจากก่อนหน้านี้มีการล็อกดาวน์ในออสเตรีย ไอร์แลนด์ สโลวาเกียไปแล้ว แน่นอนว่าหากยุโรปประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ในหลายพื้นที่ ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมอีกครั้ง แต่ทั้งหมดทั้งมวลยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดลดลง อันเนื่องมาจากการได้รับวัคซีนมากขึ้น และล่าสุดในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ก็มีการคิดค้นยากันขึ้นมาแล้ว

*** โควิดยังพ่นพิษไปสู่เศรษฐกิจ การทำมาหากินปากท้อง แม้การผ่อนคลายมาตรการ แต่ทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนเดิม นักวิชาการหลายคนฟันธงตรงกันสิ้นปี 2566 เศรษฐกิจไทยจึงกลับไปยืนที่เดิมได้ ระหว่างทางเกิดการอาการตะกุกตะกักที่ต้องแก้กันไปโดยตลอด และต้องหาทางมองไปที่ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ทางเทคโนโลยีที่จะรุกคืบทุกด้าน ปรับตัวไม่ทันก็แย่ บางคนล้มหายตายจาก ฉะนั้นต้องกระตือรือร้นรับการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา ถ้าคิดจะอยู่ให้ได้บนโลกใบนี้


*** เศรษฐกิจพังพาบซบเซาเกือบทุกด้านรอการฟื้น แต่ที่ยังไปได้ดี อยู่ที่เครื่องยนต์ส่งออก ได้อานิสงส์แรงซื้อหลังโควิดชะลอ ค่าเงินอ่อน ตัวเลข 11 เดือนของปีนี้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ออกมาบอกเลย ส่งออกมูลค่า 222,736 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.7% นำเข้ามูลค่า 221,089 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว31.3 % ดุลการค้า 10 เดือนแรก ยังเกินดุล 1,646 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะเดือนต.ค.ส่งออก 22,738 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.4 % ก็หวังว่า 2 เดือนสุดท้ายจะรักษาอัตราการขยายตัวให้ได้ระดับนี้อันจะมีผลให้ทั้งปี 2564 การส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 15-16 % จากเป้าหมายที่ตั้งไว้แค่ 4 %

*** หนักหนาไม่ใช่น้อยกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง การพุ่งขึ้นสูงของราคาน้ำมันแน่นอนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ทุกคนต้องใช้พลังงานนี้ไม่ว่าจะเป็นทางใดทางหนึ่ง กระเป๋าที่ฉีกอยู่แล้ว กลายเป็นฉีกแล้วฉีกอีก เมื่อน้ำมันแพง มาถูกซ้ำเข้าด้วยค่าไฟฟ้าที่จะปรับขึ้นอีกในรอบเดือนม.ค.หน้า ก็ไปกันใหญ่ การบริหารปากท้อง ค่าครองชีพ ของรัฐบาลต้องละเมียดให้มากกว่านี้ ใช่สักแต่ปล่อยไปตามกลไก ต้องทำให้เกิดการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุขให้ได้ในทางนโยบาย และต้องเอียงไปทางช่วยคนรายได้น้อยให้มากหน่อย


***ปิดหีบไม่ลง รายได้งบประมาณเป็นอย่างไรพอจะแลเห็น วันก่อนปะหน้าพ่อค้าแม่ค้าร้านอาหาร ร้านข้าวต้มเล็กๆ ย่านบางนา บ่นออกมา เจอสรรพากรมาวนเวียนซ้ำซาก นับชามข้าวต้มกันแล้ว เขาก็บอกว่าเขาปิดโควิดไม่ได้ขายกันไปนานสองนาน พอเขากลับมาเปิดใหม่ ยังไม่ทันเข้าที่เข้าทาง ก็มาวกเวียนถามไถ่กันแล้ว กำไรจะส่งค่าเทอมลูกยังหาไม่ได้ แต่ไม่ได้คิดเลี่ยงภาษีหรอกนะ ต้องฝาก เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีสรรพากร ขอให้เอากันไปตามข้อเท็จจริง เจอสรรพากรยังไม่พอ ยังเจอสำนักงานเขตเข้าไปอีก จะอะไรกันนักกันหนาประเทศนี้


