การตัดสินใจทำบ้านพักคนวัยเกษียณ

30 ต.ค. 2564 | 00:00 น.

คอลัมน์ชีวิตบั้นปลายของชายชรา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

จากการไปดูงานมาทั้งประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน สิงคโปร์และจีนกลับมา ทำให้ผมได้รับความรู้ด้านนี้กลับมาเยอะมาก อีกทั้งผู้ปกครองของลูกชายผมในช่วงระยะเวลาที่เขาเรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น คือคุณอีบิ ซัง ก็ทำธุรกิจนี้อยู่ ทำให้ผมได้รับความรู้ใหม่ๆเยอะมาก 


เมื่อประมาณปี 2556-2557 ศ.พญ.จิราพร เหล่าธรรมทัศน์ ได้มาเยี่ยมผมที่บ้าน ท่านได้เอ่ยปากถามผมว่า หลังจากที่ท่านจะเกษียณอายุราชการ ท่านอยากจะหาอะไรทำที่ท่านถนัดและชอบ ผมจึงได้เล่าให้ท่านฟังเรื่องบ้านพักคนวัยเกษียณตามที่ผมได้ไปเห็นมา ท่านจึงสนใจมากที่อยากจะทำเรื่องนี้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการฟอร์มทีมงานผู้ถือหุ้นในการดำเนินธุรกิจนี้กัน
             

เริ่มต้นช่วงแรก เราได้ตระเวนหาสถานที่ที่จะก่อตั้งบ้านพักคนวัยเกษีนณ ที่มีลักษณะคล้ายกับของประเทศญี่ปุ่นกัน เราได้ไปดูที่เขาใหญ่ แต่ก็มีท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท้วงติงมาถึงความไม่เหมาะสม เราจึงเปลี่ยนไปดูที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปางกัน เพราะที่นั่นมีบ่อน้ำพุร้อน เหมาะสำหรับคนวัยเกษียณมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่น แต่ก็ระยะทางไกลมาก อีกทั้งที่ดินอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติ เราจึงเกรงว่าจะไปทับที่ดินอุทยานแห่งชาติ จึงได้ยกเลิกไป 

ต่อมาก็ไปดูที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ด้วยความที่ที่ดินบนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ เราก็ต้องยกเลิกกันไป ต่อมาเราก็ไปดูที่ดินที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ก็มีบางท่านที่ไม่เห็นชอบด้วย จึงต้องล้มเลิกกันไปอีกครั้ง
          

จนกระทั้งมีคุณหมอที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งในกลุ่มเรา ท่านมีที่ดินที่ถนนบางนา-ตราด เราจึงได้ตัดสินใจที่จะทำการก่อสร้างกันที่นั่น พอเริ่มเขียนแบบ และจัดการปรับที่ดินเตรียมที่จะลงมือก่อสร้าง แต่ก็เจอปัญหาอีกเล็กน้อย ทำให้ต้องยกเลิกกันไปอีกครั้ง 


ผมจึงตัดสินใจนำเอาที่ดินของผมที่อยู่กลางทุ่งนา ในเขตหนองจอกออกมาใช้ในการดำเนินการก่อสร้างกัน ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายเลยในการก่อร่างสร้างตัวของบ้านพักคนวัยเกษียณในครั้งนั้นครับ

ในการดำเนินการนั้น มีอุปสรรคผ่านเข้ามามากมายเหลือเกิน ทั้งการขอใบอนุญาตจัดตั้งบ้านพักคนวัยเกษียณ ซึ่งในช่วงที่ผมดำเนินการนั้น ประเทศไทยเรายังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับบ้านพักคนชราเลยครับ ผมได้ให้เจ้าหน้าที่ของผมไปที่กระทรวงสาธารณสุข ไปยื่นขออนุญาตก่อตั้ง 


ทางกระทรวงเองก็งงมาก ว่าจะจัดตั้งในสถานะอะไรดี? ผมจำได้ว่าเขาให้เราจัดตั้งเป็นสถานพยาบาล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดตั้งในกฎหมายไหน? เพราะในพ.ร.บ.สถานพยาบาล ไม่มีมาตราไหนที่จะเข้ากับบ้านพักคนวัยชราหรือบ้านพักคนวัยเกษียณเลย เขาจึงบอกให้เจ้าหน้าที่เอาไปใส่ในอนุฯมาตราที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาลผดุงครรภ์ก็น่าจะใกล้เคียงมากที่สุด 


