'บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์'ดีลเลอร์ดาวรุ่ง เบนซ์-ฮอนด้า

14 ก.ค. 2562 | 03:30 น.

 

คุ้นเคยกันดีจากบทบาทนักร้องสายดิสโก้ แต่อีกมุมหนึ่งของนักร้องดังอย่าง บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ คือทายาทกลุ่มธุรกิจที่คลุกคลีในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายใต้ชื่อโตโยต้ามหานคร อย่างไรก็ตามเมื่อตัดสินใจปรับเปลี่ยนและขายธุรกิจไปตั้งแต่ปี 2556 แต่บุรินทร์ยังไม่ทิ้งธุรกิจรถยนต์ โดยในปี 2557 ได้หันมาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถหรูเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้ชื่อเมโทร ออโตเฮาส์ ตั้งอยู่ย่านพระราม 2

 

ต่อมาได้เพิ่มอีกแบรนด์เมโทร ฮอนด้าออโตโมบิล และ มิตซูเมโทร ซึ่งทั้งฮอนด้า และ มิตซูบิชิ ตั้งอยู่ย่านสายไหม และเมื่อรวมกับอีก 1 แบรนด์โตโยต้าอยุธยา ที่บริหารงานภายใต้พี่ชาย บดินทร์ บุญวิสุทธิ์ ทำให้กลุ่มธุรกิจยานยนต์ของตระกูลบุญวิสุทธิ์ในตอนนี้มีทั้งสิ้น 4 แบรนด์

 

ยอดขายโตทุกแบรนด์

 

ปีที่ผ่านมายอดขายโตทั้งกรุ๊ป เฉลี่ยอยู่ที่ 15-20% โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ โตมากสุด มียอดขายในปี 2561 จำนวน 680 คัน และในปี 2562 ตั้งเป้าเติบโต 5-10% ส่วนฮอนด้ามียอดขายประมาณ 700 คัน ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% ขณะที่มิตซูบิชิ มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 100 คัน เบ็ดเสร็จทั้งปี 1,200 คัน ส่วนปีนี้น่าจะเติบโต 20-30% และโตโยต้า ที่มี 3 สาขา มียอดรวมประมาณ 3,000 คัน

'บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์'ดีลเลอร์ดาวรุ่ง เบนซ์-ฮอนด้า

บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์
 

ลงทุนเพิ่มเติม

 

เราเพิ่งลงทุน 400 ล้านบาทในส่วนของเมอร์เซเดส -เบนซ์ โดยเพิ่มบริการหลังการขาย อู่สี, โชว์รูม รถใช้แล้ว, โชว์รูมเอเอ็มจี บนเนื้อที่ 4 ไร่ใกล้ๆกับโชว์รูมเดิม ซึ่งในส่วนของเอเอ็มจี จะได้รับการแต่งตั้งและประกาศแบบเป็นทางการจากบริษัทแม่ในเดือนสิงหาคมนี้

 

ส่วนอู่สีรองรับรถได้ 200 คันต่อเดือน หรือ 35 ช่องซ่อม และยังมีศูนย์บริการทั่วไปที่จะเปิดเป็น 35 ช่อง (จากปัจจุบันที่มี 15 และจะเพิ่มอีก 20 ช่อง) ซึ่งหากเปิดครบจะทำให้เรามี 70 ช่องซ่อมไว้รองรับความต้องการของลูกค้า ส่วนความพิเศษของอู่สีที่บริษัทเปิดให้บริการคือ ใช้สีนํ้าเต็มระบบ PPG ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่บริษัทแม่ -โรงงานผู้ผลิตใช้ ซึ่งเราถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย

 

ด้านรถใช้แล้วของเบนซ์ เดิมมีการขายบ้าง แต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ ล่าสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ได้รับการอนุมัติ และสามารถขายรถใช้แล้วภายใต้แบรนด์ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles ซึ่งเราถือเป็นเจ้าแรกที่มีการทำโชว์รูมแบบสแตนด์ อะโลนแยกออกมา โดยปีที่แล้วยอดขายรถในกลุ่มนี้ทำได้ 45 คัน แต่ปีนี้เราจะบุกหนัก จากเดิมที่นำรถที่ลูกค้ามาเทรด หรือรถผู้บริหารมาจำหน่าย ก็จะเพิ่มรถจากการประมูล, รถจากบริษัทแม่ และรถเทรด-อินจากลูกค้าที่อาจจะมีมากขึ้น ซึ่งรถทุกคันจะมีมาตรฐานการตรวจสอบตามที่บริษัทแม่กำหนด และเรามั่นใจว่าจากแผนรุกนี้จะทำให้ยอดขายในส่วนของรถใช้แล้วทำได้กว่า 120 คัน

 

 
 

แผนธุรกิจใหม่

 

ในเบื้องต้นคงต้องโฟกัสที่ 4 แบรนด์นี้ก่อน แต่ถ้าถามว่ามีความสนใจหรือมีคนติดต่อมาไหม ก็ต้องบอกว่ามีและเราเองก็เล็งๆไว้หลายแบรนด์ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ

 

เป้าหมายธุรกิจ

 

เดิมทีเราทำโตโยต้าอย่างเดียว แต่ตอนนี้เราเป็นมัลติแบรนด์ ทำให้ฐานลูกค้าของเรากว้างและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายที่เราอยากให้ลูกค้าคือการบริการหลังการขายที่ดีที่สุด นั่นเป็นสาเหตุให้การลงทุนของเราแต่ละครั้งไม่ใช่เฉพาะเปิดแค่โชว์รูม แต่เราเน้นเปิดให้ครบวงจรครอบคลุมทุกด้านเพื่อมอบความสะดวกให้กับลูกค้า รวมไปถึงกิจกรรมทางการตลาดที่โชว์รูมจัดขึ้นเป็นประจำ เช่นเดียวกับการออกงานโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า หรือ ออกงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ซึ่งฟีดแบ็กการออกงานแต่ละครั้งถือว่าดีมาก

 

แฟนเพลงอุดหนุน

 

ยอดขายบางส่วนมาจากแฟนเพลง ซึ่งหากวัดค่าเฉลี่ยพบว่ากลุ่มนี้มีกว่า 20% ที่เข้ามาอุดหนุนเราด้านสัดส่วนลูกค้าในภาพ รวมๆนั้น ของเบนซ์ จะแบ่งเป็นลูกค้าทั่วไป 70% และอีก  30% เป็นการขายฟลีต 

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,487 วันที่ 14 - 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562