*** นาทีนี้จะไม่พูดเรื่องการควบรวมกิจการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเบอร์ 2 เบอร์ 3 ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมประเทศไทยคงไม่ได้ แจงมาแล้ว ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) การผนึกกำลังกับทางเทเลนอร์ เป็นวิถีใหม่ที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก ไปสู่การแข่งขันระดับประเทศ ภูมิภาค และ มหาอำนาจของโลก ไม่เฉพาะกับพาร์ทเนอร์ของบริษัทเท่านั้น ต่อไปผนึกกำลังเป็นลักษณะ PPP การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership หรือ PPP) ขับเคลื่อนประเทศไทย เป็นส่วนสำคัญเปลี่ยนแปลงทรานฟอร์เมชั่น


*** กลุ่มทรูและดีแทค ด้วย 2 บริษัทฯ มีข้อจำกัดธุรกิจไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มต่อได้ จึงเห็นบทบาทใหม่ เป็นส่วนหนึ่งระบบนิเวศน์สร้างเทคโนโลยีในประเทศไทยให้เกิดขึ้นหลายด้าน เทกสตาร์ทอัพ สร้างการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปเศรษฐกิจอุตสาหกรรม โรงเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้านดาต้าและอื่นๆ สร้างนวตกรรมใหม่ๆ ทั้ง ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์ การดึงเอาผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วม จะเรียก 4.0 หรือ 5.0 ก็ได้ บริษัทฯ ใหม่เน้นเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์ ดิจิทัลมีเดียแพลตฟอร์ม และ คลาวด์เทคโนโลยี ศึกษาด้านเทคโนโลยีอวกาศ (Space Technology) เวนเจอร์แคปปิตอล ..ก็ต้องติดตามดูการรวมกันของเบอร์ 2-3 จะสะเทือนไปถึงเบอร์ 1 อย่าง AIS อย่างไร ตรงไหนบ้าง 


*** มาทางภาคธุรกิจอสังหาฯ กันบ้าง กำลังเป็นที่จับตา บริษัทรับสร้างบ้านน้องใหม่ อย่าง บริษัท เอส ซี แกรนด์ จำกัด บริษัทในเครือ “SEACON” ของตระกูล “ซอโสตถิกุล” มีข่าวดีต่อเนื่องทั้งยอดขายทะลุเป้า ล่าสุด ธีรพงศ์ นคราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ประกาศแผนธุรกิจต่อเนื่องแบบรัวๆ ว่าก้าวต่อไปให้ความสำคัญต่องานการตลาด จะเน้นสร้างความน่าเชื่อถือและตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างบ้าน ผ่านช่องทาง Social Media ปีหน้าจะเน้นกิจกรรมการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นอีก พร้อมดันโครงการพัฒนาบ้าน SC GRAND ร่วมกับบริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันสานฝันให้แก่ผู้ที่ต้องการสร้างบ้านในแบบของตัวเอง แต่ยังไม่สามารถหาที่ดินที่สะดวกต่อการเดินทาง เที่ยวนี้จะส่งมอบบ้านของ SC GRAND ให้กับลูกค้าพร้อมกับที่ดินติดถนนสุขาภิบาล 5 หน้าโครงการเนเบอร์โฮม วัชรพล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ดินในย่านที่เรียกว่าเป็นทำเลทอง บ้าน SC GRAND@วัชรพล มีจำกัดเพียง 8 หลังเท่านั้น ถ้าขายหมดแล้วคือหมดเลย ต้องติดตามโครงการกันแบบไม่กระพริบตาแล้ว


*** สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับ โออาร์ คว้ารางวัลไทยแลนด์ ท๊อป คอมปานี 2021 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี มอบรางวัล THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2021 ประเภทอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่ง ให้กับ นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) รางวัลดังกล่าว จัดขึ้นโดยนิตยสาร Business ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “สู่ชัยชนะบนสภาวะแห่งความไม่แน่นอน” โดยคัดเลือกจากองค์กรที่มีผลการดำเนินงาน การประกอบธุรกิจที่มีความโดดเด่น มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ รับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ในสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