7UP... “เสี่ยกล้าได้ คนอายอด”

27 ส.ค. 2564 | 01:30 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ

*** กระแส “ผกก.โจ้ เฟอร์รารี่” หรือ “ผกก.โจ้” ถุงคลุมหัว ความรวย ความโหด ความอ่อนน้อม เป็นประเด็นร้อนกลบโควิด เจ๊เมาธ์ซะเกลี้ยง....กลับเข้าเรื่องตลาดหุ้นไทยดีกว่า... SET ขึ้นมาแตะ 1,600 จุด ได้อีกครั้ง หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดลดรายวัน ...ความหวังเรื่องเมืองมัน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเปิดเมือง อย่างตระกูล ป. PTT PTTEP PTTGC OR TOP IRPC หรือหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่อย่าง KBANK SCB BBL หุ้นสายการบินอย่าง AOT AAV BA กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม CENTEL ERW MINT กลุ่มขนส่งทางราง BEM BTS กลุ่มค้าปลีกและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ CPN BJC CPALL CRC ต่างก็พากันขยับตัวอย่างคึกคัก 
 

*** หลุดแคชฯ ออกมา 7UP ก็ยังโชว์ฟอร์มซ่าได้เหมือนเดิม และไม่เพียงราคาหุ้นที่ถูกดันขึ้นมาเท่านั้น แต่ปริมาณการซื้อขายที่มีก็ถือว่าหนาแน่น การมารอบนี้ 7UP กลับมาพร้อมกับผลงานที่ถือว่าดีพอสมควร โดยไตรมาสที่ 2/64 มีกำไร 49.13 ล้านบาท โตขึ้น 99.07% และกำไรงวด 6 เดือนแรก 152.73 ล้านบาท โตขึ้น 160.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 
 

เมื่อได้ชื่อว่าเป็น “หุ้นซิ่ง” ยังไงซะ 7UP ยังเป็นหุ้นซิ่งอยู่วันยังค่ำ โดยก่อนที่จะใช้ชื่อว่า บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) ในทุกวันนี้ บริษัทนี้เคยมีชื่อเดิมว่า เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น(MLINK) และ เฟอร์รั่ม (FER) หากเป็นนักลงทุนเก๋าเกมหน่อยก็จะรู้ว่าทั้ง MLINK และ FER ต่างก็เป็นชื่อที่ผู้นิยมหุ้นซิ่งๆ จนเสียหายยับ  จึงอย่าแปลกใจ วันนี้ 7UP อาจจะเดินตามรอยเดิมที่เคยสร้างชื่อเอาไว้ ส่วนจะมากหรือน้อย... เตือนไว้นะจ๊ะว่า “กล้าได้ อายอด”... และหากราคาเกิน 1.70 บาท หุ้นจะ PE เกิน 40 เท่าและติด cash balance อีก เพราะนี้คือแผนที่ เสี่ย ก. เจ้ามือตัวเอ้ ว่าไว้อยู่แล้ว

 *** ดูเหมือนว่า BEAUTY ของ “หมอสุวิน  ไกรภูเบศ” จะเริ่มมีการขยับตัวขึ้นมาในทิศทางที่ดีขึ้น โดยล่าสุดผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/64 พบว่าการขาดทุน 35 ล้านบาท เป็นการนขาดทุนน้อยลงถึง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนของปีนี้ก็ขาดทุนน้อยลงถึง 50% เลยทีเดียว ซึ่งหากมองในแง่หนึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า BEAUTY ได้ผ่านจุดต่ำที่สุดมาแล้ว 
 

แต่หากมองในอีกมุม  พบว่า การพึ่งพาตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีนเป็นตลาดหลัก ซึ่งปัจจุบันลูกค้าชาวจีน ได้เปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์ ที่เป็นสินค้าจีนมากขึ้น ไม่นับตลาดในประเทศที่ประสบปัญหาล็อกดาวน์ซึ่งทำให้ยอดขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศของ BEAUTY ประสบปัญหาไม่เป็นไปตามเป้า (หรือเลิกซื้อของบริษัทตนเอง?)
 

ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่าจุดต่ำสุด ก็ไม่ต่ำที่สุดแล้วจริงๆ และมีโอกาสที่ BEAUTY ต้องแบกรับผลการขาดทุนแบบนี้ไปอีกจนถึงไตรมาสที่ 4 ด้วยซ้ำไป…. ใครจะทุ่มให้น้องสวย BEAUTY อาจจะต้องพิจารณาข้อมูลให้ดี ๆ โอกาสเจ็บตัวมีน้อย...แต่โอกาสดอยมีมากเจ้าค่ะ
 

