ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่23 มีนาคม 2559
+ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลง หลังจากสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานหรัฐฯ(API)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 531.8ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัว 4.3 ล้านบาร์เรลเช่นกัน ซึ่งปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.5 ล้านบาร์เรล
+ นักลงทุนและนักวิเคราะห์ได้ออกมาเตือนถึงผู้ที่เข้ามาทำกำไรในช่วงที่ราคาน้ำมับดิบปรับขึ้นมากกว่า 50%ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นนั้น เป็นผลมาจากแผนการคาดการณ์จากสมาชิกในกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อื่นๆ ว่าจะตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับเดียวกับเดือน ม.ค. 59 ที่ผ่ามา
+/- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทรงตัวจากความกังวลต่อการเดินทางในยุโรป หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย โดยการก่อการร้ายครั้งนี้เป็นการกระทำของขบวนการรัฐอิสลาม ซึ่งเป็นการระเบิดแบบพลีชีพที่สนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในช่วงเวลาเร่งด่วน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เจ้าหน้าของเบลเยียมได้ทำการจับกุมตัวนาย ซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยที่เป็นแกนนำก่อเหตุโจมตีที่กรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย. 58 ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ (RBOB) แต่อย่างไรก็ตามอุปสงค์ในภูมิภาคเอเซียยังคงอยู่ในระดับคงที่ โดยอุปสงค์จากประเทศอินโดนีเซียอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคเอเซียและทางด้านตะวันออกกลางยังคงอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ว่าโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ในเอเซียเหนือทำการปิดซ่อมบำรุง แต่มีการคาดการณ์ว่าหลังจากที่โรงกลั่นน้ำมันกลับมาดำเนินการอีกครั้ง จะมีการส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มมากขึ้น
ไทยออยล์คาดราคาการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ36-42เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรท์เคลื่อนไหวในกรอบ 38-44เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การตอบรับของตลาดต่อความคืบหน้าของการประชุมนัดพิเศษระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบในและนอกกลุ่มโอเปกที่จัดขึ้นในวันที่ 17 เม.ย.นี้ เพื่อหารือถึงการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับการผลิตในเดือน ม .ค. โดยมีผู้ผลิตน้ำมันดิบกว่า 15 ประเทศเข้าร่วมการประชุม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 73 ของก าลังการผลิตน้ำมันดิบของโลก
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงและกดดันราคาน้ำมันดิบน้อยลงหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับเดิม จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ทั้งปีนี้Fed คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพียงแค่ 2 ครั้งจากแผนเดิมที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (สิ้นสุด ณ วันที่ 11 มี.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 523.2 ล้านบาร์เรล