รมว.คลัง สั่งสรรพสามิตศึกษาตั้งกองทุนส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมรถ EV พร้อมจัดพิกัดภาษีเครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่ ให้ชัดเจนภายในสิ้นปีนี้ ปัดตอบเก็บภาษีเบียร์ 0%-กัญชา หรือไม่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมและมอบนโยบายกรมสรรพสามิต ในวันนี้ว่า มีแนวคิดให้กรมสรรพสามิต จัดตั้งกองทุนส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า (EV) และการบริหารจัดการแบตเตอรี่ เนื่องจากต้องการให้มีการสนับสนุนการพัฒนาการใช้ รถ EV และการดูแลแบตเตอรี่หลังจากหมดอายุ ซึ่งอาจจัดทำเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ขึ้นมา เพื่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติในการสนับสนุนศักยภาพของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าด้วย
“เรื่องกองทุนฯ ยังเป็นแนวคิดที่กรมฯไปศึกษาว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ แต่เชื่อว่า หากทำได้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่จะต้องหารือร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยหากมีการจัดตั้งกองทุน เชื่อว่าจะนำเงินจากกองทุนไปสนับสนุนบุคลากร ผู้ประกอบการ หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมของแบตเตอรี่ได้”นายอุตตม กล่าว
สำหรับการดูแลแบตเตอรี่หลังหมดอายุนั้น ยืนยันว่าเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่ารถไฟฟ้าจะมีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ แต่ด้านแบตเตอรี่ก็จะต้องดูแลหลังการใช้งาน หากหมดอายุแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมฯเร่งดำเนินการทำ อีแสตมป์ สำหรับสินค้าประเภท สุรา ยาสูบ เบียร์ เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบ ด้านภาษีพลังงาน หรือ energy Tax เพื่อติดตามการส่งออกน้ำมันให้เสียภาษีน้ำมันให้ถูกต้อง เพราะจะเป็นการป้องปรามการลักลอบการนำเข้า หรือส่ง ขณะเดียวกัน เรื่องภาษีเพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน และสิ่งแวดล้อม หรือ green Tax โดยเฉพาะการปล่อยของเสียในรถยนต์ หรือ โรงงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้คิดพิกัดภาษีใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับปัจจุบันมากขึ้น โดยเฉพาะการคิดพิกัดภาษีจากเครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่ เช่น น้ำผสมวิตามินแต่ไม่เติมความซ่า หรือ น้ำผลไม้และพืชผักที่เติมคอลลาเจนหรือกลูต้า เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเครื่องดื่มดังกล่าวถูกจัดเก็บอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มทั่วไป โดยเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม คิดอัตราภาษี 14% บวกด้วยภาษีจากความหวาน ขณะที่น้ำผลไม้และพืชผักจัดเก็บภาษีตามความหวานเท่านั้น
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ได้รับนโยบายให้พิจารณาในหลักการของการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า ให้ครอบคลุมถึงสินค้าเทคโนโลยีประเภทอื่น ที่มีการใช้แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบ ซึ่งอาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนในรูปแบบเดียวกัน เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แล็บทอป เป็นต้น ซึ่งจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนการจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มนวัตกรรมใหม่นั้น ยืนยันว่าจะให้มีความชัดเจนภายในสิ้นปีนี้ ส่วนการเก็บภาษีชนิดอื่น เช่น ภาษีความเค็ม เบียร์ 0% และภาษีกัญชา ยังเร็วไปที่จะเปิดเผยในขณะนี้ และยังไม่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่จะนำมาใช้
ขณะที่ข้อเสนอของชาวไร่ผู้ปลูกใบยาสูบ ที่ต้องการให้เลื่อนการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ เป็น 40% นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากมีผลกระทบกับหลายฝ่าย แต่กระทรวงการคลังต้องการให้พิจารณาถึงแนวทางการช่วยเหลือ โดยมีแนวคิดให้สถาบันการศึกษาทำวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์จากใบยาสูบ เพื่อใช้เป็นยาหรือประโยชน์อื่น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ใบยาสูงขึ้น
นอกจากนี้ สรรพสามิต ยังได้เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561-กันยายน 2562) สามารถจัดเก็บรายได้รวม 580,448.33 ล้านบาท โดยทั้งปีตั้งเป้าหมายจัดเก็บได้ 584,402.10 ล้านบาท