Neta GT สปอร์ตคูเป้มาโชว์แต่ยังไม่ขาย รอประกอบ Neta AYA ต้นปี 2024
เนต้า สั่งสปอร์ตคูเป้พลังงานไฟฟ้า NETA GT มาอวดโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 แต่ยังไม่ขาย ส่วนแผนปี 2567 เปิดตัว EV สองโมเดลแน่นอน คือ AYA (Neta V ไมเนอร์เชนจ์) ในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่สามกับคอมแพกต์เอสยูวี NETA X โดยทั้งคู่เป็นรถที่ขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ
บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ค่าย EV อันดับสองของไทยด้วยการวัดจากยอดจดทะเบียน 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค. 66) 10,245 คัน ปัจจุบันนำเข้ารถจากจีนมาทำตลาดเพียงรุ่นเดียวคือ NETA V ที่เพิ่งลดราคาล้างสต๊อกเหลือ 499,000 บาท ภายใต้โครงการ EV 3.0 ส่วนแผนขึ้นไลน์ประกอบ EV ในไทย จะเริ่มในเดือนมีนาคม 2567 โดยบริษัทแม่คือ โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล ได้ว่าจ้าง บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด ของ ตระกูลจึงสงวนพรสุข ประเดิมกับ NETA AYA รุ่นประกอบในประเทศ
NETA AYA คือการไมเนอร์เชนจ์ของ NETA V เป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ที่ออกแบบภายนอกให้ดูทันสมัยมากขึ้น ตั้งแต่ชุดไฟหน้า กระจังหน้า ลวดลายไฟท้าย และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ส่วนขุมพลังขับเคลื่อนไม่ได้เปลี่ยนแปลง กับมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 40.7 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 384 กม.(NEDC)
นอกจาก NETA AYA ประกอบในไทยแล้ว ช่วงไตรมาสที่สาม บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ยังจะได้ประกอบ NETA X คอมแพกต์เอสยูวีตัวแทนในการทำตลาดของ NETA U PRO อีกด้วย
ส่วนรถไฮไลต์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 คือการอวดโฉมของ NETA GT สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง โดยรุ่น 580 AWD ใช้มอเตอร์สองตัวขับเคลื่อนล้อหน้า-หลัง ให้กำลัง 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ 3.7 วินาที ชุดแพกแบตเตอรี่ความจุ 78 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 580 กม. (ตามชื่อรุ่น)
โดยช่วงล่างหน้าเป็นปีกนกสองชั้น ด้านหลังแบบมัลติลิ้งค์ ประกบล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ภายในห้องโดยสารใช้เบาะนั่งทรงสปอร์ต หลังคาแก้วพาโนรามา โดดเด่นด้วยหน้าจอกลางขนาด17.6 นิ้ว ควบคุมและสั่งการระบบปฏิบัติการในรถ พร้อมระบบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155
ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย NETA PILOT 2.5 มาพร้อมระบบประมวลผล Journey 3 ใช้กล้องตรวจจับสภาพการจราจรหน้ารถ 1 ตัว พร้อมเรดาร์ 17 ตัว และกล้องรอบคัน รองรับระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ICA (Intelligent Cruise Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ขณะความเร็วสูง HWA (High Speed Lane Change Assist) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) ระบบช่วยเตือนวัตถุด้านหน้า FCTA (Forward Target Crossing Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนการเปิดประตู DOW (Door open warning) ระบบเตือนป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition and Reminder) และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA (Automatic Parking Assist)
สำหรับ Neta GT จะนำมาโชว์เรียกกระแสในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 ส่วนแผนนำเข้ามาขายยังไม่กำหนดระยะเวลา และต้องรอการตัดสินใจว่า บริษัทแม่ที่จีนจะตัดสินใจทำรุ่นพวงมาลัยขวาและส่งออกหรือไม่
นายเป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทหวังยอดขายรวมกว่า 10,000 คัน แต่ต้องยอมรับว่า ด้วยการแข่งขันที่สูง ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจ และการเมือง รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าซื้อรถยากขึ้น
อย่างไรก็ตามในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 บริษัทนำนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 100% NETA หลากหลายรุ่นมาจัดแสดง ทั้ง NETA V รถสไตล์ City Car ซึ่งปัจจุบันได้ส่งมอบให้ลูกค้าในประเทศไทยแล้วกว่า 10,000 คัน และมียอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับสอง ครองส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 20% ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ
NETA Kid ที่ถอดแบบมาจาก NETA S มีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับสำหรับเด็กอายุ 3-8 ขวบ และนํ้าหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม โดยเปิดรับจองในงานและพร้อมส่งมอบ ตลอดจน NETA GT รถพลังงานไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตแบบ 2 ประตู 4 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.7 วินาที ให้ระยะทางการขับขี่สูงสูด 660 กม. ต่อการชาร์จเต็ม (มาตรฐาน CLTC)
นอกจากนี้ ยังมี NETA GT Speedster รถต้นแบบสไตล์ roadster เปิดประทุน 4 ที่นั่ง ที่ผสานนวัตกรรมทางวิศวกรรมศาสตร์เข้ากับศิลป์แห่งการดีไซน์ รวมถึง NETA X เอสยูวีที่มีความทันสมัย ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2023 จัดที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ในรอบประชาชนทั่วไปเริ่ม 1-11 ธันวาคมนี้ (รอบสื่อมวลชน 29 พ.ย. รอบการกุศล 30 พ.ย. 2566)