อีเอฝ่าแรงต้าน รุกคืบนิคมฯบลูเทค ดึงลงทุน 100,000 ล้าน
โครงการนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ บนเนื้อที่ 3 พันไร่ ในตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ที่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และขั้นตอนการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งนิคมฯในพื้นที่ดังกล่าวนี้ ยังมีเสียงคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ รวมถึงยังไม่มีการประกาศเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินจากพื้นที่สีเขียว มาเป็นพื้นที่สีม่วง เพื่อประกอบกิจการอุตสาหกรรม ของกรมโยธาธิการและผังเมืองออกมาแต่อย่างใด จึงเป็นการสร้างความสงสัยให้กับหลายฝ่ายว่าการจัดตั้งนิคมฯดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้ทางบริษัท ดับเบิ้ลพี แลนด์ ได้ยื่นแสดงเจตนารมณ์ กับทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ไปแล้ว เพื่อขอจัดตั้งเป็นนิคมฯ แต่ได้รับปฏิเสธ เนื่องจากติดปัญหาผังเมืองจากการเป็นพื้นที่สีเขียว ทางดับเบิ้ลพี แลนด์ จึงยื่นเรื่องทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) เพื่อขอใช้เงื่อนไขการตั้งเป็นเขตส่งเสริมพิเศษเพื่อกิจการอุตสาหกรรมแทน ซึ่งทางสกพอ.ออกมายืนยันว่า การประกาศเป็นเขตส่งเสริมพิเศษ ภายใต้อีอีซี เพื่อนำไปสู่การลงทุนในโครงการต่างๆนั้น รายงานอีไอเอจะต้องผ่านการอนุมัติ และต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายต่างๆ ที่นำไปสู่การจัดตั้งเป็นิคมฯ หรือเขตส่งเสริมพิเศษ ถ้าไม่สอดคล้องกันกฎหมายใดกฎหมายหนึ่ง โครงการก็ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ฯ ได้ยืนยันว่า แผนการลงทุนต่างๆ ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และพร้อมเดินหน้าตามโครงการที่วางไว้
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การดำเนินงานในโครงการ “บลูเทค ซิตี้” ที่จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 3 พันไร่ ยังคงเดินหน้าตามแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับหน้าดิน เพื่อเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมเพื่อใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ที่จะเพิ่มขึ้น โดยโรงงานผลิตแบตเตอรี่ดังกล่าว เฟสแรกจะมีกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) มูลค่าลงทุน 4 พันล้านบาท จะแล้วเสร็จปลายปีนี้ และเริ่มผลิตในปี 2563
ทั้งนี้ บริษัทพร้อมต่อยอดโครงการโรงงานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น ในนินคมฯบลูเทค ซิตี้ ตามการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้ากำลังการผลิตแบตเตอรี่ไว้ที่ 5 กิกะวัตต์ ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ ตามมาในนิคมฯไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกันการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและสถานีชาร์จไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทสามารถขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าแล้ว กว่า 300 จุด จากเป้าทั้งสิ้น 1 พันจุดภายในปลายปีนี้ ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ จะเห็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ MINE Mobility ราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปี 2563 ไว้ที่ 5 พันคัน
นอกจากนี้แนวโน้มราคารถยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสถูกลง เนื่องจากผู้ประกอบการสนใจลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง ขณะเดียวกันการวิจัยและพัฒนามีมากขึ้น ทำให้คาดว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าราคาจะค่อยถูกลง