เจ๊เมาธ์ เห็นพีอาร์ของบจ. แห่งหนึ่ง ส่งรูปถ่าย ที่มี หนุ่มรูปสวย ถ่ายรูปร่วมมือธุรกิจ กับ บจ.หนึ่ง ในตลาดหุ้น ก่อนที่บริษัทขนส่งนั้น จะแจ้งตลาดหุ้นตอนเช้า….ข้อความที่แจ้ง ดูกำกวม ชอบกล เป็นการแจ้งความร่วมมือฝ่ายเดียว ไม่มีรายละเอียดความร่วมมือจากอีกฝ่าย  
 

ตกบ่าย บริษัท ไดเมท (DIMET) ชี้แจงว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับบริษัทแห่งหนึ่ง (ก็ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ มันดูทะแม่งๆ ชอบกลอีกเหมือนกัน) โดยบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษา แนวทางความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจเท่านั้น มิได้มีผลผูกพันกับบริษัทแต่อย่างใด และบริษัทยังไม่มี การทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทดังกล่าว

ขอเรียนยืนยันว่า บริษัทได้พิจารณาแนวทางการประกอบธุรกิจอย่างรอบคอบและจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น หากมีความคืบหน้า เป็นประการใดอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจะแจ้งข้อมูลให้ทราบต่อไป 
 

แจ้งข่าวชอบกล  เอ๊ะ !!! ยังไง ฝากผู้เกี่ยวข้องติดตามหน่อยก็ดี นะเจ้าค่ะ เรื่อง ดีลๆดันๆกันนี่แหล่ะค่า ว่าด้วยเรื่องของ UPA จะดีลซื้อ GTG บริษัททำกัญชง กัญชาธุรกิจอนาคตนี่แหล่ะ เดิมทีเดียว UPA เป็นหนึ่งใน investor ที่ขอเข้าลงทุน ซื้อหุ้นประมาณ 2% กำเงินไป 50 ล้าน ต่อมาบอกสนใจนลงทุน 100% ในธุรกิจของ GTG เพราะเห็นศักยภาพ เชื่อว่าจะเสริมให้ UPA มีธุรกิจดาวรุ่งเข้ามาในพอร์ต 
 

เมื่อปรากฎข่าวซื้อๆขายๆราคาหุ้นก็วิ่งจาก 30 กว่าตังค์ไป 50 ตังค์ มีรายงานจะเข้าทำดีลให้กับตลาดฯ เสนอบอร์ดอนุมัติ และรายงานต่อผู้ถือหุ้น เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นเต็มเหนี่ยว แต่กาลกลับกลายเป็นว่าไปต่อรองเงื่อนไขหลายอย่างนอกรอบ แบบกดๆบีบๆ ไม่เป็นไปตามที่แจ้งตลาดฯ ดีลไม่ดันๆๆ ว่าแล้วก็เทเสีย งานนี้ใครได้ ใครเสีย ก็หุ้นมันซิ่งไปแล้ว เอ๊ะ ยังไงๆ  แหม่เจ๊ไม่อยากเมาธ์จริงๆเรื่องนี้สตอรี่ยาว ว่าแต่ตอนนี้ราคาก็ร่วงลงมาแล้ว
 

***  เจ๊เมาธ์ยังเชื่อว่า SUPER จะเป็นหุ้นเต็มบาทได้ ในเวลาอีกไม่นาน และถ้าหาก SUPER ก้าวข้ามราคา 1 บาท ได้ในรอบนี้..โอกาสที่ราคาจะถอยหลังลงไปที่เดิมก็มีน้อยลง ส่วนแรกก็เป็นเรื่องของผลการดำเนินงานที่จะโตขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามขนาด 421 MW ซึ่งเฟสแรก 30 MW ที่จะเข้ามาในช่วงไปลายปีนี้  และที่บิ๊กล็อต 1,020 ล้านหุ้น จนสภาพคล่องล้นทะลัก เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์แนะนำให้จับตา...SUPER มีโอกาสไปต่อได้แน่นอนเจ้าค่ะ
 

*** หุ้น ACAP ของ “สาวเค้ก” ราคาวิ่งขึ้นไปแล้วถอยลง ....ข่าวลือหนาหูการขายกิจการของ “สาวเค้ก” จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ “ตัวคน” เป็นหลัก ...ดีลจบ หุ้นวิ่ง ...ดีลริ่ง หุ้นจบที่ต่ำบาท เหมือนเดิม เพราะ ACAP ปัญหายุ่งขิง อิรุงตุงนัง ขอฟื้นฟูกิจการ ไม่รู้ศาลจะอนุมัติหรือไม่ กำลังจะไต่สวนต้น ก.ย.นี้ และทุนใหม่ เป็นใคร เชื่อมั่นได้หรือไม่ ในการฟื้นฟูกิจการ รวมไปถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ แค่ไหน ทำกำไรได้อย่างไร เป็นความเสี่ยงที่ต้องเกาะติด ....เก็งกำไรต้องระวังตัวนะจ๊ะ เจ๊เมาธ์ เป็นห่วง