แต่พอพนักงานผมกลับมารายงาน ผมก็ต้องรีบนัดเข้าไปขอพบเจ้าหน้าที่ใหม่ โดยผมบอกว่าไม่น่าจะเหมาะสมนะครับ เพราะหากวันดีคืนดี มีสตรีมีครรภ์เดินผ่านมา แล้วเกิดปวดท้องจะคลอดลูกขึ้นมา แล้วเขาเข้ามาหาเรา แต่เราไม่สามารถทำคลอดให้เขาได้ คงจะสับสนอลมานน่าดู จึงไม่สามารถทำได้

 
สุดท้ายเราก็บอกพนักงานว่า ให้เดินหน้าก่อสร้างไปก่อนเลย โดยการไปขออนุญาตก่อสร้างที่เขตหนองจอกก่อน ส่วนใบอนุญาตจัดตั้งบ้านพักคนวัยเกษียณค่อยขอทีหลังก็ได้ ช่วงแรกในการก่อสร้าง เราก็ได้ผู้รับเหมามาหนึ่งชุด แต่ก็มีปัญหาอีก เพราะผู้รับเหมาก่อสร้างเบิกเงินไปแล้ว ไม่ใช้จ่ายในการก่อสร้าง แต่กลับนำเงินไปใช้ผิดประเภท ทำให้สุดท้ายก็ต้องทิ้งงานไป พอชุดที่สองเขามา ก็มีปัญหาเช่นกัน เพียงแต่ชุดที่สองไม่ได้ทิ้งงาน แต่ก็ต้องช่วยกันประคับประคองไปจนจบงาน


ต่อมาพอเราเริ่มก่อสร้างจนเป็นเนื้อเป็นหนังแล้ว กฎหมายจึงผ่านสภาฯคลอดออกมา เราจึงได้ไปขออนุญาตจนแล้วเสร็จ ในขณะนั้นจึงเริ่มต้นทำการตกแต่งภายในกัน แต่เราเริ่มไม่มีเงินว่าจ้างบริษัทตกแต่งภายในแล้ว ผมจึงได้ขอให้ผู้จัดการโรงแรมของผม คือคุณชัชวาล ที่ท่านมีความสามารถพิเศษในการตกแต่งภายใน เข้ามาช่วยจัดการจนแล้วเสร็จด้วยความสวยงามเป็นสง่าครับ 
         

อย่างไรก็ตาม พอสถานที่พักแล้วเสร็จ กำลังจะเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ออกไป ก็เกิดเจ้าโรคร้ายมฤตยู COVID-19 ขึ้นมาในประเทศไทย เราจึงไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เรียกว่าทุกย่างก้าวของบ้านพักคนวัยเกษียณ ล้วนแต่ต้องใช้ความวิริยะ อุสาหะอย่างแรงกล้าจริงๆ 


จนกระทั้งช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็มีปัญหาญาติผู้ใหญ่ของว่าที่ลูกสะใภ้ผม ติดเชื้อโควิดเข้า แต่ไม่สามารถหาสถานที่รองรับการรักษาได้ ผมจึงตัดสินใจนำเอาบ้านพักคนวัยเกษียณดังกล่าว มาขออนุญาตทำเป็น Hospitel ตามที่ผมได้เล่าไปเมื่อตอนที่ผ่านมา 


กระทั้งเราได้รับใบอนุญาต Hospitel มาในวันที่ 25 กันยายน และในวันที่ 1 ตุลาคม จึงสามารถเปิดทำการได้ จากเดิมจะทำเป็นบ้านพักคนวัยเกษียณ จึงต้องแปลเปลี่ยนมาเป็นบ้านพักผู้ติดเชื้อไป ก็หวังแต่เพียงว่า อานิสงส์จากจิตอันเป็นกุศลนี้ จะทำให้บ้านพักคนวัยเกษียณที่สมบูรณ์แบบ ได้เข้ามาสู่วงจรธุรกิจของประเทศเรา จะได้มีสถานที่ที่เหมาะสมกับสถานะของคนวัยเกษียณเช่นเราๆ ท่านๆ อีกแห่งหนึ่งได้แจ้งเกิดเสียทีครับ